ปล่อยให้ “คู่แข่ง” สังเวียนเดียวกันอย่าง “สตาร์บัคส์” ชิมลางเปิดร้านกาแฟไดรฟ์–ทรู ที่พอร์โตชิโน คอมมูนิตี้มอลล์ย่านพระราม 2 มานาน วันนี้ร้านกาแฟสัญชาติไทยใต้บรรษัทพลังงานแห่งชาติ “คาเฟ่ อเมซอน”เดินเกมเชิงรุกเปิดให้บริการร้านกาแฟแบบไดรฟ์–ทรู บ้าง ซึ่งถือเป็น “รูปแบบ” ฟอร์แมตใหม่และประเดิมสาขาแรกที่ปั๊ม ปตท. ย่านถนนพระราม 2 ตั้งแต่กลางปี 2560 ที่ผ่านมา
สำหรับการเปิดให้บริการร้านกาแฟไดรฟ์–ทรู จะมีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ปกติของคาเฟ่ อเมซอนประมาณ 3 เท่า หรือพื้นที่โดยรวม 150 ตารางเมตร (ตร.ม.) การใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้นเพราะต้องรองรับรถที่เข้ามาจอดซื้อและรับสินค้าในคราวเดียวกันโดยผู้ซื้อไม่ต้องลงมาจากรถแต่อย่างใด ส่วนเวลาการเปิดให้บริการนั้นจะอิงตามเวลาเปิด–ปิดของสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม)
ทำพระราม 2 เดือด
จะเห็นว่าการเลือก “ทำเล” ของร้านคาเฟ่ อเมซอนไดรฟ์–ทรู เป็นถนนพระราม 2 เนื่องจากมีรถสัญจรไปมาสูงมากเพราะย่านดังกล่าวเป็นประตู่สู่เมืองท่องเที่ยวชะอำ หัวหิน และภาคใต้
ย่านนี้จึงมีทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ พอร์โตชิโนแล้ว กลุ่มเซ็นทรัล ก็มีทั้งศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระราม 2 และเซ็นทรัล มหาชัย กำลังเปิดให้บริการในวันที่ 23 พฤศจิกายน โดยด้านหน้าศูนย์ฯ ตั้งใจให้เป็นจุดแวะพักการเดินทาง นักเดินทาง นักท่องเที่ยว ดักตั้งแต่สมุทรสาครลงมา
สำหรับร้านอาหารและเครื่องดื่มประเภทไดรฟ์–ทรู ไม่ได้มีแค่ “กาแฟ” เท่านั้น เพราะในประเทศไทย แบรนด์นำร่องอันดับต้นๆ คือ เคเอฟซี แมคโดนัลด์ แต่สาขารูปแบบนี้ก็ยังไม่ได้ฮิตติดลมบนมากนักในประเทศไทย ขณะที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะสตาร์บัคส์ไดรฟ์–ทรูได้รับความนิยมสูงมากในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ปตท.มีเป้าหมายขยายสาขาร้านคาเฟ่ อเมซอนให้ครบ 3,000 สาขาภายใน 3 ปีจากนี้ จากปัจจุบันมีร้านเกือบ 1,900 สาขา และภายในสิ้นปี 2560 วางเป้าหมายจะเปิดให้ครบ 2,000 สาขา โดยปตท.ลงทุนเอง 10% และเป็นสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ 90% ขณะที่ปี 2559 ปตท.มีร้านคาเฟ่ อเมซอน 1,717 สาขา
ขณะที่การเปิดสาขาแต่ละปีเฉลี่ยอยู่ที่ 300 สาขา ครอบคลุมปั๊มน้ำมันปตท. ศูนย์การค้า โรงพยาบาล คอมมูนิตี้มอลล์ และสถานที่ชุมชนต่างๆ นอกจากการรุกเปิดสาขาในไทยแล้ว ปตท.ยังขยายร้านคาเฟ่ อเมซอนไปต่างประเทศด้วย ทั้ง กัมพูชา ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น ในรูปแบบแฟรนไชส์ และบุกตลาดต่างประเทศใหม่ๆ เช่น โอมาน โดยลงทุนร่วมกับบริษัทน้ำมันแห่งชาติประเทศโอมาน คือ บริษัท โอมาน ออยล์ จำกัด สำหรับการลงทุนสาขาใหม่ทั้งหมดในจำนวนดังกล่าวมีสาขาต่างประเทศประมาณ 100 สาขา
สแกนหน้าจ่ายเงินเริ่มปลายปีนี้
นอกจากนี้ ปตท.ยังเตรียมเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless society) ด้วยการนำระบบเฟซเพย์เข้ามาให้บริการในร้านด้วย ซึ่งผู้ใช้จะสแกนใบหน้าในการชำระเงินโดยไม่ต้องจ่ายเงินสด เอื้อให้ผู้ขายและผู้ใช้สะดวกสบายมากขึ้น เพราะไม่ต้องทอนเงิน โดยระบบเฟซเพย์คาดว่าจะนำมาใชได้ปลายปีนี้ ประเดิมทดลองใช้ที่ร้านคาเฟ่ อเมซอนสาขาสำนักงาน ปตท. จำนวน4 สาขา เพื่อเก็บข้อมูลนำมาวิเคราะห์และประเมินผลต่อไป
สำหรับต้นแบบระบบเฟซเพย์เริ่มใช้ครั้งแรกในไทยในโรงอาหารกระทรวงการคลัง ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้ เป็นการทดลองและศึกษาเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการประมวลผล หากประสบความสำเร็จอย่างดีจะขยายไปสู่การใช้งานในสถานที่อื่นๆ เพื่อรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0
อย่างไรก็ตาม ปตท.เคยระบุว่าปี 60 ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (นอนออยล์)อย่างร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอนจะมีรายได้เติบโต 30% จากปี 2559 ที่มีรายได้จากร้านคาเฟ่ อเมซอนถึง 8,000 ล้านบาท
ที่มา : mgronline.com/business/detail/9600000107598
