ผ่านไป 10 เดือนแรกของปี 2560 (มกราคม–ตุลาคม) เม็ดเงินโฆษณาซื้อสื่อทีวีลดลงกว่า 6 พันล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของของปี 2559 และเมื่อเจาะลึกรายได้ของทีวีช่องต่างๆ แล้ว พบว่า 9 ช่องมีรายได้เพิ่ม ส่วนอีก 15 ช่อง รวมทั้ง เบอร์ใหญ่อย่าง 3 และ 7 ก็มีรายได้ลดลง ส่วนกลุ่มรายได้เพิ่ม มีเวิร์คพอยท์สดใสที่สุด
รายงานจากสำนักนโยบายวิชาการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช. เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเม็ดเงินโฆษณาที่ใช้ในสื่อทีวีในกลุ่มทีวีดิจิทัล และฟรีทีวีเดิม ที่นีลเส็นสำรวจ พบว่า 10 เดือนที่ผ่านมา ช่วงเดือน ม.ค.-ต.ค. 2560 สถานีโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ ได้เม็ดเงินโฆษณาตามเรตการ์ด (อัตราค่าโฆษณาราคาเต็มก่อนหักส่วนลด) ไปทั้งหมด 51,997.10 ล้านบาท ขณะที่ปี 2559 ได้ 58,434.78 ล้านบาท หรือลดลง 6,437.68 ล้านบาท
10 เดือนแรกของ ปี 2560 กลุ่มฟรีทีวีเดิม คือช่อง 3 7 9 ที่ประมูลได้ใบอนุญาตช่องทีวีดิจิทัลด้วย และช่องสาธารณะคือช่อง 5 กับ 11 ได้เม็ดเงินโฆษณา รวม 33,921.61 ล้านบาท น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 6,885.79 ล้านบาท โดยปีที่แล้วได้ 40,807.40 ล้านบาท
ส่วนช่องทีวีดิจิทัลที่เหลือ 19 ช่อง ได้เม็ดเงิน 18,075.48 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ได้ 17,627.38 ล้านบาท หรือมากกว่า 448.1 ล้านบาท
สำหรับไทยพีบีเอส ทีวีสาธารณะไม่ได้ขายเวลาโฆษณา เพราะได้รับงบจากรายได้ภาษีสรรพาสามติในการบริหารช่อง
ถ้าพิจารณาเป็นรายช่อง ช่องที่ได้เม็ดเงินมากที่สุดในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ คือ ช่อง 3 มูลค่า 13,585.54 ล้านบาท อันดับสอง คือ ช่อง 7 ได้ 12,047.78 ล้านบาท ช่อง 9 เป็นอันดับสาม ได้ 4,559.78 ล้านบาท อันดับสี่ เป็นของเวิร์คพอยท์ 4,571.84 ล้านบาท และอันดับห้า เป็นของช่องวัน 2,946.76 ล้านบาท ซึ่ง 3 อันดับแรก คือ 3 7 และ 9 ได้เม็ดเงินลดลง ส่วนเวิร์คพอยท์และช่องวันได้เม็ดเงินเพิ่มขึ้น
โดยรวมในจำนวนทั้งหมด 24 ช่อง มี 15 ช่องที่รายได้ลดลง มีเพียง 9 ช่องที่รายได้เพิ่มขึ้น นอกจากช่องเวิร์คพอยท์และช่องวันแล้ว ยังมีช่องโมโน 29 ช่อง 8 ไทยรัฐทีวี ทรู4 ยู พีพีทีวี นาว 26 และช่องอมรินทร์