“วอยซ์ทีวี” เป็น 1 ใน 7 ช่องทีวีดิจิทัลที่ขอคืนใบอนุญาตและมีกำหนด “ลาจอ” หลังเที่ยงคืน 31 ส.ค. นี้ ย้อนดู 5 ปี ทีวีของตระกูล “ชินวัตร” โชว์รายได้ 384 ล้านบาท จากนี้ไปกลับสู่แพลตฟอร์ม “ทีวีดาวเทียม” และสื่อออนไลน์
จากข้อมูลของสำนักนโยบายและวิชาการกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช. ซึ่งจัดทำหนังสือ 5 ปี บนเส้นทางทีวีดิจิทัล : บทเรียนและการเปลี่ยนแปลง
สรุปข้อมูล “วอยซ์ทีวี” ว่าเริ่มต้นออกอากาศครั้งแรกผ่านโครงข่ายดาวเทียมไทยคม ตั้งแต่ปี 2552 จากนั้นประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ช่องข่าว มาด้วยมูลค่า 1,338 ล้านบาท เริ่มออกอากาช่องวอยซ์ทีวี หมายเลข 21 ในปี 2557 เนื้อหารายการหลักของช่องมีความชัดเจน เน้นข่าวการเมืองและรายการวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์การเมือง
ด้านรายได้ ปี 2557 อยู่ที่ 72 ล้านบาท ปี 2558 รายได้ 108 ล้านบาท ปี 2559 รายได้ 106 ล้านบาท ปี 2560 รายได้ 62 ล้านบาท และปี 2561 รายได้ 36 ล้านบาท รวม 5 ปี (2557 – 2561) ทำรายได้รวม 384 ล้านบาท
ส่วนอันดับความนิยม (เรตติ้ง) ปี 2557 วอยซ์ทีวี อยู่ในอันดับ 28 ท้ายสุดของตาราง เช่นเดียวกับปี 2558 มาในปี 2561 ช่วงสถานการณ์การเมืองเริ่มเข้มข้น จากการเตรียมเลือกตั้งในปี 2562 ทำให้เรตติ้งช่องวอยซ์ เริ่มได้รับความนิยมสูงขึ้นเช่นกัน โดยเรตติ้งเดือน ธ.ค. 2561 ขยับมาอยู่ที่อันดับ 18 แต่เรตติ้งเฉลี่ยปี 2561 อยู่อันดับ 20
คำสั่ง คสช. มาตรา 44 เปิดโอกาสให้ “ทีวีดิจิทัล” คืนใบอนุญาตและได้รับเงินชดเชย เนื่องจากใช้ใบอนุญาตไม่ครบอายุสัญญา 15 ปี โดย วอยซ์ทีวี ได้รับเงินชดเชย 378 ล้านบาท
ทิศทางของ วอยซ์ทีวี หลังคืนช่องทีวีดิจิทัล ยังคงทำช่องทีวีต่อไป โดยจะออกอากาศทีวีดาวเทียม และช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มทั้ง เว็บไซต์ voicetv รวมทั้งโซเชียล มีเดีย เฟซบุ๊ก ยูทูบ ไลน์ อินสตาแกรมและทวิตเตอร์.