แม้ “เบียร์สด” จะมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท ถือเป็นสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับตลาดเบียร์โดยรวมที่มีมูลค่าสูงถึง 107,000 ล้านบาท แต่ด้วยตัวเลขเติบโตถึง 2 หลัก ยิ่งเป็นช่วงเทศกาลส่งท้ายปี ที่ถือเป็นช่วงขายของเบียร์ด้วยแล้ว ทำให้ค่ายเบียร์ต้องคิดหาช่องทางขายใหม่ๆ ไม่จำกัดเฉพาะร้านอาหาร ผับ บาร์ สถานบันเทิง และเทศกาลลานเบียร์
ที่สร้างความฮือฮาไปก่อนหน้านี้ คือ ค่ายเบียร์ ลีโอ และช้าง ใช้วิธีตั้งตู้ขายเบียร์สดขายในร้านสะดวกซื้อ แต่สร้างความฮือฮาได้พักเดียว ก็โดนกระแสต่อต้านจนต้องล้มเลิกไป
คราวนี้มาถึงคิวของ “ไฮเนเก้น” แก้โจทย์ใหม่ ไม่พึ่งช่องทางขายที่ไหน แต่ใช้วิธี ดีลิเวอรี่”ส่งถึงบ้านลูกค้า ภายใต้แคมเปญ Heineken Open your celebration 2017” เรียกโปรเจกต์พิเศษนี้ว่า “Star Delivery Service” แทนที่จะขายเบียร์อย่างเดียว ยังพ่วงเอา เกรฮาวด์ คาเฟ่ พันธมิตรคู่ใจ เสิร์ฟเบียร์ไฮเนเก้นพร้อมกับแกล้มถึงบ้าน พร้อมกับอุปกรณ์ปาร์ตี้ถึงบ้าน ในรูปแบบปาร์ตี้ส่วนตัว (Private Party Provider)
แพ็กเกจขายเบียร์พ่วงอาหาร มี 3 ไซส์ 1.ขนาดกลาง (M) ราคา 6,500 บาท สำหรับ 8 – 10 คน 2.ขนาดใหญ่ (L) ราคา 8,900 บาท สำหรับ 10-12 คน และ 3.ขนาดใหญ่พิเศษ (XL) ราคา 10,500 บาท สำหรับ 15 คนขึ้นไป
ใช้รถที่ใช้ส่งเบียร์สดมี 3 คัน เป็นรถทรัก 1 คัน และจักรยานยนต์ 2 คัน ติดโลโก้ไฮเนเก้นเด่นชัด เรียกว่าสร้างแบรนด์ไปในตัว โดยเริ่มวันที่ 13 พ.ย. 60 – 31 ม.ค. 61 และส่งลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น เนื่องจากมีข้อจำกัดจากสาขาของร้านอาหาร รับออเดอร์ต่อวันทำได้เต็มที่ 30-50 ออเดอร์
ภัททภาณี เอกะหิตานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้นและสตรองโบว์ ในกลุ่มบริษัททีเอพี บอกว่า ไม่คาดหวัง “ยอดขาย” เพราะต้นทุนโดยรวมสูง และมีความเสี่ยงอุปกรณ์เบียร์สดที่นำไปเสิร์ฟลูกค้า แต่ต้องการเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ และสร้างการจดจำแบรนด์
ด้วยขายรูปแบบนี้ เปิดให้สั่งเบียร์พร้อมอาหารได้ตลอดตั้งแต่ 10.00-22.00 น. โดยไม่ติดข้อกำหนดที่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แค่ 2 ช่วง คือ11.00-14.00 กับ 17.00-24.00 ผู้บริหารระบุว่า ไม่ติดข้อกฎหมายแล้ว สร้างโอกาสในการดื่มเพิ่มขึ้น สอดรับกับเทรนด์ ดีลิเวอรี่” ที่กำลังได้รับความนิยมในเวลานี้ด้วย
งานนี้ต้องดูว่า กลยุทธ์ ดีลิเวอรี่”แก้โจทย์ช่องทางขายของ “ไฮเนเก้น” จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้ตลาดเบียร์สดได้แค่ไหน ต้องลุ้น!.