คนเราจะเปลี่ยนตัวเองอาจใช้เวลาไม่นานถ้าคิดจะเปลี่ยน แต่เมื่อเปลี่ยนแล้วสังคมจะยอมรับในจุดยืนใหม่ และภาพจำใหม่เมื่อไหร่นั้น อาจใช้เวลานาน
เหมือนอย่าง หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ที่มีภาพลักษณ์ ถูกจดจำตั้งแต่ช่วงเข้าสู่เส้นทางนายแบบ เป็นนักแสดง ว่าเป็นแบดบอย จนถึงขั้นเพลย์บอยนานนับสิบปี เพราะชื่อเสียงความเจ้าชู้ขั้นเทพ ในวันนี้เขากำลังพิสูจน์ในเส้นทางอาชีพใหม่
ปัจจุบันหนุ่มแต่งงาน มีครอบครัว เป็นพ่อของมายู เป็นพิธีกรรายการวาไรตี้โชว์ และกำลังยึดเวทีรายการข่าวในบทบาทพิธีกรรายการทอล์กข่าว ที่ต้องอาศัยความน่าเชื่อถือเป็นต้นทุนในการทำงาน นอกเหนือจากนี้เขาไม่ใช่แค่รับจ้างจัดรายการ แต่ยังเป็นเจ้าของธุรกิจ ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของกลุ่มบริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ที่มีรายการหลากหลายในผังรายการของกลุ่มช่อง 3
ในกลุ่มรายการข่าวที่หนุ่มกำลังพิสูจน์ความสามารถของตัวเองอีกขั้น คือพิธีกรรายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 3 SD วันจันทร์–ศุกร์ และต่อยอดออกมาจัดรายการ “โหนกระแส แต่เช้า” ในวันอาทิตย์ทางช่อง 3 HD แล้ว
ขณะที่รายการรายการวาไรตี้ เกมโชว์ ได้รับผลตอบรับดีพอสมควร อย่างรายการ “ดาวินชี่ เด็ก” ที่แตกแขนงออกมาจาก “ดาวินชี่” ที่มีชาคริต แย้มนาม เป็นพิธีกร
นอกจากนี้ยังเป็นพิธีกรรายการ “ตีท้ายครัว” ทางช่อง 3 HD และเป็นพิธีกรข้ามช่องไปที่ไทยรัฐทีวีกับรายการ “ข่าวใส่ไข่”
หนุ่ม กรรชัย หรือชื่อจริง “ภูดิท กำเนิดพลอย” เป็นเจ้าของบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด และบริษัท อะมะเตะระสุ จำกัด โดยบริษัท ดีคืนดีวัน ร่วมทุนกับ “เมย์” ปาทิดา กำเนิดพลอย หรือ “เมย์ เฟื่องอารมณ์” ภรรยานักแสดงของเขา เพื่อผลิตละคร และรายการวาไรตี้ เช่น ละครช่อง 8 อาร์เอส ที่เมย์ เป็นผู้จัดและผลิตรายการโหนกระแส ช่อง 3
ส่วนบริษัท อะมะเตะระสุ ที่แปลว่า เทพีแห่งแสงสว่างของญี่ปุ่น เป็นบริษัทที่ร่วมทุนกับเพื่อนสนิทนักแสดงด้วยกันอย่าง จอนนี่ แอนโฟเน่ ผู้ถือหุ้น และร่วมก่อตั้งบริษัทเซิร์ซ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ โดยบริษัท อะมะเตะระสุ ผลิตรายการเกมโชว์ “ดาวินชี่” และ ”ดาวินชี่เด็ก”
***ปูทางจัดรายการข่าวฮาร์ดทอล์ก
“ผมคิดว่า ผมเป็นคนที่อยู่ในวงการทีวี ที่ได้ทำงานพิธีกรทุกอย่างมาเกือบครบหมดแล้ว ตั้งแต่ พิธีกรรายการเด็ก รายการผี ราบการเกมโชว์ รายการทอล์กโชว์ รายการบันเทิง และรายการข่าว แต่ก็พร้อมนะหากมีงานใหม่ๆ เข้ามาอีก“ หนุ่มบอกเล่าถึงตัวเองจุดยืนปัจจุบัน
แต่โฟกัสของเขาเวลานี้ คือพิธีกรรายการทอล์กข่าว ที่หนุ่มบอกว่า เพราะพื้นฐานความชอบใน ”ความเสือก” ในเรื่องราวต่างๆ ในความเป็นไปในปรากฏการณ์ของสังคม
ผมชอบฟังคนพูด ใครพูดอะไรถึงใคร ผมก็จะพยายามเข้าไปฟังด้วย แบบไทยมุง คือประเภทสอดรู้สอดเห็นนั่นแหละ จนเป็นพื้นฐานมาทำให้ผมเปลี่ยนแปลงบทบาทมาเป็นพิธีกร
เมื่อมีจังหวะโอกาสเปิดให้เขาได้เริ่มเข้าสู่เส้นทางพิธีกรข่าว จึงไม่ลังเลที่จะวิ่งเข้ามา
หนุ่มเริ่มบทบาทในฐานะพิธีกรข่าวครั้งแรกเมื่อ 10 ปีก่อน กับรายการ “เมืองไทยวาไรตี้” ทางช่อง 5 ที่อาร์เอสรับผลิต เป็นรายการเล่าข่าวเกี่ยวกับเนื้อหาทางสังคมทั่วไป จังหวะนั้นเป็นความบังเอิญที่ลงตัว เพราะไปทำหน้าที่แทน “ศรราม เทพพิทักษ์” ที่ติดคิวการแสดง และต่อมาได้จัดรายการคู่กับ “ฮาร์ท” สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล รายการนี้ออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของช่อง ที่ต้องแข่งกับละครโดยตรง
ระหว่างทางก็ยังรับงานเป็นพิธีกรหลากหลายตั้งแต่วาไรตี้บันเทิงจนถึงรายการผี อย่างรายการ ”ดาวล้านดวง” ช่อง 3 ที่ทำคู่กับ ช่อผกา วิริยานนท์ ที่เขาเป็นคนเริ่มต้นคำพูดที่เลิศหรูอลังการดาวล้านดวง ทำมาได้ 5 ปี รายการก็ปิดตัวลงเพราะช่องปรับผังรายการ หลังจากนั้นก็เป็นพิธีกร รายการผี ”มิติพิศวง” ทางช่อง 7 ที่ร่วมกับ “ป๋อง” กพล ทองพลับ
กลับเข้ามาสู่กลิ่นอายรายการข่าวอีกครั้งกับ รายการบอกเล่าเก้าสิบ ทางช่อง 9 ที่จัดรายการเข้าคู่กับคนที่มีลักษณะความอยากรู้อยากเห็นเหมือนกันอย่าง ”มดดำ” คชาภา ตันเจริญ ที่เล่าเรื่องราวที่น่าสนใจทั้งหมด
จนก้าวเข้ามาสู่รายการประเภททอล์กข่าว อย่างรายการ ”ปากโป้ง” ทางช่อง 8 ที่นำเสนอเรื่องราวทางสังคม ที่เริ่มต้นจากพิธีกรคู่ และสุดท้ายลงตัวที่หนุ่มโชว์เดี่ยว แนวฮาร์ดทอล์ก
“สาเหตุที่มาจัดรายการคนเดียว เพราะรูปแบบรายการที่เป็นการซักถามผู้ร่วมรายการ ผมพบว่าการสัมภาษณ์โดยพิธีกรหลายคน จะทำให้การสัมภาษณ์สะดุด เพราะอาจจะมีการถามในมุมมองประเด็นที่แตกต่างกันไปในสถานการณ์จริง เมื่อรูปแบบรายการเป็นแบบฮาร์ดทอล์ก ก็จำเป็นต้องมีพิธีกรคนเดียว”
ปี 2553 หนุ่มกับเมย์ตัดสินใจตั้งบริษัทของตัวเองขึ้นมา เพื่อรับงานในวงการ แทนที่จะเป็นเพียงแค่พิธีกรรับจ้าง โดยตอนแรกเลือกตั้งชื่อว่าบริษัทดีวันดีคืน แต่พอจะจดทะเบียนบริษัท เจ้าหน้าที่บอกแต่มีคนใช้ชื่อนี้แล้ว มารู้ทีหลังว่าผู้ที่จดทะเบียนไปแล้ว คือ ”พี่ตูน บอดี้สแลม” นักร้อง ”ฮีโร่” ขวัญใจชาวไทยนั่นเอง จึงสลับเป็นชื่อดีคืนดีวันแทน
เมื่อคิดว่าตัวเองต้องถึงเวลาแล้วที่ชัดเจนกับบทบาทหน้าที่การงานเสียที หนุ่มเลือกที่จะเลิกบทบาทเป็นนักแสดง เพื่อมาเป็นพิธีกรอย่างเต็มตัว ขณะที่การถ่ายทำละครกินเวลามากเกินไป และเพื่อให้คนได้จดจำชัดเจนว่าเขามีบทบาทเป็นพิธีกรโดยเฉพาะรายการข่าวที่เขาอยากเดินหน้าในเส้นทางนี้
***ความน่าเชื่อถือและอดีตที่พร้อมถูกพิสูจน์
แต่ในสังเวียนรายการทอล์กข่าวนั้น แต่ละช่องต่างนำเสนอพิธีกรที่มาจากคนข่าว เพื่อความน่าเชื่อถือ แต่หนุ่มคือนักแสดง
“พิธีกรข่าว จำเป็นต้องมาจากนักข่าวหรือ ถึงผมไม่ได้มาจากตรงนั้น แต่ผมก็เชื่อว่าผมทำได้ โดยเป็นมุมมองของชาวบ้านที่มาเป็นพิธีกร ที่ต้องการอยากช่วยเขา รู้ว่าเขาต้องการอะไร ไม่ใช่แต่ต้องการข่าวอย่างเดียว” นี่เป็นคำชี้แจงในเป้าหมายของหนุ่ม ที่รู้ว่าตัวเองจุดแข็งจุดอ่อนคืออะไร และเวทีนี้มีที่สำหรับเขาแน่นอน
ดังนั้นเมื่ออยู่ในบทบาทของพิธีกรรายการทอล์กข่าวอย่าง “โหนกระแส” เขาก็ตั้งใจทำให้เป็นรายการเน้นมุมมองในแง่มนุษยธรรม ช่วยหาทางออกให้กับสังคมด้วย เช่น กรณีที่เขาเชิญ เก่ง ลายพราง และ โป้ อานนท์ ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน และต่างฝ่ายต่างมีกองเชียร์ แฟนคลับของตัวเองเหนียวแน่น เทปนั้นเป็นเทปที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักมาก ว่าเชิญพวกขยะสังคมมาออกรายการได้อย่างไร
คำอธิบายของหนุ่ม คือ เทปนั้นเขาทำเพื่อให้สังคมมีความสงบสุข เพราะทำให้ทั้งสองฝ่ายมาเคลียร์กัน เพราะไม่เช่นนั้นอาจทำให้แฟนคลับทั้งสองฝ่ายตีกันอีกได้
ผมไม่ได้ทำรายการเพื่อความสะใจ เอาคนมาทะเลาะกัน โดยที่เขาอาจจะออกไปฆ่ากัน แต่เมื่อเขาเข้าใจกันแล้ว สังคมก็จะไม่มีปัญหาอีก
การเข้ามาในวงการพิธีกรรายการทอล์กข่าว ทำให้เขาได้เรียนรู้ประสบการณ์มากมาย ตั้งแต่การแย่งชิงตัวแหล่งข่าว เพื่อไปออกรายการ จนเกิดดราม่ามากมาย
โจทย์สำหรับหนุ่มยังมีอีก ที่ไม่ง่ายเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ เพราะภาพจำเดิมๆ ที่อาจทำให้ผู้ชมไม่ชอบเขา
หนุ่มย้ำว่านั่นเป็นเพียงเรื่องในอดีต ที่ไม่เกี่ยวกับปัจจุบัน
“จะให้ผมทำยังไง ในเมื่อส่ิงที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผมไม่รู้หรอกว่าผมต้องมายืนอยู่จุดนี้ จุดที่ทำให้คนต้องเชื่อในตัวผม ถ้าผมรู้ 10 ปีที่แล้วผมจะไม่ทำแบบนั้น แต่ผมย้อนเวลากลับไปไม่ได้ สิ่งที่ผมต้องทำผมก็ต้องเดินหน้าต่อไป สิ่งที่คุณต้องทำคือ 1.ต้องไว้ใจในตัวผมมาก กับ 2.ก็ไม่ต้องดูรายการเลย จะได้ไม่ต้องมานั่งวิจารณ์ ไม่ได้พูดเพราะก้าวร้าว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีขั้นมีตอนมีกรอบ ผมอาจเคยเป็นคนเจ้าชู้ เป็นคนเกเร เป็นแบดบอย แล้วผิดเหรอที่วันนี้ผมอยากทำรายการสักรายการหนึ่งที่ช่วยเหลือสังคม หรือช่วยคนที่ตกทุกข์ได้ยาก เพราะฉะนั้นผมรู้สึกว่าอย่าว่าผมเลย หรือจะว่า หรือจะด่า อย่าดูรายการผมเลย”
“หนุ่ม กรรชัย” เปลี่ยนอดีตไม่ได้ ขอเดินหน้าในสนามข่าวฮาร์ดทอล์ก ถ้าคุณรับไม่ได้ไม่ต้องมาดู