ช่วงเวลาข่าวเช้า เคยเป็นรายการที่ทำรายได้สูงสุดของช่อง 3 ตีคู่มากับละคร กลายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ผู้บริหารช่อง 3 ต้องงัดกลยุทธ์ต่างๆ หาทางฟื้นความนิยม เพิ่มเรตติ้ง และที่สำคัญทำรายได้กลับคืนมา นับตั้งแต่การลาจอไปของ พิธีกรนักเล่าข่าว “สรยุทธ สุทัศนจินดา” ตั้งแต่ปี 2559
ช่วงเวลาข่าวเช้านี้เป็นช่วงเวลาของ บีอีซี เทโร และบริษัทชัดถ้อยชัดคำ ของสรยุทธ์ ที่ได้เวลาออกอากาศมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2546 เมื่อสรยุทธ์ต้องอำลาจอไป จึงมีการปรับเปลี่ยนพิธีกรข่าวมาแล้วหลายราย จนมาลงตัวที่ ไก่ ภาษิต และ ไบรท์ พิชญทัฬห์ เป็น 2 พิธีกรหลัก แต่เรตติ้งรายการก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไรนัก
ทำให้ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จึงมีการขยับเวลาออกอากาศให้เช้าขึ้นครึ่งชั่วโมง จากเดิมเริ่มออกอากาศเวลา 06.00น.-08.30 น. เปลี่ยนมาออกอากาศ 05.30–08.00 น. โดยยังออกอากาศ 2.30 ชั่วโมงต่อวันเหมือนเดิม เพื่อเปิดทาง “ละครเช้า” มาออกอากาศ ตั้งแต่เวลา 08.00-09.30 น. เพื่อดึงเรตติ้งให้กับช่อง โดยเฉพาะคนดูที่เป็นกลุ่มแม่บ้าน ซึ่งอยู่ในช่วง “ละครดังข้ามเวลา” โดยนำละครดังในอดีตเคยทำเรตติ้งสูงสุดมาออกอากาศ ปรากฏว่าได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่สำหรับ “ข่าวเช้า” เอง กลับได้รับผลกระทบ ทำให้เรตติ้งกลับยิ่งแย่ลง จนไปแพ้รายการข่าวเช้าช่อง 8 มาได้สักพัก
เนื่องจากข่าวเช้านั้น ช่อง 3 ต้องเจอศึกจากช่องคู่แข่ง ทั้งช่อง 7, ช่อง 8 , เวิร์คพอยท์ , ช่องวัน และยังมาเจอกับ ช่อง 3SD ช่อง 28 ในเครือเดียวกัน จาก “รายการตีข่าวเช้า” ที่ผลิตโดยกลุ่มบริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กำลังสร้างความนิยม เป็นที่รู้จัก ได้รับความนิยมขึ้นมาเรื่อยๆ
ช่อง 7, ช่อง 8 , เวิร์คพอยท์ และช่องวัน ล้วนแยกรายการข่าวช่วงเวลา 05.00-06.00 น. ออกมาจากช่วงเวลา 06.00-08.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีผู้ชมติดตามสูงสุด สร้างรายได้สูงสุดของช่วงเวลาข่าวเช้า
ช่อง 7 แยกออกมาถึง 2 รายการคือ เช้านี้ที่หมอชิต ผลิตโดยมีเดีย สตูดิโอ บริษัทลูกของช่อง 7 และรายการ สนามข่าว 7 สี ที่ผลิตโดยฝ่ายข่าวช่อง 7 เอง
ในขณะที่ช่อง 8 แยกเป็น 2 รายการคือ คุยข่าวเช้าช่อง 8 รับอรุณ และคุยข่าวเช้าช่อง 8 , ส่วนเวิร์คพอยท์ ก็แยกเป็น ตลาดข่าว และข่าวเวิร์คพอยท์ 06.00 น. แม้กระทั่งช่องวัน ยังมี 2 รายการคือ ข่าวเช้าตรู่ช่องวัน และข่าวเช้าช่องวัน
ช่องที่แยกรายการข่าวเช้าออกมานั้น ทำให้รายการข่าวหลักในช่วงเวลา 06.00 น.เป็นต้นไปได้เรตติ้งดีขึ้นทุกรายการ
ทำเอาอดีตเจ้าของพื้นที่ในช่วงเวลาข่าวอย่างช่อง 3 ต้องประกาศ แยกช่วงเวลาข่าวเช้า รายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ออกเป็น 2 ช่วงเวลา เวลา 05.30-06.00 น.เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง เป็นการสรุปข่าวเด่นในหน้าหนังสือพิมพ์ และเวลา 06.00-08.00 น. เรื่องเล่าเช้านี้ เป็นการคุยเล่าข่าวตามสไตล์ถนัด หวังกระชากเรตติ้งช่วงเวลาข่าวเช้าของช่อง 3 ให้กลับฟื้นคืนมาอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 30 ก.ค. เป็นต้นมา
ผลของการออกอากาศไป 2 วันจากการแยกช่วงเวลานั้น ปรากฏว่า วันแรก 30 กรกฎาคม เรตติ้ง เรื่องเล่าเช้านี้ ลดลงจาก วันที่ 27 กรกฎาคม เป็นเป็นวันสุดท้ายก่อนแยกช่วงเวลา จาก 0.707 มาอยู่ที่ 0.811 ในขณะที่ช่วงเวลาที่แยกออกไป “เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง” เรตติ้งอยู่ที่ 0.283 โดยที่ทั้ง 2 ช่วงเวลายังตามหลังรายการข่าวของช่อง 7 และช่อง 8 ชัดเจน
แต่ในวันที่ 31 กรกฎาคม ที่เป็นวันที่ 2 ของการแยกผัง ทั้งเรื่องเล่าหน้าหนึ่ง และเรื่องเล่าเช้านี้ เรตติ้งกระเตื้องขึ้นมาทันที เรื่องเล่าเช้านี้ เรตติ้งอยู่ที่ 0.944 ขึ้นนำข่าวเช้าช่อง 8 ที่ได้เรตติ้ง 0.799 แต่รายการช่วงแรกก่อน 6 โมงเช้า เรตติ้งเพิ่มขึ้นมา แต่ยังตามหลังช่อง 8 อยู่ แต่ทั้งหมดนี้เรตติ้งยังเป็นรองรายการข่าวเช้าของช่อง 7 ช่วงหลัง 6 โมงเช้า ทั้ง 2 รายการ คือ เช้านี้ที่หมอชิต และสนามข่าว 7 สี
ส่วนวันที 1 สิงหาคม เรตติ้งเรื่องเล่าเช้านี้ ขยับลง 0.939 แซงช่อง 8 ทำเรตติ้ง 0.721 แต่ยังแพ้ช่อง 7 ทั้ง 2 รายการ
อย่างไรก็ตาม ผลจากการเปลี่ยนแปลงแค่ 3 วันแรก ก็ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า ในระยะยาวจะเปรี้ยง หรือแป้ก เนื่องจากการแข่งขันข่าวเช้ามีสูงมาก ในบรรดา 10 ช่องอันดับแรกของทีวีดิจิทัล ล้วนให้ความสำคัญกับช่วงนี้เช่นกัน โดยเฉพาะช่อง 3 SD ช่อง 28 ในกลุ่มช่อง 3 เอง ที่รายการข่าวเช้าเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน.