สำนักข่าวบลูมเบิร์กคาด ยูทูป (YouTube) เตรียมเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งเพลงแบบสมัครสมาชิกตัวใหม่แล้วในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งจะทำให้ตลาดสตรีมมิ่งเพลงแข่งกันดุเดือดมากขึ้น เพราะจะมียูทูปเข้ามาเป็นคู่แข่งคนสำคัญของบริการอย่าง สปอติฟาย (Spotify) และแอปเปิลมิวสิค (Apple Music) นั่นเอง
โดยรายงานชิ้นนี้ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กอ้างว่ามาจากแหล่งข่าววงในของยูทูป ที่ตั้งใจจะส่งบริการใหม่ลงมาเป็นคู่แข่งกับสปอติฟายและแอปเปิล ส่วนชื่อที่เรียกกันภายในคือ รีมิกซ์ (Remix)
อย่างไรก็ดี คงต้องบอกว่าเป็นเรื่องซับซ้อนอยู่สักหน่อย เนื่องจากยูทูปเองนั้น หากย้อนประวัติไปดี ๆ ก็จะพบว่า เคยเปิดตัวบริการที่ชื่อว่า ยูทูปมิวสิคคีย์ (YouTube Music Key) เมื่อปี 2014 โดยในยุคนั้น คิดค่าบริการที่ 9.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน และเปิดโอกาสให้ผู้ที่สมัครสมาชิกสามารถเข้าใช้บริการกูเกิลเพลย์มิวสิค (Google Play Music) ที่มีเพลงมากกว่า 30 ล้านเพลงได้ รวมถึงสามารถอัปโหลดเพลงของตัวเองขึ้นไปได้ด้วย
นอกจากนั้น ยูทูปก็ยังมีบริการอย่าง ยูทูปเรด (YouTube Red) ซึ่งเป็นบริการแบบจ่ายเงินเพื่อแลกกับการไม่ต้องรับชมโฆษณาอยู่แล้ว การจะเปิดตัวบริการสตรีมมิ่งออกมาใหม่อีกหนึ่งตัวจึงเป็นกลยุทธ์ที่แปลกมากทีเดียว
คำตอบที่พอจะเป็นไปได้คือ เพราะยูทูปมิวสิคคีย์นั้นเปิดตัวออกมาผิดที่ผิดเวลาไป ประกอบกับตลาดสตรีมมิ่งเพลงในยุคนั้นยังไม่ถือว่าเกิดได้อย่างแท้จริง แต่ในยุคนี้ที่ตลาดมีความท้าทายมากขึ้นแล้ว แต่การจะนำบริการเก่าที่ไม่ประสบความสำเร็จมาปัดฝุ่นก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี บทสรุปจึงออกมาที่การสร้างโปรดักซ์ใหม่เสียเลย แถมยังถือเป็นการท้าทายคู่ต่อสู้กันตรง ๆ อีกด้วย
ปัญหาของยูทูปมีเพียงข้อเดียว นั่นคือ การไม่สามารถโน้มน้าวใจผู้บริโภคให้จ่ายเงินสมัครสมาชิกได้ดีนัก เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
สำหรับความเคลื่อนไหวของยูทูปในปีที่ผ่านมานั้นพบว่า ได้มีการว่าจ้างอดีตผู้บริหารของวอร์เนอร์มิวสิค (Warner Music) อย่าง Lyor Cohen เข้ามาเพื่อช่วยดูแลธุรกิจเพลงในต่างแดน ซึ่ง Cohen ได้ประกาศแผนที่จะเปิดตัวบริการแบบจ่ายเงินตัวใหม่ออกมา ส่วนที่กูเกิลก็มีการส่งทีมงานจำนวนมากจากกูเกิลเพลย์มิวสิคเข้ามายังยูทูปเมื่อต้นปีด้วย
อย่างไรก็ดี โกลแมน แซคส์ (Goldman Sachs) ได้ออกมาคาดการณ์ไว้ในรายงานเรื่อง Music in the Air ว่า มูลค่าตลาดของธุรกิจสตรีมมิ่งเพลงนั้นจะสูงถึง 28,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีภายในปี 2030 และกูเกิลจะครองส่วนแบ่งตลาดชิ้นใหญ่ได้เสียด้วย ซึ่งตัวเลขคาดการณ์นั้นอาจเกี่ยวข้องกับบริการสตรีมมิ่งเพลงตัวใหม่ที่มีข่าวว่ากูเกิลจะปล่อยออกมานี้ก็เป็นได้.
ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9600000124053