เซเลบริตี้ ดารา นักร้อง นักกีฬา ที่มีชื่อเสียง ตามแนว กลยุทธ์ Influencer Marketing อาจไม่เพียงพอแล้วในการโปรโมทสินค้า ในยุคที่ “แบรนด์”ต้องบริหารงบโฆษณาให้คุ้มค่า และที่สำคัญผู้บริโภคในยุคนี้คนเข้าถึงโซเชียลมีเดีย จนมีข้อมูลตามทันแบรนด์ทุกมิติ
คำตอบที่มาแรงในเวลานี้ คือ ต้องมีการบริหารจัดการให้อินฟลูเอนเซอร์ สามารถกลายเป็น KOL หรือ Key Opinion Leader ให้ได้ นับเป็นขั้นกว่าของการสร้าง “อิทธิพล” ที่จะมีต่อผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อสินค้าได้ ซึ่งที่ต่างประเทศได้ใช้วิธีการนี้อย่างแพร่หลาย
งานนี้ บริษัท เค โอ แอล แมนเนจเมนท์ จำกัด จึงขอปักธงใช้ชื่อนี้ ประกาศพร้อมให้บริการบรรดาสินค้าแบรนด์ต่าง ๆ และคนที่อยากเป็น เคโอแอล หรือที่เป็นอยู่แล้ว ทั้งเซเลบฯ คนดังกลุ่มต่าง ๆ หรือคนไม่ดังมาก แต่พูดแล้วคนเชื่อและซื้อตามที่บอก ให้เข้ามาสังกัด เพื่อร่วมงานตามเทรนด์นี่
บริษัท เค โอ แอล แมนเนจเมนท์ จึงลงตัวระหว่าง ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ซูเปอร์สตาร์ ที่มีดารา คนดัง มากคอนเนคชั่น กับ อาลี ซีอานี ผู้บริหารนิตยสารดัง L’Officiel ที่มีประสบการณ์การบริหารงานกับอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้บริการแบรนด์ต่าง ๆ มาแล้ว 4-5 ปี โดยชมพู่ และอาลี เคยร่วมงานกันมาตั้งแต่งานแฟชั่นวีคส์และแคมเปญลอรีอัล ที่เมืองคานส์
อาลี บอกว่า ธุรกิจ เคโอแอล มีการเติบโตมากในเกาหลี และจีน แต่ยังไม่แพร่หลายในไทย บริษัทจึงหวังว่าจะสร้างการตลาดแนวใหม่ในไทยได้ ด้วยยอดรายได้ปีหน้าคาดว่าจะทำได้ 200 ล้านบาท จากยอดโฆษณาสื่อออนไลน์ อินฟลูเอนเซอร์ ที่มีประมาณ 1,730 ล้านบาท ส่วนใหญ่ผ่านยูทูป อิสตาแกรม และเฟซบุ๊ก
***ตัวจริง “เคโอแอล” ทำให้เชื่อและซื้อ
ในยุคที่ผู้บริโภคเข้าถึง และรู้ทัน ที่อินฟลูเอนเซอร์แบบเดิม ๆ น่าจะต้องทบทวน เช่น การรีวิว หรือ ถ่ายรูปถือพรีเซนต์สินค้านั้น โดยไม่ได้เกิดจากการใช้จริง ทำให้ที่ผ่านมากลยุทธ์การใช้อินฟลูเอนเซอร์แบบเดิมไม่ได้ผล โดยวัดจากยอดของการเข้าถึง และ การปฏิสัมพันธ์แต่ละโพสต์ในโซเชียลมีเดียที่ไม่สูงนัก
ชมพู่ ยกตัวอย่างประสบการณ์ตรงว่า บางครั้งเมื่อโพสต์เกี่ยวสินค้าที่แบรนด์ต้องการเพียงฝ่ายเดียว ยอดกดไลค์ได้ไม่มาก แต่บางโพสต์ที่แม้ภาพจะเบลอ แต่ มีความ “เรียล” กว่า ก็ได้ยอดไลค์จำนวนมาก และพื้นฐานอย่างหนึ่งคือ หากเคโอแอลต้องพรีเซนต์สินค้าใดสินค้าหนึ่ง คนนั้นก็ต้องชอบหรือใช้สินค้านั้น บอกเล่าทางโซเชียลมีเดียด้วยตัวเอง
เคโอแอลของบริษัทขณะนี้ มี กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ , แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ , มินต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง ,หลุยส์ สก๊อต, แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด, พลอย ชวพร เลาหพงศ์ชนะ, ก็อต จิรายุ ตันตระกูล และกำลังจะมีนักฟุตบอล โดยมองว่า จะเป็นเคโอแอลที่เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย
อาลี กล่าวว่านอกจากนี้เคโอแอลอาจไม่ใช่คนดังมากก็ได้ มีคนตามจำนวนไม่มาก แต่พูดหรือนำความคิดของสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการได้ ซึ่งหน้าที่ของบริษัทคือการร่วมสร้างคอนเทนท์ที่เหมาะสมในการสื่อสาร
จะเห็นได้ว่า เคโอแอลในสังกัดขณะนี้ เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ ส่งผลต่อความคิดของผู้บริโภค ผ่านวิธีการสื่อสารที่แบรนด์ต้องการ ที่ตอบโจทย์สินค้าตามไลฟ์สไตล์ของเคโอแดล คือ กลุ่มบันเทิง ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น สุขภาพ และธุรกิจ โดยย้ำได้ว่าเป็นตัวจริง ทำจริงในแต่ละไลฟ์สไตล์นั้น ไม่มีการสร้างภาพลวงว่าเป็น เพียงเพื่อสินค้าเท่านั้น
ทั้งนี้รายได้ของคนที่มาเป็นเคโอแอลนั้น ทางบริษัทก็รับจากแบรนด์ และถ้ามีผู้จัดการส่วนตัว ก็จ่ายผู้จัดการ ซึ่งขึ้นกับดาราคนนั้นในการตกลงกับผู้จัดการ โดยการรับงานนั้นไม่ได้ผูกมัดว่าต้องรับจากบริษัทเคโอแอลเท่านั้น
อาลี กล่าวว่าจุดเด่นของเคโอแอล คือคุยกับแบรนด์มานาน รู้ภาษาของแบรนด์ รู้ว่าแบรนด์ต้องการอะไร และรู้ว่าต้องสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายผ่านโซเชียลมีเดียอย่างไร
แม้ความเชี่ยวชาญนี้จะมีกลุ่มดิจิตอลเอเจนซี่ ทำอยู่ แต่สิ่งที่บริษัทเคโอแอลมีจุดแข็งกว่าคือการสร้างคอนเทนท์ และประสบการณ์ของชมพู่ในการถ่ายทอด และเข้าใจนักแสดง ดารา รู้ว่าต้องสื่อสารจากบริษัทถึงพวกเขาอย่างไร และวิธีการท่ีชมพู่ใช้โซเชียลมีเดีย ที่ประสบความสำเร็จ
**ธุรกิจซับซ้อน แบรนด์ระวังใช้เงิน ผู้บริโภครู้ทัน
ในยุคที่ผู้คนเข้าถึงข้อมูล และพลังของโซเชียลมีเดีย ทำให้ผู้บริโภครู้ทัน และรู้ได้ทันทีหากแบรนด์หลอกลวง นั่นคือเหตุผลที่ “อาลี” สรุปว่าได้ว่านี่คือโอกาสทางธุรกิจของเคโอแอล ที่คาดว่าปีหน้าปีหน้าจะทำรายได้ถึง 200 ล้านบาท จากปัจจุบันมีเคโอแอลในสังกัดแล้ว 20 คน และปีหน้าจะเพิ่มขึ้น 1-2 คนแน่นอน
การที่แบรนด์ต้องการใช้เงินคุ้มค่ามากขึ้น จึงไม่ได้คิดเพียงแค่ว่าลงโฆษณาในสื่อต่าง ๆ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเห็นโฆษณา แต่ 90 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของสินค้าต้องการได้ยอดขาย ซึ่งเคโอแอลจะทำให้เกิดยอดขายได้มากกว่า เพราะการวางกลยุทธ์การเลือกเคโอแอลที่ถูกคน และการวางแผนการสื่อสารทางโซเชียลมีเดียที่ดี
“วรวิทย์ ศิริพากย์“ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปุริ จำกัด เจ้าของแบรนด์ปัญญ์ปุริ กล่าวเคโอแอลเป็นกลยุทธ์ที่ใช้กันได้ผล แบรนด์ปัญญ์ปุริก็มีการใช้ในการทำตลาดต่างประเทศ
ทุกธุรกิจขณะนี้ต้องใช้งบให้คุ้มค่า สื่อมีความเปลี่ยนแปลง ธุรกิจมีการปรับเปลี่ยนการใช้งบ โฆษณาในสื่อเดิม จึงไม่ใช่คำตอบเดียวในเวลานี้ แต่การใช้งบที่คุ้มค่าและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ คือคำตอบที่ใช่ที่สุดในการทำธุรกิจปัจจุบัน
การวัดผลทำได้หลายรูปแบบว่า เคโอแอลคนนั้น ๆ ให้ผลตามเป้าหมายหรือไม่ เช่น ระหว่างการพรีเซนต์สินค้า เคโอแอลแจกโค้ดหรือรหัสส่วนลดเพื่อให้แฟนคลับลองไปซื้อหรือใช้บริการสินค้านั้น ๆ ทางแบรนด์ก็จะวัดได้ว่าโค้ดนั้นมาจากเคโอแอลคนไหน
ความลงตัวที่โซเชียลมีเดียมีเครื่องมือวัดผลได้ง่ายขึ้น ทำให้การทำตลาดต้องละเอียดและเข้าใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยพื้นฐานจากความเชื่อถือ จากคนที่น่าเชื่อถือ ผู้บริโภควางใจ เมื่อมาบอกว่าอะไรดี อะไรน่าซื้อ น่าใช้ เวลานี้ “เคโอแอล” จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่กำลังมาแรง.