“พีพีทีวี” สร้างจุดขายใหม่เวิลด์คลาสทีวี แก้เกมเรตติ้งหลุด ท็อป 10 เวิร์คพอยท์ดึงหนังอินเดียเสริม อาร์เอส เกมเรียงเบอร์ยังไม่แรง ช่อง 7 จัดเต็มข่าวบันเทิง บิ๊กซีนีม่า หนังฝรั่ง จีน ดึงคนดูเปิดแช่ช่อง
ศึกทีวีดิจิทัล ต้องตามกันชนิดตาไม่กระพริบ ทุกช่องต่างขยับปรับผังรายการ เพื่อช่วงชิงเรทติ้งกันแบบไม่มีใครยอมใคร
พรุ่งนี้ วันที่ 16 ม.ค. ช่องพีพีทีวี จะเปิดแถลงข่าว ด้วยธีม “PPTV World Class TV” ปรับเปลี่ยนจากช่วงที่เปิดตัวสถานีใหม่ ๆ วางตำแหน่งทางการตลาดว่าเป็น สถานีพรีเมียม แมส (Premium mass) อธิบายในขณะนั้นได้ว่าเป็นสถานีที่นำคอนเทนท์คุณภาพสูง เข้าถึงผู้ชมทั่วไปไดง่าย
พีพีทีวี ภายใต้บริษัท บางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติง จำกัด หนึ่งในอาณาจักรธุรกิจ ของนายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ มหาเศรษฐีของไทย เจ้าของกิจการสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ และเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ
4 ปีของการเปิดดำเนินการทีวีดิจิทัลมี เขมทัตต์ พลเดช เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีโทรทัศน์พีพีทีวีคนแรก ก่อนจะลาออกและไปเป็นผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2560 พีพีทีวีได้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ คือ “สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์” ลูกหม้อช่อง 3 ที่ลาออกหลังเกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจในการบริหารครั้งใหญ่ที่ช่อง 3 โดสุรินทร์อยู่ในตำแหน่งสุดท้ายคือ รักษาการกรรมการผู้จัดการช่อง 3
ถ้าดู สถิติเรตติ้งย้อนหลังบทสรุปของปี 2560 พีพีทีวีในกลุ่มผู้ชมอายุ 4 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศอยู่ในอันดับที่ 12 ได้เรตติ้ง 0.162 ดีกว่าปี 2559 ที่ได้ 0.114 ด้วยแรงโปรโมททั้งรายการถ่ายทอดสดกีฬา และสารคดี แต่อย่างไรก็ตาม การถ่ายทอดสดกีฬาของพีพีทีวีก็ไม่มีรายการไหนติดอันดับท็อป 10 ของปี 2560 เวทีกีฬาก็ยังคงเป็นช่อง 7 และช่อง 3 มากกว่า
ขณะที่เรตติ้งสัปดาห์ล่าสุดวันที่ 8-14 ม.ค.2561 นั้นพีพีทีวียังอยู่ในอันดับ 11 ชนะช่องนาว 26 เครือเนชั่นที่แม้จะมีปัญหาต้นทุนและลดการลงทุนด้านรายการ แต่ด้วยรายการสารคดีบางชุดที่คนชื่นชอบจึงยังพยุงเรตติ้งให้ช่องนาวไว้ในอันดับที่ 12
อย่างไรก็ตามสำหรับช่องพีพีทีวีแล้วการอยู่อันดับที่ 11 ไม่ใช่อันดับที่น่าพอใจ เพราะนับเป็นช่องเอชดี ช่องเดียวที่หลุดจากท็อปเท็น ขณะที่ท็อปเท็นนั้น ช่องเอชดีอีก 6 ช่องอยู่กันครบ ตั้งแต่ช่อง 7 ช่อง 3 ช่องวัน ไทยรัฐ อมรินทร์ และ 9 เอชดี
การผ่าตัดด่วนสำหรับพีพีทีวีในเวลานี้ “สุรินทร์” เลือกว่าจ้างผู้ผลิต เช่น กลุ่มกันตนา กลุ่มเซนส์บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด และซื้อรายการต่างชาติจาก โซนี่พิคเจอร์ส นิวรีเจนซี่ และ ดิสคัฟเวอรี่ ไลออนเกท
ขณะที่ ช่องเวิร์คพอยท์ สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ยังไม่แซงโมโน แม้ว่า The Mask Singer 3 เรตติ้งเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังไม่พอ จนล่าสุดเวิร์คพอยท์ประกาศปรับผังเดือนก.พ.นี้ โดยนำหนังอินเดีย “ศึกสองราชันย์ โปรุส VS อเล็กซษนเดอร์” มาลงบ้างแล้วส่วนเวลาออนแอร์จะมีการประกาศกันอีกครั้ง
หลังจากที่เวิร์คพอยท์เคยนำ “พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก” มาออนแอร์เมื่อต้นเดือน ก.พ.2558 จากนั้นก็ทิ้งร้างไปนาน จนช่อง 8 มาปลุกกระแสหนังอินเดียได้สำเร็จ
สำหรับช่อง 8 รายการ ”เกมเรียงเบอร์” ที่คาดว่าจะได้เรตติ้งดี แต่ก็ยังไม่เห็นผลมากนัก บางวันได้แค่ 0.2 แต่ด้วยการมีหลายรายการที่หลากหลาย ทั้งข่าว หนังอินเดีย วาไรตี้ และซิทคอม จึงช่วยกันพยุงเรตติ้งของช่องไว้ได้ แม้จะชนะช่องวันแต่ช่องวันก็เบียดมาใกล้พอสมควร อย่างเรตติ้งสัปดาห์ที่ผ่านมาช่อง 8 อยู่อันดับ 5 ได้ 0.590 ช่องวันอันดับ 6 ได้ 0.515
ยิ่งเรตติ้งดี ยิ่งเป็นโอกาสของธุรกิจใหม่ของอาร์เอส ที่ล่าสุดนอกจากผู้บริหารอาร์เอส ตัดสินใจเปลี่ยนหมวดซื้อขายหุ้นอาร์เอส จากสื่อไปอยู่หมวดพาณิชย์แล้ว ล่าสุดวันนี้ ยังประกาศรุกธุรกิจขายตรง โดยสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาร์เอส เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของ Lifestar ธุรกิจเฮลท์แอนบิวตี้ของบริษัทในปีนี้ RS ลุยเปิดตัวธุรกิจใหม่ Lifestar BIZ โดยรับตัวแทนขายที่เรียกว่า นักธุรกิจ Lifestar BIZ
สำหรับเรตติ้งวันที่ 8-14 ม.ค. 2561 โดยภาพรวมเรตติ้งช่องต่าง ๆ ส่วนใหญ่ได้ตัวเลขลดลง เพราะไม่มีใครที่มีรายการหวือหวา หรือแม้แต่ ช่อง 7 ตัวเลขก็ลดลงมาอยู่ที่ 1.963 จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ทำเรตติ้งได้ 2.111
ช่อง 7 ปรับผัง จัดเต็มข่าวบันเทิง บิ๊กซีนีม่า หนังฝรั่ง จีน ดึงคนดูเปิดแช่ช่อง
ช่อง 7 แจกเอกสาร เมื่อช่วงบ่าย แจ้งเกี่ยวกับการปรับผังรายการ โดย สมเกียรติ เจริญภิญโญยิ่ง กรรมการรองกรรมการผู้จัดการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ในปี 2561 นี้ ช่อง 7 สี ได้ปรับผังรายการ ทั้งกลุ่มรายการข่าว วาไรตี้ บันเทิง
ในหมวด รายการบันเทิง ช่อง 7 เพิ่มเวลาแบบจัดเต็ม เช้า จันทร์–ศุกร์ 09.40 น.รายการสนามข่าวบันเทิงเวลา 9.40 ต่อด้วย รายการเที่ยงบันเทิง 15.45 ส่วนช่วงเย็น 16.00 น. เจาะประเด็นบันเทิงเป็นรายการเปิดก่อนเข้ารายการข่าว
ส่วนวันเสาร์–อาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ 05.00 – 06.40 น. ด้วยรายการสนามข่าว เสาร์–อาทิตย์
รายการดาวเด่นของปีนี้ ยังมีรายการที่ประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ที่ปีนี้จะสามารถรับชมได้ทางหน้าจอ ช่อง 7 HD กด 35 ได้แก่ รายการ สปอตไลท์ ออน ทีวี (SPOTLIGHT On TV) ซึ่งเป็นการชวนดาราคนดังมาทำความรู้จักผ่านกิจกรรมสุดฮิพ แบบเอ็กซ์ คลูซีฟ ทุกวันพุธเวลา 23.10 น. และไปสนุกกับ รายการสดๆ บทไม่มี On TV เป็นรายการที่จะพาคุณผู้ชมไปค้นความลับ จับตัวตนที่น่ารักของคนในวงการ นำเสนอแบบกึ่งเรียลลิตี้ ถ่ายทำกันสด ๆ แบบ un cut แบบไม่มีบทให้รู้ตัวมาก่อน เป็นประจำทุกวันศุกร์ เวลา 23.10 น.
ผังรายการ “วาไรตี้” รอบนี้ ช่อง 7 นำรายการ ที่สำเร็จในช่องทางออนไลน์ มาออกอากาศหน้าจอช่อง 7 คือ รายการ สปอตไลท์ ออน ทีวี (SPOTLIGHT On TV) ซึ่งเป็นการชวนดาราคนดังมาทำความรู้จักผ่านกิจกรรมสุดฮิพ แบบเอ็กซ์ คลูซีฟ ทุกวันพุธเวลา 23.10 และรายการสดๆ บทไม่มี On TV นำเสนอกึ่งเรียลลิตี้ ถ่ายทำกันสด ๆ แบบ un cut แบบไม่มีบท ออนแอร์วันศุกร์ เวลา 23.10 น.
ส่วนรายการใหม่ที่เอาเข้ามาเติม คือ รายการ เฮ มันโชว์ (Golden Tambourine) รายการลิขสิทธิ์นำเข้าจากเกาหลี การแข่งขันร้องเพลงระหว่างทีมซูเปอร์สตาร์ กับทีมพิธีกร รวมทั้งนำรายการแข่งทำอาหารที่เคยดังในอดีต “มาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย”กลับมาอีกครั้ง ซึ่งเป็น ซีซั่น 2 (Master Chef Thailand Season 2)
ส่วนรายการฮิต กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง ทุกวันอังคารเวลา 22.40 น. กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน ทุกวันเสาร์ เวลา 15.45 น. รายการเกมพันหน้า เดอะฮีโร่ ทุกวันอาทิตย์ เวลา 11.45 น.
ส่วนรายการ ที่นี่หมอชิต ทุกวันอาทิตย์ ขยับเวลาเป็น 22.30-24.00 น.
นอกจากนี้ยังมีการนำหนังยาว และซีรีส์ มาดึงคนดูให้ดูนานๆ อย่าง บิ๊กซีนีมา ทุกวันเสาร์ เวลา 22.30 น. เวิลด์ซีนีมา ทุกวันศุกร์เวลา 01.00 น.และวันเสาร์–อาทิตย์ เวลา 02.20 น.
ซีรีส์ทุกวันจันทร์เวลา 23.10 น. เริ่มด้วยเรื่องสงครามริษยา (The Lady In Dignity) หนังจีนชุด มังกรหยกศึกอภินิหารเจ้าอินทรี ทุกวันจันทร์–วันพุธ เวลา 09.50 น. และยังเจาะกลุ่มเด็ก ด้วย
ดิสนีย์คลับ เช้าวันเสาร์ 06.55 – 08.00 น. และวันอาทิตย์ เ06.55 – 07.25 น.