ในยุค “นายห้างเทียม โชควัฒนา” ผู้ก่อตั้งกลุ่มสหพัฒน์ เคยประสบความสำเร็จมาจากกลยุทธ์ “แตกแล้วโต” แต่มายุคนี้ เมื่อสภาพแวดล้อมธุรกิจเปลี่ยน สหพัฒน์ ต้องหันมา “ควบรวมธุรกิจ” ในเครือ โดยเฉพาะธุรกิจเอเจนซี่โฆษณา ที่ต้องการบริการครบวงจร
จึงเป็นที่มาของของการควบรวม 2 เอเจนซี่โฆษณาในเครือ บริษัทเฟมไลน์ และ บริษัท ฟาร์อีสท์ ดีดีบี จำกัด (มหาชน) เข้าด้วยกัน
โดยบริษัท ฟาร์อีสท์ ดีดีบี จำกัด (มหาชน) ได้รับโอนกิจการจากบริษัท เฟมไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณาและเป็นบริษัทย่อยของฟาร์อีสท์ ดีดีบี โดยเข้าถือหุ้นในเฟมไลน์ในสัดส่วน 99.99% จากเดิมที่ถือหุ้นอยู่แล้วในสัดส่วน 86.48%
พร้อมกันนี้ เปลี่ยนชื่อจากบริษัท ฟาร์อีสท์ ดีดีบี จำกัด (มหาชน) เป็น บริษัท ฟาร์อีสท์ เฟมไลน์ ดีดีบี จำกัด (มหาชน)
บุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท ฟาร์อีสท์ เฟมไลน์ ดีดีบี จำกัด (มหาชน) บอกว่า ผลจากการรวมกิจการในครั้งนี้ส่งผลให้ ฟาร์อีสท์ เฟมไลน์ ดีดีบี ก้าวเป็นบริษัทโฆษณาของคนไทยอันดับ 1 และเป็นบริษัทโฆษณาอันดับ 1 ใน 5 ของไทย
ปรับโครงสร้างใหม่
หลังควบรวมกิจการ บริษัท ฟาร์อีสท์เฟมไลน์ ดีดีบี ได้ปรับโครงสร้างการบริหารใหม่ โดยแต่งตั้ง วิชา ลดาลลิตสกุล เป็นกรรมการผู้อำนวยการ ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการ ฟาร์อีสท์ ดีดีบี
พร้อมกับแต่งตั้ง ชัยลดา ตันติเวชกุล เป็นรองกรรมการผู้อำนวยการและผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการฟาร์อีสท์ ดีดีบี
ส่วนการบริหารงาน ได้แบ่งการบริหารงานออกเป็น 2 ยูนิต ได้แก่ ยูนิตฟาร์อีสท์ มี อนุพล ภูวพูนผล เป็นกรรมการผู้จัดการ ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ ฟาร์อีสท์ ดีดีบี และยูนิตเฟมไลน์ มี เกษแก้ว อิทธิกุล เป็นกรรมการผู้จัดการ ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ เฟมไลน์
วางจุดยืน
จากการควบรวมกิจการที่ทั้ง 2 บริษัทนำจุดแข็งมาใช้ร่วมกัน แบ่งปันข้อมูลความรู้ จะทำให้จุดยืนใหม่ของ ฟาร์อีสท์ เฟมไลน์ ดีดีบี จะถูกวางให้เป็น เอเจนซี่ที่ Divergence จะตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ลูกค้ายุคนี้ต้องการเอเจนซี่ที่ให้บริการครบวงจร ใช้สื่อทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ มีความคิดสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบ รวมถึงการมีการวางแผนจากข้อมูลเชิงลึก (Insight) ข้อมูลปริมาณมาก (Big Data) และข้อมูลการใช้สื่อโซเชียลของผู้บริโภค (Social Data).