“หอม เข้ม สะกิดใจ” กลายเป็นก๊อบปี้เด็ด และคุ้นหูตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา โดยมี ป๋อ-ณัฐวุฒิ สะกิดใจ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งทำให้กาแฟกระป๋อง D7 แจ้งเกิดในตลาดพร้อมขึ้นแท่นเบอร์ 3 ได้สำเร็จ แม้จะมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 3% ก็ตาม
พิชญ ส่งศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยแอทลาส โกลบอล ฟูด จำกัด บอกว่า ขึ้นปีที่ 2 D7 ยังคงเลือกใช้ ป๋อเป็นพรีเซ็นเตอร์เช่นเคย หลังได้รับการตอบรับดีกว่าตอนไม่ใช้พรีเซ็นเตอร์
นอกจากนี้ยังใช้กลยุทธ์แจกชิมทั่วประเทศ เช่น ตามสี่แยกไฟแดง เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองรสชาติที่แตกต่างจากแบรนด์ผู้นำในตลาด อีกทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเอเย่นต์ด้วย
“จะใช้รถแห่ทำกิจกรรมบันเทิง ออกสไตล์ลูกทุ่งโดยมีป๋อร่วมทำกิจกรรมด้วย เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีทั้งคนเดินทางซึ่งเป็นกลุ่มหลัก เช่น คนขับรถแท็กซี่ สิงห์รถบรรทุก รวมถึงหนุ่มสาวโรงงาน และพ่อค้าแม่ค้า”
นั่นหมายความว่า D7 สามารถแย่งตลาดจากเครื่องดื่มชูกำลังมาได้บางส่วน เพราะมีจุดขายที่ใกล้เคียงกัน ขณะเดียวกันก็สร้างจุดต่างจากคู่แข่งหลักในตลาด ด้วยภาพลักษณ์และการสื่อสารแบบ “บ้านๆ” ที่โดดเด่น กอปรกับพรีเซ็นเตอร์ที่เป็นพระเอกช่อง 7 ที่แมสแบบสุดๆ ด้วย
แม้สภาพตลาดกาแฟกระป๋องจะติดลบ 20-30% แต่เนื่องจาก D7 ยังมีช่องทางจำหน่ายไม่ครอบคลุมจึงได้รับผลกระทบไม่มาก โดยปัจจุบันมีเพียง 10% ของช่องทางจำหน่ายทั้งหมดประมาณ 300,000 จุดทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม หลังเศรษฐกิจตกต่ำโรงงานปิดตัวทำให้สาวโรงงานตกงานนับล้านราย D7 จึงเตรียมแผนเปิดตัว 1-3 รสชาติใหม่ เช่น ลาเต้ เอสเพรสโซ่ คาปูชิโน เป็นต้น เพื่อจับกลุ่มคนเมืองในต่างจังหวัดภายในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยมีสาว D7 Girls ที่กำลังจัดประกวดมาเป็นพรีเซ็นเตอร์คู่กับป๋อ เพื่อเป็นตัวดึงดูดอีกทางหนึ่ง
พร้อมกันนี้ได้เตรียมเพิ่มจำนวนเอเย่นต์ให้มากขึ้น จาก 20 ราย เป็น 50 ราย ขณะที่ช่องทางจำหน่ายในปัจจุบันส่วนใหญ่อยู่ที่ Traditional Trade 70% ที่เหลืออีก 30% เป็น Modern Trade
สิ้นปี 2552 เขาต้องการส่วนแบ่งการตลาด 5% จากมูลค่าตลาดกาแฟกระป๋อง 9,000 ล้านบาท ด้วยงบการตลาด 100 ล้านบาท ซึ่งทุ่มที่ TVC กว่า 80% ขณะที่ภายในปี 2555 ต้องการส่วนแบ่งการตลาด 10% หรือมียอดขาย 1,500 ล้านบาท ขณะที่เขาประเมินว่า มูลค่าตลาดกาแฟกระป๋องจะเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 ล้านบาท
“ถึงเวลานั้น D7 จะสามารถยืนหยัดเป็นเบอร์ 3 ได้อย่างมั่นคง”
Did you know?
กาแฟใส่นมบรรจุกระป๋องถูกพัฒนาโดยบริษัท UCC Ueshima Co. ที่ญี่ปุ่นในปี 1969
ส่วนแบ่งการตลาดกาแฟกระป๋อง (by brand)
Birdy 65%
Nescafe 25%
D7 3%
Others 7%
สัดส่วนยอดขาย D7 (by taste)
Robusta (สีแดง) 60%
Extra rich (สีเขียว) 40%