ธุรกิจขายครีมออนไลน์ที่กำลังเป็นกระแสให้ต้องจับตา ในนาทีนี้ไม่มีใครเกิน Garden Me ที่ผู้ก่อตั้งประกาศว่า มียอดขาย 1.7 พันล้านบาท ขายสินค้าได้มากกว่า 4.4 ล้านชิ้นใน 2 เดือน แต่ก็มีเสียงแย้งว่า ยอดขาย 4.4 ล้านชิ้นนี้คือการขายปล่อยให้ตัวแทน และลูกค้าตัวจริงยังใช้ไม่ถึง 4.4 ล้านชิ้น
“จิ๊บ ชนม์นิภา วิเศษสุรนันท์” เจ้าของแบรนด์ Garden Me ประกาศกลางรายการ “อายุน้อยร้อยล้าน” ว่าบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 4 หมื่นคน ซึ่งหากหารเฉลี่ยยอดขายสินค้ารวม 4.4 ล้านชิ้น จะพบว่าทุกคนได้รับสินค้ากระจายไปเฉลี่ย 110 ชิ้น
“บอสจิ๊บ” ให้สัมภาษณ์ว่าจะประสานงานการขายผ่านการคุยกับแม่ทีม 30 คน โดยทุกคนจะออก “บัตรตัวแทน” ให้ตัวแทนที่แต่ละคนดูแลอยู่ ซึ่งหลายคนมองว่า ไม่ต่างจากธุรกิจ MLM ที่ใช้กันอยู่
แต่บอสจิ๊บยืนยันว่าโมเดลของ Garden Me ไม่ใช่ MLM ไม่ใช่ขายตรง แค่ซื้อมาขายไป
แค่เราขายดีมาก เท่านั้นเอง
1. โปรไฟล์ต้องไม่ธรรมดา
ในเทปรายการอายุน้อยร้อยล้านที่ออกอากาศปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บอสจิ๊บระบุว่า ที่สามารถทำธุรกิจหลักพันล้านได้เพราะการนำเงินมัดจำของ “แม่ทีม” มาสั่งของกับโรงงาน โดยบอกว่าที่สามารถสร้างความมั่นใจจนทำให้ระดุมทุนได้ก่อนสินค้าจะเกิด เนื่องจากเธอ “ทำธุรกิจนี้มา 6 ปีแล้ว” และไม่เคยมีเรื่องเสียหาย
ก่อนหน้า Garden Me บอสจิ๊บเคยออกรายการอายุน้อยร้อยล้านแล้วเมื่อกันยายนปี 2016 โดยสะท้อนตัวเองผ่านภาพหญิงแกร่งที่หนีออกจากบ้านมาต่อสู้ชีวิตเพียงลำพัง เพราะต้องการพิสูจน์ให้ครอบครัวยอมรับในตัวเธอ ด้วยแบรนด์ B’ Secret ทำให้ช่วง 2 ปีก่อน ภาพของบอสจิ๊บ คือนักธุรกิจ Skincare ทำยอดขายกว่า 1 ล้านชิ้น สร้างรายได้ 360 ล้านบาทภายใน 3 เดือน
ก่อนที่จะเป็น B’ Secret บอสจิ๊บเคยเป็นที่รู้จักในนาม “พี่จิ๊บ ABSOLUTE” เน็ตไอดอลบนโลกโซเชียลที่ชูตัวเองผ่านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบรนด์ ABSOLUTE by JIB ในปี 2015 สตอรี่ที่ถูกถ่ายทอดบนโลกออนไลน์ในช่วงเวลานี้คือเธอต้องปากกัดตีนถีบต่อสู้ชีวิตมานานหลายปี ถึงขั้นเคยโดนเพื่อนดูถูกว่าเป็นแค่ “แม่ค้าขายหมูทอด” ปมที่เคยโดนเพื่อนดูถูก กลายเป็นแรงผลักดันทำให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวเอง และตั้งใจว่าชีวิตนี้ต้องมีเงินล้านให้ได้
ด้วยสตอรี่ของการต่อสู้สร้างเนื้อสร้างตัวมาจากศูนย์ทำให้เธอได้รับความสนใจจากสื่อและถูกพูดถึงในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ
2. จัดงานยิ่งใหญ่
Garden Me จัดงานใหญ่หลายงานโดยดึงตัวศิลปินดาราอารมณ์ดี มาร่วมสีสันให้แบรนด์ มีทั้ง ดีเจนุ้ย ธนวัฒน์, ตั๊ก ศิริพร, ซาร่า นลิน, หนูเล็ก ก่อนบ่าย และ ซอ จียอน
งานเหล่านี้เปิดให้ตัวแทนจัดเต็มแต่งตัวสวยงามหรูหรามาร่วมโชว์ที่ห้างใหญ่กลางกรุงด้วย เรียกสายตาจากผู้สัญจรไปมาได้อยู่หมัด และเป็นข่าวบนโซเชียล สร้างกระแสให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก
จุดนี้บอสจิ๊บระบุว่าไม่ได้เปิดกว้างเฉพาะงานเลี้ยง แต่ตัวแทน Garden Me สามารถเสนอโปรโมชั่นสำหรับแบรนด์ได้เสรี
3. ของมีจำกัด
เมื่อเปิดตัวสินค้า Garden Me จะเปิดโกดังปล่อยของเป็นล็อตใหญ่ วิธีการเล่นกับ “ปริมาณที่จำกัด” ทำให้ตัวแทนรู้สึกว่าสินค้ากำลังจะหมดลงในพริบตาเดียว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อสินค้าหมดที่เจ้าของแบรนด์แต่ตัวแทนต้องใช้เวลากว่าจะขายสินค้าหมด
เรื่องนี้ ตัวแทน Garden Me ยืนยันว่า “ขายหมดนะคะ” โดยตัวแทน Garden Me บนโซเชียลยืนยันว่า “ไม่รู้สึกอะไร” กับการที่บริษัททำการตลาดเช่นนี้ และยอมรับว่าบางคนยอมสต๊อกสินค้าเพื่อให้ได้ตุ้นทุนสินค้าราคาต่ำ เพราะเชื่อว่าจะสามารถขายได้ยาว
กลยุทธ์นี้ทำให้เพียงครึ่งชั่วโมง ยอดจองของ Garden Me ทะลุ 1 ล้านชิ้น เพราะคำยืนยันว่า “สินค้านี้ใช้ดีมาก และเมื่อของดีและมันก็ดัง ยังไงมันก็ขายได้” นอกจากนี้ยังมีเสียงกดดันว่า การรอล็อต 2 ค่อยสั่งจองสินค้านั้นไม่ทันการณ์ เพราะอีกนานกว่าล็อต 2 จะออกอีก
4. ตัวแทนต้องสู้กัน
เช่นเดียวกับแบรนด์ครีมออนไลน์ทั่วไป ผู้ที่เป็นตัวแทนของ Garden Me จะต้องพยายามโฆษณาตัวเองเพื่อชิงฐานตัวแทนให้มาอยู่ในเครือให้ได้มากที่สุด ส่วนใหญ่พยายามบอกว่าตัวเองคือ “รายใหญ่ต่อตรงบริษัท มีตัวแทนดูแล บริหารทีมทั่วประเทศไทย“
“ขายไม่เป็น ไม่เคยขายไม่ต้องกังวล เราสอนให้”, “สมัครแล้ว รับบัตรตัวแทน มีการเทรนงานดูแลให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี รับรองไม่มีเท”, “ตัวแทน VIP รายใหญ่ภาคใต้” นี่คือส่วนหนึ่งของคำโฆษณา ซึ่งบางส่วนระบุว่าจะ “มีโยนออเดอร์ โยนตัวแทนให้”
5. กล้าเปย์
หากไม่นับกรณีที่บอสจิ๊บเคยประกาศหาผู้โชคดีพาไปทำศัลยกรรมแบบส่วนตัว Garden Me ถือเป็นแบรนด์ที่พยายามเพิ่มค่าตอบแทนเสริมให้ตัวแทนที่สั่งจองสินค้าจำนวนมาก
ไม่รู้ว่าแหวนอะไร แต่ตัวแทนที่ขายได้ 100 กล่องจะได้รับแหวนทอง 1 วงมูลค่า 1,550 บาท ทุก 30,000 กล่องจะได้แหวนทอง 300 วง และสะสมยอดได้ 2 แสนกล่อง รับเบนซ์ไปเลย CLA200 คันละ 2.2 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เกมการตลาดนี้ทำให้ตัวแทนจำหน่ายต้องรับความเสี่ยงไว้ 100% ส่วนผู้ก่อตั้งได้เงินเข้ากระเป๋าเต็ม 100% ไม่เพียงกำไรแน่นอนจากตัวแทน ยังคูณด้วยยอดขายเป็นล็อตใหญ่ แม้จะหักค่าทองครึ่งสตางค์ ค่าการตลาด กำไรก็ยังเต็มเม็ดเต็มล้านอยู่ดี
แม้จะยังไม่ได้ประกาศยอดทั้งปี แต่ยอดขาย Garden Me เวลานี้ ทะลุ 1.7 พันล้านบาทนี้เทียบได้กับแบรนด์ความงามชั้นนำของไทยแล้ว เช่น Beauty มีรายได้รวม 2,559 ล้านบาท (เป็นกำไร 656 ล้านบาท) หรือ Oriental Princess ที่มีรายได้รวม 2,553 ล้านบาท (กำไร 181 ล้านบาท)
ที่สำคัญคือ Mistine มีรายได้รวม 10,140 ล้านบาท เป็นกำไร 1,254 ล้านบาท จุดนี้มีรายงานว่ารายได้ Mistine ลดลงจากปีก่อน 2.9% มากกว่า Oriental Princess ที่มีรายได้ลดลงจากปีก่อน 2.1%.
ที่มา :
- https://news.sanook.com/3478990/
- https://pantip.com/topic/36752661
- https://pantip.com/topic/36791405
- https://www.youtube.com/watch?v=LNuiDbv20MI