จอทีวีอย่างเดียวเอาไม่อยู่ จะเข้าถึงคนดูรุ่นใหม่ยุคนี้ ต้องพึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์ให้มากขึ้น จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่าง “ช่อง 3” และ LINE TV แพลตฟอร์มทีวีออนไลน์
ภายใต้ความร่วมมือของช่อง 3 จะนำละคร, รายการข่าว วาไรตี้ และเพลงประกอบละคร ที่ออกอากาศไปแล้ว 48 ชั่วโมง นำมาให้ดูผ่าน LINE TV LINE STATION “CH3 THAILAND” ใน LINE TV ตั้งแต่วันนี้ (9 ก.พ.60) เป็นต้นไป
ประเดิมด้วย ละคร 3 เรื่อง เช่น เงินปากผี ชั่วโมงต้องมนต์ จากนั้นในเดือน มี.ค. จะส่งละครอีก 7 เรื่อง, รายการข่าว วาไรตี้ 7 รายการ เช่น ข่าว 3 มิติ, ผู้หญิงถึงผู้หญิง ไปออกอากาศเพิ่มเติม เพื่อเป็นการหยั่งกระแสคนดู และยอดวิว ก่อนจัดเต็มในอนาคต ซึ่งตลอดระยะเวลา 47 ปีที่ผ่านมา ช่อง 3 มีละครออกอากาศมากกว่า 1,000 เรื่อง
นอกจากนี้ ทั้งคู่จะร่วมมือกันโฆษณาในรูปแบบแพ็กเกจลงโฆษณา ที่ลูกค้าสามารถได้ทั้งออนแอร์และออนไลน์ โดยพบว่า “เทรนด์” ในการซื้อโฆษณาของลูกค้าทั้งเจ้าของแบรนด์และเอเจนซี่ ต้องการซื้อทั้งทีวีและออนไลน์พร้อมกัน ไม่ต้องการแยกซื้อ โดยลูกค้าสามารถจะเจรจาซื้อโฆษณาโดยตรงกับทางช่อง 3 หรือทาง LINE TV
ประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) มองว่า เรตติ้งทีวีเวลานี้มีความผันผวนมาก คนไม่ได้ดูแค่ช่องเบอร์ 1 เบอร์ 2 เหมือนเดิมอีกแล้ว ประกอบกับสื่อออนไลน์มีบทบาทมาก ดังนั้นเมื่อคนดูรุ่นใหม่ย้ายมาอยู่บนออนไลน์ ช่อง 3 ก็ต้องเข้าไปตอบสนองให้ทุกช่องทาง LINE TV เป็นหนึ่งในช่องทางที่ได้รับความนิยม
การร่วมมือกับ LINE TV จะช่วยให้ช่อง 3 ขยายกลุ่มคนดูจากฐานเดิม ซึ่งมีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ รุ่น Millennial อายุ 15-35 ปี มากขึ้น เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ดูผ่านจอทีวี แต่ดูผ่านจอที่ 2 ซึ่ง LINE TV ถือเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มหลักที่เข้าถึงคนรุ่นนี้
คอนเทนต์รีรันบนแพลตฟอร์ม LINE TV หลังจากช่อง 3 ออกอากาศไปแล้ว 48 ชั่วโมง เป็นเงื่อนไขเดียวกันกับการรีรันผ่าน YouTube ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์หลักในการดูทีวีย้อนหลัง
ปัจจุบันช่อง 3 นำคอนเทนต์ อากาศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 4 ช่องทาง
- เว็บไซต์ CH3Thailand มีละคร ข่าว รายการต่างๆ ออกอากาศต่อจากทีวีช่วงหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป
- Mellow แอปพลิเคชั่น จะมีทั้งรายการของช่อง 3 และรายการที่ผลิตเอง
- YouTube และ LINE TV
LINE ดึงบิ๊กทีวีขยายฐานคนดูแมส
ในส่วนของ LINE TV ถือเป็นบริการหลักที่ LINE นำออกสู่ตลาดเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยหมายมั่นปั้นมือให้เป็นแอปบันเทิงบนมือถือที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ในไทย
ช่วงแรก จึงมุ่งเน้นเจาะฐานคนดูที่เป็นกลุ่มวัยทีน อายุ 10 กว่าๆ ขึ้นไป ด้วยการจับมือกับค่ายจีดีเอช เพื่อผลิตคอนเทนต์แนววัยรุ่นมาออนแอร์
ต่อมาขยาย LINE TV ขยายมาจับมือกับช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ช่องวัน ช่องเวิร์คพอยท์ นำคอนเทนต์มาลงเพิ่มขึ้น จนเมื่อบริการเป็นที่รู้จักและคุ้นเคย มาปีนี้ LINE TV หันมาจับมือกับช่องเบอร์ใหญ่อย่างช่อง 3 ซึ่งมีจุดขายที่คอนเทนต์ละครแนวดราม่า เพื่อขยายฐานคนดูให้กว้างขึ้น
อริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย บอกว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ขยายการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมในเนื้อหาละครและข่าวที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับผู้ใช้ออนไลน์ ซึ่งเป็นเพียงจุดเริ่มต้นระหว่าง LINE TV และช่อง 3 เท่านั้น ในอนาคตจะมีความร่วมมือกันมากขึ้น เพื่อตอบสนองทั้งคนดู และผู้ลงโฆษณา
ปัจจุบันคนไทยใช้เวลาดูวิดีโอบนมือถือเพิ่มมากขึ้น โดยมากกว่า 90% ใช้เวลาดูวีดีโอบนมือถือสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 2 เท่า โดยในปีที่ผ่านมา LINE TV ขึ้นครองอันดับ 1 ของ “ทีวีรีรัน” ในประเทศไทย ใช้เวลาในการรับชม LINE TV เฉลี่ยอยู่ที่ 176 นาทีต่อวัน ซึ่งคิดเป็น 2 ใน 3 ของการรับชมฟรีทีวี สะท้อนว่าพฤติกรรมของผู้ชมกำลังเปลี่ยนไป เป็นการก้าวเข้ามาสู่โลกออนไลน์มากขึ้น
การจับมือระหว่างช่อง 3 และ LINE TV จึงตอบโจทย์ของทั้งคู่ ช่อง3 อุดช่องว่างในการขยายสู่ฐานคนดูที่เป็นคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ดูทีวีแต่ดูบนมือถือ และยังเพิ่มโอกาส เพิ่มคนมาช่วยหารายได้มากขึ้น
สวน LINE TV จะมีคอนเทนต์อย่าง “ละคร” ในตลาดแมสมาสร้างฐานคนดู เพื่อก้าวสู่การ “ทีวีรีรัน” อันดับ 1 บนมือถือ และเพื่อต่อกรกับคู่แข่งที่มาก่อนอย่าง YouTube ทั้งในแง่คนดู และโฆษณาได้มากขึ้น.