ละครล็อตใหม่ของช่อง 3 กำลังกลับมา หลังจาก ”เงินปากผี” ที่สร้างความหลอน สยองขวัญจนเรตติ้งพุ่งในล็อตละครหลังข่าววันจันทร์ อังคาร ตามมาด้วย “บุพเพสันนิวาส” ที่เพิ่งลงจอเมื่อวานนี้ (21 ก.พ.)
ผลตอบรับด้านเรตติ้งการออกอากาศวันแรก “บุพเพสันนิวาส” ได้เรตติ้งทั่วประเทศ 3.417 อยู่ในอันดับ 3 โดยที่อันดับ 1 คือ “มือปราบเหยี่ยวดำ” ละครบู๊เรื่องราวของตี๋ใหญ่ทางช่อง 7 และ ”เรือนเบญจพิษ” ละครพีเรียดดราม่าเข้มข้นช่องวัน
แม้ว่าจะเรตติ้งทั่วประเทศเป็นรอง แต่ ”บุพเพสันนิวาส” ได้แชมป์เรตติ้งในพื้นที่กรุงเทพฯ สูงสุดของวัน โดยได้เรตติ้งอยู่ที่ 5.882 เป็นเคสไม่ธรรมดาสำหรับละครที่ออกอากาศวันแรก ก็สร้างเรตติ้งได้ปังขนาดนี้
ยิ่งเมื่อพฤติกรรมคนดูแบบมัลติสกรีน เมื่อเรตติ้งทีวีมา ส่งผลให้เกิดกระแสบนโซเชียลมีเดีย ติดทวิตเตอร์เทรนด์ 2 วันเต็ม ที่ติดใจกับละครแนวพีเรียดแนวตลกขบขัน สร้างความแปลกใหม่ นำมุกขบขันสมัยใหม่ เหตุการณ์ใส่เข้าไปเล่นในละคร ช่วยดึงกลุ่มคนรุ่นต่ำกว่า 35+ เข้ามารับชมละครมากยิ่งขึ้น แทนที่จะเป็นคนสูงอายุที่เป็นฐานผู้ชมดูทีวีในปัจจุบันเท่านั้น
กระแสความแรงของละครเรื่องนี้ ทำให้แบรนด์เสือปืนไวอย่าง “ท็อปซูเปอร์มาเก็ต” ขึ้นชื่อในเรื่อง ใช้เรียลไทม์ มาร์เก็ตติ้ง รีบออกแคมเปญโฆษณา อีโน ยาคลายกรดในกระเพาะอาหาร ด้วยคำว่า “บุพเฟ่ต์ฉันมิพลาด” ด้วยฟอนต์ตัวอักษรและรูปเลียนแบบฟอนต์ของชื่อละคร ”บุพเพสันนิวาส” มาใช้ เพื่อเรียกกระแส
ช่อง 3 เอง ก็ใช้จังหวะนี้ โปรโมตแอป mello ของตัวเอง ด้วยการให้ดูย้อนหลังก่อนแอปพันธมิตรอื่นๆ เรียกว่า ได้ทั้งออนแอร์ บวกออนไลน์
ถอดรหัส บุพเพสันนิวาสทำไมถึงปัง
“บุพเพสันนิวาส” เป็นละครที่สร้างมาจากนิยายชื่อดังของ ”รอมแพง” นิยายที่ได้รับรางวัลหนังสือดีเด่นของเซเว่นบุ๊คอวอร์ด ประจำปี พ.ศ. 2553 และยังเป็นนิยายที่มีผู้อ่านเรียกร้องให้สร้างเป็นละครมากที่สุด ต้องใช้เวลารอคอยกันอย่างยาวนาน จนกระทั่งช่อง 3 เข้ามาซื้อลิขสิทธิ์ ค่ายบรอดคาซท์ ของ ”หน่อง อรุโณชา” เป็นผู้จัด เริ่มวางตัวนักแสดง ฟิตติ้ง และใช้เวลาถ่ายทำอีก 2 ปี
เป็นละครเรื่องหนึ่ง ที่ให้ความสำคัญในแต่ละรายละเอียด เช่น ผ้านุ่ง ผ้าสไบสำหรับนักแสดง มีการส่งพิมพ์ลายเลียนแบบลายโบราณที่ต่างประเทศเพื่อให้สมจริงที่สุด ชนิดที่นักเขียนมีอึ้งมาแล้ว
เนื้อเรื่องเกิดสองยุค คือสมัยปัจจุบัน และสมัยพระนารายณ์ ยุครุ่งเรืองทางการค้าของไทยในยุคกรุงศรีอยุธยา เป็นเรื่องย้อนยุค เมื่อ เกศสุรางค์ สาวนักโบราณคดีร่างตุ้ยยุ้ยผู้แสนร่าเริง เกิดอุบัติเหตุ วิญญาณออกจากร่าง แต่พอจะกลับเข้าร่างได้ กลับกลายย้อนเข้าไปอยู่ในร่างของแม่นางการะเกด สาวสวยใจอำมหิต ในสมัยพระนารายณ์ แห่งกรุงศรีอยุธยา ที่แสดงโดย ”เบลล่า ราณี”
พล็อตเรื่องแนวใหม่ของละครพีเรียด ที่เหมือนเอาพล็อตหากินของนิยายเรื่องต่างๆ มาจัดวาง ตั้งแต่พล็อตการที่วิญญาณออกจากร่าง ต้องสลับร่าง แต่งานนี้ไม่ใช้สลับร่างแบบผู้หญิงผู้ชาย หรือคนทั่วไปในสังคม แต่สลับกับร่างย้อนยุคไปหลายร้อยปีกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่า เอาทั้งการสลับร่าง และการย้อนยุคเข้าไปในอดีต มาจับรวมพร้อมกันทีเดียว
ในขณะเดียวกัน ก็ยังจับเอาพล็อตความฝันสูงสุดของคนอ้วนที่อยากผอม ใส่เข้ามาในละครได้อย่างสนุกสนาน เมื่อ เกศสุรางค์ สาวร่างอ้วนเข้าไปอยู่ในร่างแม่นางการะเกด สาวสวยหุ่นอรชร ทันทีที่สาวอ้วนเห็นตัวเองในกระจก ก็ต้องฮากระจาย นึกว่าฝันไป “ทำไมฝันดีแบบนี้..ฝันว่าผอม“ ย้อนยุคมาผอมมันดีแบบนี้นี่เอง
นอกจากนี้ยังใส่ตัวละครจริงลงไปในเรื่อง เมื่อเกดสุรางค์ในร่างการะเกดต้องแสดงอาการดุ ให้บ่าวเกรงกลัว แต่นึกไม่ออก จึงต้องเปรยออกมา ขอยืมคาแร็กเตอร์ นางร้ายต้นตำรับของจริง ”กิ๊ก สุวัจนี” มาใช้ในเรื่อง ด้วยการทำหน้าเหยียด ปากเบี้ยว จนโลกออนไลน์ไปจับเอารูปจริงในการแสดงของ ”กิ๊ก สุวัจนี” มาเปรียบเทียบกับ ”เบลล่า ราณี”
ฝ่ายพระเอกก็ฉีกกฎแหวกแนวพระเอกหล่อเหลา และเป็นคนดี ไม่แสดงอาการหลุดจากมาดพระเอก มาเป็นหมื่นสุทรเทวา หรือพ่อเดช ที่แสดงโดย “โป๊ป ธนวรรธ์” ที่คิดอยากทำอะไรโดยไม่ต้องคีฟลุคพระเอก เปิดมาก็แสดงท่าทางรังเกียจคู่หมั้นอย่างแม่นางการะเกดที่แสนใจร้าย พร้อมทั้งยังพยายามสาปแช่ง ”แม่นางการะเกดไปนรกเสียเถิด” (ฮา)
นอกจากนี้ ในตอนแรก สร้างเรื่องราวเดินเรื่องตัดต่ออย่างกระชับ สร้างความเร้าใจ ใส่ทั้งเวทมนตร์ ไสยศาสตร์ ความฮา โก๊ะของนางเอกอ้วน และความร้ายของนางเอกสวย ที่ช่อง 3 มีการเตรียมทีมตัดต่อการเดินเรื่องใหม่ก่อนออกอากาศ เพื่อต้องการสร้างความพีคให้ได้ทุกเบรก เพื่อตรึงผู้ชมให้อยู่หน้าจอ ไม่กดรีโมตหนีไปช่องอื่นๆ ทันที ที่สำคัญเรื่องนี้ได้ “ศัลยา” นักเขียนบทมือหนึ่งที่การันตีด้วยผลงานรางวัลมากมาย มาเขียนบทละครให้
สำหรับนักแสดงหลักอย่าง ”เบลล่า ราณี” บทนี้เรียกว่าเป็นอีกบทส่งการแสดงของเธอให้ชัดเจนมากขึ้น ความจริงแล้ว “เบลล่า” เริ่มแสดงครั้งแรกๆ ในช่อง 3 จากบทร้ายมาก่อน ในฐานะนางร้ายจากเรื่อง “รอยมาร” ในบทพี่สาวร้ายเงียบของนางเอก “มาร์กี้ ราศรี” มาแล้ว ก่อนที่จะมาดังบทนางเอก ในละครชุด ”สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร” ที่จับคู่กับ ”เจมส์ จิรายุ”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะมาลงตัวที่ “เบลล่า” ช่อง 3 เคยวางตัว “ชมพู่ อารยา” ไว้ในบทนี้ แต่ชมพู่ติดงานละครซ้อน และต้องการเตรียมตัวท้องเสียก่อน
สิ่งที่สอดแทรกผ่านละครเรื่องนี้ คือการที่คนรุ่นใหม่จะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยผ่านละคร และยังมีประวัติของ ท้าวทองกีบม้า หรือ มารี กีมาร์ สาวชาวโปรตุเกส ที่มาแต่งงานกับคอนสแตนติน ฟอลคอน ชาวกรีกที่มารับราชการในกรุงศรีอยุธยา มาทำงานเป็นต้นเครื่องในวัง ต้นกำเนิดขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ในประเทศไทย.