ปีที่แล้ว “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” แม่ทัพอาณาจักร “กลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น” หรือ ทีซีซี กรุ๊ป ได้ส่งบริษัทในเครือ อย่าง “ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย)” และ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด” ประกาศพลิกหน้าดินโรงเรียนเตรียมทหารเดิม หรือทำเลทองบริเวณหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 เนื้อที่ 104 ไร่ ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้เป็นโครงการมิกซ์ยูส “One Bangkok” (วัน แบงค็อก) มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท
ล่าสุด โครงการได้ผ่านการอนุมัติการวิเคราะห์และประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เรียบร้อยแล้ว ก็ได้ฤกษ์ทำพิธีลงเสาเอกเพื่อเดินหน้าก่อสร้างอภิมหาโปรเจกต์กลางกรุงอย่างเป็นทางการ
ผู้เข้าร่วมในพิธีตอกเสาเอกจึงมากันครบ ตระกูลสิริวัฒนภักดี นำโดย เจริญสิริวัฒนภักดีประธานกรรมการ และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี รองประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ทีซีซี และ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้,ฐาปน สิริวัฒนภักดีประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ท (ประเทศไทย) จำกัด, ปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้, โดยมี ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นประธานในพิธียกเสาเอก
สำหรับโครงการมิกซ์ยูส “วันแบงค็อก” ทีซีซีฯ วางตำแหน่งให้เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับ “ซูเปอร์ลักชัวรี่“
• โครงการมีพื้นที่อาคารรวม (Gross Floor Area) 1.83 ล้านตารางเมตร
• อาคารสำนักงานพรีเมียมเกรดเอ 5 อาคาร สร้างตามมาตรฐาน LEED หรือเป็นอาคารสีเขียว และประหยัดพลังงาน และมาตรฐานอาคาร WELL ออกแบบพื้นที่ภายในและชุมชนให้ใช้งานได้เต็มที่ เป็นการเต็มเติมให้ออฟฟิศไฮโซกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้อัพราคาค่าเช่าได้แพงระยับ ทั้งหมดเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายผู้เช่าที่เป็นทุนข้ามชาติให้มาตั้งสำนักงานใหญ่ (Headquarter) ในไทย ซึ่งทางทีซีซีฯ และเฟรเซอร์สฯ หมายมั่นดึงเข้ามาเป็นลูกค้าอย่างมาก
• โรงแรมหรู 5 โรงแรม โดยใช้เชนดังทั้งในเครือของเฟรเซอร์ ฮอสพิทอลลิตี้ และอินเตอร์แบรนด์มาบริหาร เพื่อเน้นตอบโลฟ์สไตล์ของผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการในโครงการ เพราะถ้าได้ลูกค้าสำนักงานใหญ่ต่างชาติมาอยู่ในโครงการ นั่นย่อมหมายถึงนักธุรกิจ นักลงทุนจะบินมาไทยและเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ได้ด้วย
• ที่พักอาศัย (Residential) ระดับอัลตราลักชัวรี่ 3 อาคาร โดยวิวที่ลูกค้าจะมาอยู่อาศัยต้องมากกว่าวิวที่คอนโดมิเนียมกลางกรุงเคยได้รับ
• ร้านค้าปลีก เพราะยุคนี้หัวใจสำคัญของมิกซ์ยูสจะต้องมีห้าง ศูนย์การค้าเอาใจนักช้อป นักชิม และการเอ็นเตอร์เทนเมนต์
• พื้นที่ศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรม
• พื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่ง ขนาดรวมกัน 50 ไร่ มีทางเดินขนาดกว้างมากกว่า 40 เมตร และออกแบบด้านภูมิทัศน์ให้โดดเด่นเลาะรอบโครงการทางฝั่งถนนวิทยุและถนนพระราม 4
• จัดสรรพื้นที่ขนาด 10,000 ตารางเมตร ให้ทุกคนจัดfกิจกรรม และจัดงานแสดงต่าง ๆ
การพัฒนาบิ๊กโปรเจกต์ครั้งนี้ ยังมีไฮไลต์ด้านการใช้ทีมงานฝีมือระดับพระกาฬจากบริษัทชั้นนำในไทย “ซีเนอร์ยี” กับทีมงานของ “เฟรเซอร์ส” ซึ่งเป็นผู้เล่นอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกมาพัฒนาและออกแบบโครงการโดยเน้นให้ความสำคัญในเรื่องคนเป็นศูนย์กลาง (People-Centric) ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (Green-Sustainability) และการใช้ชีวิตในเมืองอัจฉริยะ (Smart City Living) เพื่อปฏิวัติรูปแบบการใช้ชีวิต การทำงาน และการพักผ่อนให้ลงตัวในพื้นที่เดียวกันนั่นเอง
“ปณต สิริวัฒนภักดี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า การตอกเสาเอกถือเป็นการเริ่มต้นโครงการวันแบงค็อกในทุกมิติ รวมถึงการเริ่มต้นพัฒนาในประเทศไทย เพราะบริษัทมุ่งมั่นจะพลิกโฉมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ให้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กระดับโลก ดึงดูดบริษัทข้ามชาติชั้นนำจากต่างประเทศให้เข้ามาตั้งสำนักงาน รวมทั้งเป็นจุดหมายปลายทางแห่งไลฟ์สไตล์ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจะต้องมาเยี่ยมเยือนให้ได้แห่งหนึ่งของโลก
การพัฒนาโครงการนี้จะเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นที่ทั่วโลกมีต่อประเทศไทย ในฐานะเมืองที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียนและเป็นประตูสู่ทวีปเอเชียด้วย.