ปรากฏการณ์ของละคร “บุพเพสันนิวาส” มาได้ถูกที่ถูกเวลา ในช่วงที่สถานการณ์ช่อง 3 กำลังเผชิญสถานการณ์ขาลงสุดขีด ราคาหุ้นตก ผลประกอบการย่ำแย่ ผู้บริหารลาออก เพียงแค่ช่วงระยะเวลาเดือนกว่าๆ ก็สร้างกระแสต่อเนื่องเป็นละครที่ทำให้คนไทยหันมาแต่งชุดไทย เที่ยวตามรอยแหล่งประวัติศาสตร์ตามละคร ทั้งยังสามารถทำให้สถานการณ์พลิกผัน ราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย
จากการรายงานผลประกอบการประจำปี 2560 ของกลุ่มบีอีซี เวิลด์ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 61 ช่อง 3 มีรายได้รวม 11,035 ล้านบาท มีกำไร 61 ล้านบาท รายได้รวมลดลง 9.97% จากปี 2559 ที่มีรายได้รวม 12,265.8 ล้านบาท แต่กำไรลดลงถึง 94.99 % ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่แจ้งตลาดฯ นั้น ปิดที่ 10.60 บาท และค่อยๆลดลงมาต่ำสุดที่ 10.10 บาท ในวันที่ 28 ก.พ.
“บุพเพสันนิวาส” ออนแอร์ครั้งแรกวันที่ 21 ก.พ. กระแสเริ่มเกิดตั้งแต่วันแรก แม้ว่าจะได้เรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 3.417 ตามหลังละครช่อง 7 และช่องวัน วันต่อมาได้ 4.769 ยังตามหลังช่อง 7 แต่หลังจากนั้นมาเรตติ้งนำโด่งเหนือทุกช่อง จนสร้างประวัติศาสตร์ ในตอนที่ 11 ในวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ด้วยเรตติ้ง 17.437 เป็นละครที่เรตติ้งสูงสุดในยุคทีวีดิจิทัล แซงแชมป์เก่า “นาคี” ที่ได้เรตติ้งตอนจบที่ 17.291
ในขณะเดียวกันราคาหุ้นของบีอีซี ก็ผ่านพ้นจุดต่ำสุด ค่อยๆ ขึ้นมา จนเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ปิดตลาดอยู่ที่ราคา 13 บาท
ฟันรายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
ช่วงวันพุธ พฤหัส ก่อนหน้าที่ “บุพเพสันนิวาส” จะเข้าผัง เป็นช่วงที่ช่อง 3 มีปัญหากับเรตติ้งค่อนข้างมาก เพราะละคร “เสน่ห์นางงิ้ว” เป็นละครที่มีเรตติ้งต่ำสุดของช่อง ได้เรตติ้งเฉลี่ยเพียง 2.08 เท่านั้น การมาของ “ออเจ้า” จึงไม่มีใครคาดคิดว่าจะฟื้นเรตติ้งวันพุธ พฤหัสของช่องให้กลับมาเปรี้ยงปร้างสดใสได้ขนาดนี้
จากการขายโฆษณาล่วงหน้าไม่เต็ม แต่เมื่อกระแสมา ละครปัง ทุกอย่างก็ถาโถมเข้ามา จนโฆษณาล้นทุกช่วงเวลา จากราคาโฆษณาช่วงละครไพรม์ไทม์ช่อง 3 ราคาขายจริงอยู่ที่นาทีละ 480,000 บาท
“บุพเพสันนิวาส” ออกอากาศไปแล้ว 12 ตอน จากทั้งหมด 15 ตอน ออกอากาศวันละ 2.30 ชั่วโมง มีเวลาโฆษณาตอนละ 31.25 นาที คิดเป็นรายได้จาก 15 ตอน ช่อง 3 จะมีรายได้ทั้งหมด 225 ล้านบาทจากละครทั้งเรื่อง
แต่เมื่อช่อง 3 ประกาศเพิ่มตอนพิเศษอีก 3 ตอนในช่วงสงกรานต์ ซึ่งปกติเป็นช่วงที่สินค้าต่างๆ จะไม่ใช้เงินลงทุน เพราะเป็นเทศกาลหยุดยาว แต่ปรากฏว่าลูกค้าติดต่อผ่านเอเจนซี่รุมซื้อจนเต็มทั้ง 3 ตอนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมรายได้จากช่วงนี้ จะได้อีก 45 ล้านบาท เมื่อรวม 18 ตอน ช่อง 3 ได้เงินจากค่าโฆษณาทั้งหมด 270 ล้านบาท
นอกจากโฆษณาแล้ว ด้วยกระแสความดังของออเจ้า ช่อง 3 ยังกวาดรายได้อื่นๆ อีก ตั้งแต่การจัดอีเวนต์ การขายสินค้า merchandise พิเศษของละคร สติกเกอร์ไลน์ และที่สำคัญรายได้จากโฆษณาออนไลน์ ทางเว็บ Ch3Thailand และ Mello ช่องทางออนไลน์ของช่อง 3 ที่อาศัยความดังของละครเรื่องนี้แจ้งเกิดได้ทันที
เมื่อรวมรายได้ทั้งหมด จากโฆษณา และรายได้อื่นๆ คาดการณ์กันว่า จากละครเรื่องนี้ ช่อง 3 จะได้รายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
โฆษณาเข้าเต็มทุกช่วง ก่อนและหลังละคร
กระแสของบุพเพฯ ยังทำให้รายการทั้งก่อนหน้าและหลังของละคร มีเรตติ้งพุ่งสูงขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เริ่มตั้งแต่ละครเย็น “คุณแม่สวมรอย” ที่มาแรงเรตติ้งแซงหน้าละครเย็น “เขยผู้ใหญ่ สะใภ้กำนัน” ของช่อง 7
พอถึงช่วงสองทุ่มก่อนเข้าละคร รายการข่าวสั้นๆ ทั้งแฟลชนิวส์ และสีสันบันเทิง เรตติ้งพุ่งทะยานต่อเนื่อง
ตัวอย่างเรตติ้งรายการช่วง 20.00-23.00 น. ของวันพฤหัสที่ 29 มี.ค. “บุพเพสันนิวาส” ได้เรตติ้ง 17.379 ในขณะที่ “สีสันบันเทิง” ได้เรตติ้ง 11.707 ตามต่อด้วย รายการแฟลชนิวส์ (20.20) รายการข่าวสั้นก่อนเข้าละคร ได้เรตติ้ง 13.059 และเมื่อละครจบ “ข่าว 3 มิติ” ก็ยังได้เรตติ้ง 4.658
จากผลเรตติ้งดีทั้งช่วงนี้ ทำให้ช่อง 3 สามารถขายโฆษณาได้เพิ่มเข้ามาในทั้งช่วงก่อนและหลังละครเพิ่มขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีผลต่อละครล็อตใหม่ของช่องที่วางเข้ามาอย่าง “คมแฝก” ที่ออกอากาศต่อจาก “เงินปากผี” ในวันจันทร์ อังคาร ได้เรตติ้ง 2 ตอนแรกอยู่ที่ 5.831 และ 5.817 ที่ชนะละครหลังข่าว “เสน่หามายา” ตั้งแต่วันที่ออกอากาศตอนแรก ซึ่งมีรายงานจากวงการเอเจนซี่ว่า ช่อง 3 สามารถขายโฆษณาช่วงละคร “คมแฝก” ได้หมด 100% แล้ว ทำให้ผังละครและรายได้ของช่วงไพรม์ไทม์ ตั้งแต่วันจันทร์-พฤหัส ชุดนี้แน่นปึ๊ก สร้างรายได้อีกอย่างน้อย ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท
คงเหลือเพียงช่วงละครไพรม์ไทม์ในช่วงวันศุกร์-อาทิตย์ ช่อง 3 จัดละครชุดใหม่ “บ่วงรักซาตาน” มาเจอของแข็งละครพีเรียดรักโรแมนติก พ่อแง่ แม่งอน “สกาวเดือน” ช่อง 7 จึงยังขายโฆษณาได้ไม่เต็ม
ลุ้นหลัง “บุพเพฯ” จบ เกมชิงเรตติ้งจะเป็นของใคร
ละครพีเรียดอิงประวัติศาสตร์ชุดใหม่ “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” ที่ช่อง 3 จัดมาออกอากาศต่อจาก “บุพเพสันนิวาส” เป็นอีกหนึ่งความหวังของช่อง 3 ที่จะมาสานต่อความแรงของออเจ้า ที่ตั้งเป้าว่าจะสามารถขายโฆษณาได้เต็มอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งบรรดาเอเจนซี่และลูกค้ายังคงจดๆ จ้องๆ รอดูสถานการณ์และกระแสของเรื่องนี้อีกครั้ง ก่อนตัดสินใจ
ช่วงปลายเดือน เม.ย. หลังจากที่ “บุพเพสันนิวาส” จะจบลงวันที่ 19 เม.ย. จึงเป็นช่วงที่บรรดาทีวีดิจิทัลช่องอื่นๆ ต่างก็หวังจะพลิกเกม จัดหนักจัดเต็ม ชิงเรตติ้งกลับคืนจากช่อง 3
เกมนี้จึงน่าสนุก น่าลุ้น และน่าติดตามอย่างยิ่ง.