ช่วงหน้าร้อนเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจเครื่องดื่มทุกประเภท ที่แบรนด์ต่างพากันลุกขึ้นมาจัดกิจกรรมการตลาดขับเคี่ยวกันอย่างไม่ลดละ เพื่อโกยส่วนแบ่งการตลาดช่วงที่ยอดขายพีคที่สุด แต่ระหว่างร้อนนี้ อีกเทศกาลที่แบรนด์ต้องเข้าไปสร้างสีสันคือ “เทศกาลสงกรานต์” เพราะถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคจะออกมาร่วมสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน (Fun time)
ปีนี้สงกรานต์เริ่มสาดความสนุกตั้งแต่วันที่ 13-15 เม.ย. 2561 สิ่งหนึ่งที่เห็นเสมอแบรนด์สินค้าโดยเฉพาะเครื่องดื่มมัก “ประมูล” ยึดทำเลทอง “ถนน” ข้าวต่างๆ ทั้งข้าวสาร ข้าวเหนียว ประตูรอบเมืองเชียงใหม่เพื่อเป็นสปอนเซอร์บ้าง เป็น “เจ้าของงาน” บ้าง เพื่อให้แบรนด์เข้าไปใกล้ชิดผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายให้มากสุด
“ถนนข้าวสาร” ถนนต้นแบบของเทศกาลน้ำสงกรานต์ที่สุดมันส์! ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติจำนวนมากที่พร้อมใจกันปักหลักสาดน้ำกันทั้งวันจรดค่ำ แลนด์มาร์กดังกล่าวได้ “น้ำดำ” แบรนด์โลคัลอย่าง “เอส” เข้าไปเป็นสปอนเซอร์งานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นการเข้าไปแทนที่ “โค้ก” ติดต่อกันหลายปีแล้ว
ขณะที่ “เป๊ปซี่” เน้นยึดทำเลที่เป็น “จุดแข็ง” ในการจัดกิจกรรมสงกรานต์ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกับ “ยูดีทาวน์” ห้างค้าปลีกอุดรธานีจัด “ยูดีทาวน์ วันเดอร์ วอเตอร์ แลนด์ สงกรานต์ 2018” เพราะไข่แดงแห่งภาคอีสานตอนบนแห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวแห่ไปสนุกสาดน้ำกันไม่ต่ำกว่า 350,000 คน
และยังจับมือกับ “บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา” จัด “PEPSI Presents SONGKRAN Korat 2018” ที่จัดเต็มทั้งคอนเสิร์ต อุโมงค์น้ำบริเวณลานกิจกรรมหน้าห้างทั้งหมด เรียกว่าเป็นหนึ่งในอีเวนต์สงกรานต์ที่ใหญ่สุดของซีพีเอ็น จากทั้ง 2 ค่ายจัดหนักเป็นพันธมิตรกันจัดอีเวนต์สงกรานต์ไปยังศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ราว 30 แห่งทั่วประเทศ
ขณะที่บิ๊กอีเวนต์จัดติดต่อกัน 3 ปีแล้ว คือผนึกกับ บริษัท วู้ดดี้ เวิลด์ จำกัด ของ “วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา” จัด “Pepsi Presents S2O Songkran Music Festival 2018” ที่ยึดย่านอาร์ซีเอเป็นแลนด์มาร์กให้คนรุ่นใหม่ไปปาร์ตี้สงกรานต์กัน หลายแลนด์มาร์กอาจเข้าฟรี แต่ที่ S2O ต้องเสียค่าเข้าร่วมกิจกรรม บัตรราคาเบาะๆกระเป๋า 2,000 บาทต่อวัน เพราะงานนี้นอกจากการสาดน้ำเป็นไฮไลต์แล้ว ยังได้เต็มอิ่มกับ “ดีเจอีดีเอ็ม” (Electronic Dance Music) ระดับโลก ซึ่งสอดคล้องกับเป๊ปซี่ที่เป็น “โกลบอลแบรนด์” นั่นเอง
สำหรับเทศกาลสงกรานต์ เป็นกิจกรรมที่ “วัยรุ่น” ให้ความสนใจอย่างมาก และ “เป๊ปซี่” ก็มุ่งจับกลุ่มเป้าหมายอายุ 15 ปีขึ้นไป ดังนั้น เมื่อแบรนด์ลงไปเสิร์ฟถึงพื้นที่ จึงเพิ่มโอกาสเข้าไปอยู่ในใจ (Top of Mind) ผู้บริโภคเพิ่มตามไปด้วย
“เป๊ปซี่ทำกิจกรรม Fun time moment หลากหลายแพลตฟอร์มทั้งมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง อาหาร และความสนุกสนานอย่างช่วงสงกรานต์ ก็มีทั้งกิจกรรมที่เป็นมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง เราพาแบรนด์ไปใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น ขณะที่การเลือกพื้นที่ในการลงไปทำอีเวนต์ เราจะเน้น Key Strategic location อย่างภาคกลาง ภาคอีสาน เป๊ปซี่ถือว่ามีจุดแข็งและเจาะตลาดจังหวัดหลักๆ ได้ดี” “สมชัย เกตุชัยโกศล” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าว
นอกจากได้สร้างแบรนด์ แน่นอนว่าการเป็น “สปอนเซอร์หลัก” ของงาน ยังเป็นการยึดพื้นที่เพื่อ “ขายสิค้า” เพียงรายเดียวด้วย นั่นหมายถึงโอกาสกอบโกยยอดขายในช่วงสั้นๆ จะเป็นแรงส่งให้การเติบโตช่วงนาทีทองได้อย่างดีด้วย
ไม่แค่สงกรานต์ที่เป๊ปซี่บุหนักภาคอีสาน แต่ที่ผ่านมา สารพัดกิจกรรม เป๊ปซี่ค่อนข้างเทงบ เทอีเวนต์มายังพื้นที่ดังกล่าวด้วย เพราะต้องยอมรับว่า “อีสาน” เป็นภาคที่มีจังหวัดมากถึง 20 จังหวัด มากเป็นอันดับ 2 รองจากพื้นที่ภาคกลาง 21 จังหวัด ดังนั้นการเฉือนชนะใน “ตลาดที่มีขนาดใหญ่” จึงเป็นตัวแปรที่ช่วยพลิกเกมน้ำดำได้
ข้อมูลจากเดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) ระบุว่า ปี 2560 ตลาดน้ำอัดลมมีมูลค่าราว 54,900 ล้านบาท “หดตัว” 4.74% “เป๊ปซี่” ยังรักษาการเติบโตในเชิงบวก และมีส่วนแบ่งตลาด 45% ในบรรจุภัณฑ์แบบไม่ต้องคืนขวด (Non-Returnable Packaging) ซึ่งนับตั้งแต่การบุกหนักตลาดเครื่องดื่มรับซัมเมอร์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมากับโกลบอลแคมเปญ “PEPSI GENERATIONS หรือ เป๊ปซี่ ซ่าทุกยุค…ไม่มีเปลี่ยน” “สมชัย” บอกว่าส่วนแบ่งการตลาดของเป๊ปซี่ยังขยับขึ้นต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม พ้นสงกรานต์ไป เป๊ปซี่ เตรียมแพลตฟอร์ม Sport Marketing มาสู้ศึกน้ำดำรอบใหม่ช่วงมหรรม “ฟุตบอลโลก” ช่วงเดือนมิถนายนนี้
จะซัมเมอร์ สงกรานต์ และกีฬา ตลาดน้ำดำยังเป็นเกมที่เดือด! เสมอ.