กำไรชาเขียวลดวูบ “เสี่ยตัน” หันเอาดีธุรกิจอสังหาฯ ลุยโปรเจกต์คอมมูนิตี้มอลล์ “วัน นิมมาน” กลางเมืองเชียงใหม่

เมื่อลมเปลี่ยนทิศ “ธุรกิจชาเขียว” ไม่ได้เฟื่องฟู นอกจากจะโกยยอดขายขึ้นๆ ลงๆ บางปี แต่การทำ “กำไร” ของ “บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป” ของ “เสี่ยตัน ภาสกรนที” ไม่ได้สวยงามนัก เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขบรรทัดสุดท้าย (Bottom line) จากที่เคยอยู่ระดับ “พันล้านบาท” ในปี 2557 ก็ทยอยลดลงมาอยู่ที่ 812 ล้านบาท ในปี 2558 ลดลงเหลือ 368 ล้านบาท ในปี 2559 และลดมาอยู่ที่ 315 ล้านบาท ในปี 2560 ที่ผ่านมา

นั่นจึงเห็นเสี่ยตันเบนเข็มเอาดีกับการงัดกรุที่ดินมาพัฒนา “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์” เพราะนอกจาก “กำไรขั้นต้น” อยู่ระดับหลายสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ยังสามารถทำเงินให้ต่อเนื่อง (Recurring Income) จากการเก็บค่าเช่าพื้นที่ต่างๆ

แม้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เสี่ยตัน จะพยายามอยู่เบื้องหลัง และดันลูกสาว “วริษา ภาสกรนที” ให้อยู่เบื้องหน้ามากขึ้น บริหารธุรกิจเต็มตัว แต่กระนั้นก็ยังเห็น “ตัน” ตามติดให้คำปรึกษาลูกอยู่ไม่ห่าง

ปลายปี 2560 “ตัน” เพิ่งเปิดตัวโครงการ “ทีวัน” (T-ONE) เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ ย่านทองหล่อ มูลค่า 3,000 ล้านบาท และให้ “วริษา” บริหาร จากก่อนหน้านี้เธอดูแลโรงแรมวิลล่า มาร็อก ปราณบุรี, โรงแรมอีสติน เชียงใหม่ อยู่แล้ว

 ทว่า ล่าสุดได้รุกคืบพัฒนา “คอมมูนิตี้มอลล์” แห่งใหม่ “วัน นิมมาน” (ONE NIMMAN) บนทำเลทอง 13 ไร่ ที่ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 1 บริเวณแหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตของจังหวัดเชียงใหม่

โครงการ “วัน นิมมาน” สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด Crafting Creative Community โดยพลิกห้างค้าปลีกให้เป็นแหล่งรวมวิถีชีวิตร่วมสมัยและร้านค้าสร้างสรรค์เข้าไว้ด้วยกัน และภายในโครงการแบ่งพื้นที่เป็น 6 โซน ประกอบด้วย

1. โรงแรมยูนิมมาน  

โรงแรมระดับ 5 ดาว ขนาด 150 ห้อง และที่พักอาศัยระยะยาว (Residence) ระดับ 4 ดาว 150 ห้อง

2. Nimman Convention Center 

สถานที่จัดประชุม งานแต่งงาน จัดเลี้ยง และอีเวนต์ ที่ชูจุดเด่นด้านการตกแต่งสไตล์ยุโรปหรูหรา ซึ่งสามารถรองรับผู้ร่วมงานได้ถึง 500 คน

 3. Artisan Street 

แหล่งรวมผลิตภัณฑ์และการบริการดังๆ ของเมืองเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่นจากนักออกแบบท้องถิ่น สินค้าทำมือ ของแต่งบ้าน และผลิตภัณฑ์ความงาม ร้านอาหารระดับ signature ของเมืองเชียงใหม่ที่มีคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล

4. One Square 

จุดนัดพบ ลานพักผ่อน มุมสำหรับถ่ายรูป ทำหน้าที่เป็นลานอเนกประสงค์ รองรับกิจกรรมทางวัฒนธรรมร่วมสมัยและเวิร์คช้อปสร้างสรรค์

 5. One Street Food Market 

แหล่งรวมสตรีทฟู้ดชั้นนำของเชียงใหม่กว่า 50 ร้าน

6. All One 

แหล่งช้อปปิ้งของฝากเชียงใหม่และของฝากขึ้นชื่อของเมืองไทย เอาใจนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มีแบรนด์ดัง เช่น กระเป๋าแบรนด์ FREITAG, ร้านขนมดัง MANGO TANGO ร้านช็อกโกแลต Melt Me และผลิตภัณฑ์โฮมสปา HARNN และPANPURI รวม 6 โซน มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ศิลปะกว่า 100 ร้าน

จะเห็นว่าโซนทั้ง 6 ตอบโจทย์ตั้งแต่การพัก กิน เที่ยว และปลดปล่อยไลฟ์สไตล์ได้ครบครันในที่เดียว

 “วริษา ภาสกรนที” กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ตันบุญ จำกัด ผู้บริหารโครงการ กล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวนิยมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ ต้องการเสพวิถีชีวิตที่แท้จริงของคนพื้นถิ่น ซึ่ง เชียงใหม่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวอย่างดี เพราะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีจิตวิญญาณแห่งศิลปินในตัว ส่วนโครงการ ONE NIMMAN เป็นการรวบรวมร้านค้าที่มีอัตลักษณ์และเสน่ห์มาไว้ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ Graph ร้านชา Monsoon ซึ่งเป็นตัวอย่างของร้านค้าแบบ Destination สำหรับการใช้ชีวิตอย่างผสมผสานศิลปะ

สำหรับ “วัน นิมมาน” บริษัทต้องการพัฒนาให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่บนถนนนิมมานเหมินท์ เมื่อเปิดให้บริการคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติมาเยือนราว 9 ล้านคน แบ่งเป็นคนไทยเกือบ 6 ล้านคน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกือบ 3 ล้านคน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง.