ตามดูออฟฟิศใหม่ ไลน์ ประเทศไทย อยากโกยหัวใจวัยมิลเลนเนียม

สภาพแวดล้อมในออฟฟิศ และการทำงาน เป็นของคู่กัน ยิ่งเป็นธุรกิจด้านเทคโนโลยี เจ้าของแอปพลิเคชั่นที่ถูกต่อยอดออกเป็นบริการมากมาย อย่าง ไลน์ ประเทศไทย ต้องออกแบบออฟฟิศ ให้ดึงดูดคนทำงาน เมื่อมาร่วมงานในไลน์แล้ว สามารถเกิดไอเดียใหม่ๆ ได้ทุกที ทุกเวลา แบบไร้ข้อจำกัด

ไลน์ ประเทศไทย นอกจากจะเป็นเจ้าของแชตแอปที่มีคนไทยใช้งาน 42 ล้านราย เวลานี้ยังพัฒนาให้เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ มีบริการใหม่ๆ ออกมาต่อเนื่อง เช่น ไลน์แมน ไลน์ทีวี และไลน์ จ็อบส์ ซึ่งเป็นบริการล่าสุดที่กำลังเปิดตัว

ปัจจุบันไลน์มีทีมงาน 328 คน อายุเฉลี่ย 30 ปี มีครบทุกรุ่นตั้งแต่ GenY Gen Z จนถึง Baby Boomer อายุ 50 ปีขึ้นไป

การออกแบบออฟฟิศ จึงเป็นโจทย์สำคัญของไลน์ ที่ผ่านกระบวนการคิด ให้สอดคล้องกับรูปแบบการทำงานในยุคมิลเลนเนียม

มาดูกันว่า โฉมหน้าออฟฟิศใหม่ล่าสุดของ ไลน์ ตั้งอยู่บนอาคารเกษร ทาวเวอร์ นับเป็นสำนักงานแห่งที่ 3 ในช่วง 4 ปี ที่ไลน์เปิดดำเนินการในไทยจะมีโฉมหน้าอย่างไร

สุชาติ ภวสิริพร หรือ คุณเนตร หัวหน้าฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ และธุรการทั่วไป บอกกับ Positioning ว่า ออฟฟิศแห่งใหม่นี้ ได้ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับจุดยืนของไลน์ ที่ต้องการเป็นองค์กรที่ดีที่สุดด้านเทคโนโลยีของคนมิลเลนเนียมในประเทศไทย

อย่างแรกเลย คือ โลเคชั่น สาเหตุที่เลือกเกษรทาวเวอร์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่ถือเป็นซูเปอร์ไพรม์โลเคชั่น สะดวกต่อการเดินทางและอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า

สอง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นมิลเลนเนียม เวลาเลิกงานมักจะนัดเพื่อนๆ แฮงเอาต์ สังสรรค์และมักจะนัดที่กินที่เที่ยวในโซนใจกลางเมือง

สาม ฟาซิลิตี้รองรับทั้งเรื่องการทำงาน อาหาร และการพักผ่อนครบ โดยมีทั้งอาหารเช้า กลางวัน แต่ไม่มีช่วงเย็น เพราะต้องการให้พนักงานกลับไปทานข้าวกับครอบครัว เพื่อน

หากทำงานแล้วเครียด อยากผ่อนคลายจะมีโซนออกกำลังกาย โต๊ะปิงปอง โต๊ะพูล ห้องนวดแผนไทย ห้องนอนให้พนักงานบางส่วนที่ต้องทำงานช่วงกลางคืน เช่น เกม ที่อาจต้องโหลดกลางคืน หรือ ทีมไอที ที่ต้องทำงานจนถึงดึก

ส่วนพื้นที่ทำงาน เป็นแนวเปิดโล่งตามโจทย์หลักที่วางไว้ ต้องเป็น “โอเพ่นสเปซ” สะท้อนถึงวัฒนธรรมการทำงานที่ทุกคนสามารถสื่อสารกันตลอดเวลา เมื่อเกิดไอเดียใหม่ๆ ประสานกันได้ทันที เพราะการสื่อสารที่เปิดกว้าง จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับที่นี่

แม้แต่ที่ทำงานของคุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ ก็เป็นแค่โซนเล็ก ไม่ใช่แค่ไม่มีประตู หรือ no door policy เท่านั้น แต่ no wall policy ไม่มีกำแพงขวางกั้นเป็นแค่โซนเล็กๆ มีโต๊ะเลขา และโต๊ะประชุม เท่านั้น

ส่วนพนักงานต้องการคุยส่วนตัว จะมีโฟนบูธ หรือต้องการทำงานแบบใช้สมาธิ เหมาะกับทำงานคนเดียวไว้ให้ กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ

จะมีแค่ 2 แผนกเท่านั้น ที่มีห้องเป็นสัดส่วน คือ customer service ต้องเก็บความลับลูกค้า และทีมนักพัฒนา หรือ ทีมเอ็นจิเนีย ที่ทำงานไม่เป็นเวลา

แต่ละแผนกจะออกแบบให้แตกต่างกันไปตามรูปแบบของการทำงาน อย่าง ไลน์ทีวี จะมีกลิ่นอายคล้ายสถานีทีวี โดยจะมีจอทีวีติดอยู่ผนัง เพื่อให้ทีมงานรู้ว่าเวลานี้แต่ละช่องกำลังออนแอร์เรื่องอะไรอยู่

ส่วนไลน์เกม โต๊ะทำงานของแผนกนี้ไม่ใช้โต๊ะสี่เหลี่ยมเหมือนแผนกอื่นๆ แต่ออกแบบให้โค้งมนไปมา เพื่อต้องการสะท้อนว่าเกมเป็นเรื่องสร้างสรรค์สนุกสนาน

โซนไลน์แมนก็เช่นกันไฮไลต์ของแผนกนี้ คือ มอเตอร์ไซค์สไตล์เรโทร สัญลักษณ์ไลน์แมน แถมยังมีคาแร็กเตอร์บราวน์โคนี่ใส่ชุดไทย เพื่อสะท้อนว่ากุญแจสำคัญในการทำธุรกิจของไลน์ ให้ความสำคัญกับคนโลคัลมากที่สุด

ทั้งไลน์ทีวี และไลน์แมน ถือเป็นบริการที่เริ่มต้นที่ไทย เมื่อประสบความสำเร็จก็กำลังนำไปให้บริการในประเทศอื่นๆ ด้วย ทำให้แผนกนี้มีทั้งนักพัฒนาโปรเจกต์ แมเนเจอร์โปรดักต์ แพลนเนอร์ แบบฟูลทีม

สำหรับห้องประชุมถือว่าเป็นอีกหนึ่งในไฮไลต์ของที่นี่ มีถึง 19 ห้อง  รองรับตั้งแต่ 30-40 คนจนถึง 2 คน รวมถึงพื้นที่ประชุมแบบไม่เป็นทางการกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ทุกห้อง

การออกแบบภาพรวม ดูโมเดิร์น ผสมผสานกับมินิมัล ที่เรียบง่ายแต่ทันสมัย และแฝงไว้ด้วยรายละเอียดในการออกแบบให้แต่ละโซนมีคอนเซ็ปต์แตกต่างกันไป โดยมีคาแร็กเตอร์ของไลน์เข้าไปเป็นส่วนผสม

ห้องประชุมนั้น หลากหลายมาก มีทั้งห้องสไตล์ญี่ปุ่น ห้องมวยไทยมีเวที ระฆังไว้ให้เคาะพักยก ห้องกินรี สไตล์ไทยๆ ห้องชอกโก้ น้องสาวของบราวน์เป็นแฟชันนิสตาร์จึงออกแบบให้คล้ายเป็นห้องแต่งตัวของผู้หญิง หรือห้องมูน ออกแบบสไตล์อวกาศ

คนออกแบบก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นทีมออกแบบของไลน์เอง เพราะมีประสบการณ์ในเรื่องแบรนด์ และการใช้ไลน์คาแร็กเตอร์ ทั้งออนไลน์ออฟไลน์ ออกแบบบูธ จัดงาน จึงมีความเข้าใจความต้องการ และคอนเซ็ปต์ได้ดี

ด้วยความที่มีคอนเซ็ปต์หลากหลาย เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้จึงมาจากหลายแหล่ง มีทั้งจตุจักร ร้านเฟอร์นิเจอร์ย่านต่างๆ โดยที่คุณอริยะ และคุณสุชาติ ถึงกับไปเลือกซื้อด้วยตัวเอง เพราะถ้าเปรียบแล้ว ก็เหมือนกับการสร้างบ้างหลังใหญ่มาก จึงต้องลงตัวทั้งเรื่องความสวยงามและการใช้งาน

ถึงแม้ว่าจะเพิ่งย้ายมาไม่กี่เดือน แต่พื้นที่เริ่มไม่เพียงพอกับจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงต้องขยายเพิ่มอีก 1 ชั้น ซึ่งอยู่ระหว่างตกแต่ง