แฟชั่นร้อนๆบนกรีน

กอล์ฟเป็นกีฬาไม่กี่ประเภท ที่ไม่เหมือนกีฬาอื่นๆ อย่างฟุตบอลที่จะลงสนามทีต้องเปลี่ยนมาสวมใส่เสื้อยืดกางเกงบอล รองเท้าสตั๊ด แต่นักกอล์ฟ สวมใส่ชุดกอล์ฟไปทำงาน ช้อปปิ้ง หรือแม้แต่ไปดินเนอร์ ได้สบายๆ ทุกวันนี้ แฟชั่นกับกีฬากอล์ฟแยกกันไม่ออก เมื่อกลุ่มคนเล่น มีทั้งวัยรุ่น ผู้บริหารหนุ่ม สาว เด็ก ส่งผลให้เสื้อผ้าที่ดูเรียบขรึม มาสู่ความเป็นแฟชั่น สีสันสดใส แถมแอสเซสเซอรี่ ก็มีมากมาย เสื้อผ้า หมวก กิ๊บ แว่นตา รองเท้า ถุงมือ กระเป๋า แถมเป็นลูกค้ากระเป๋าหนัก ทำให้ธุรกิจซอฟท์ไลน์คึกคักเต็มไปด้วยผู้เล่นระดับแบรนด์แฟชั่นดังของโลก และแบรนด์กีฬาดัง หรือแบรนด์ที่เกิดมากับกีฬากอล์ฟโดยเฉพาะ

“แต่ก่อนเครื่องแต่งกายของกอล์ฟเรียบง่ายแต่โก้ แต่ปัจจุบันอิทธิพลส่วนหนึ่งมาจากสปอนเซอร์ที่พยายามแข่งขันดีไซน์สินค้าของตัวเองให้โดดเด่น ดังนั้นจึงมีสีสัน ดูน่าสนใจ โดนใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น และสามารถสวมใส่ได้ในหลายโอกาส ทั้งใส่เล่นกอล์ฟ ใส่เที่ยวหรือแม้แต่ออกงานปาร์ตี้” ธนยศ ทับทิม โปรกอล์ฟที่มีประสบการณ์เล่นกอล์ฟมายาวนาน 39 ปี และปัจจุบันดูแลและจัดหาสินค้ากอล์ฟของสปอร์ตมอลล์ วิเคราะห์ถึงเหตุผลที่ Soft Line ได้รับความสนใจทั้งจากนักกอล์ฟและคนดู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งทำให้ร้านขายสินค้ากอล์ฟโดยเฉพาะสปอร์ตมอลล์ เอ็มโพเรียมและพารากอน ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ จัดสรรพื้นที่ให้กับ Soft Line หลากหลายแบรนด์มากขึ้น โดยเฉพาะแนวแฟชั่นจ๋าเพื่อตอบสนองนักกอล์ฟชายอยากเท่ และนักกอล์ฟหญิงอยากเก๋

อย่างไรก็ตามนับเป็นเรื่องยากลำบากมิใช่น้อย หากแบรนด์ใหม่ต้องการแจ้งเกิดในธุรกิจกอล์ฟ โดยเฉพาะในส่วนของ Hard Line อันได้แก่ อุปกรณ์กอล์ฟต่างๆ ซึ่งแบรนด์ดังเก่าแก่ที่อยู่ในตลาดมานมนาน ล้วนมีฐานลูกค้าผู้ภักดีและพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีต่างๆอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงเห็นแบรนด์ในวงการแฟชั่นทั้งเก่าใหม่แตกไลน์แสวงหาโอกาสจากธุรกิจกอล์ฟจากผลิตภัณฑ์ Soft Line ซึ่งหอมหวานยวนใจ

เพราะเป็นที่รู้กันว่ากลุ่มคนที่เล่นกอล์ฟล้วนมีกำลังซื้อสูง ยินยอมจ่ายเพื่อไลฟ์สไตล์และภาพลักษณ์ที่ดูดีโดยไม่ต้องคำนึงถึงราคา หลายแบรนด์จึงกระโจนลงสนามรบร้อนๆนี้ ทั้ง J.INDERBERG, Mieko Uesako,SubSeventy ที่คนนอกวงการกอล์ฟไม่คุ้นหู รวมถึงOakley,ecco และแบรนด์แฟชั่นหรูระดับตำนานอย่าง Louis Vuitton ก็ออกผลิตภัณฑ์กระเป๋ากอล์ฟกับเขาด้วยด้วยสนนราคา 8,400 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 294,000 บาท

นอกจากนี้ยังมี Ralp Lauren ,Tommy Hilfiger,Hugo Boss และ Calvin Klein ด้วย

หรือแม้กระทั่งแบรนด์เก่าแก่ในโลกกีฬาก็ขอแจ้งเกิดใน Soft Line ของกอล์ฟแบบจริงจัง เช่น PUMA, Le Coq Sportif และ Reebok เป็นต้น ขณะที่Nikeและ Adidas หวังเอาดีทั้งสองกลุ่มผลิตภัณฑ์

ทั้งนี้สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดร่วมชัดเจนและเป็นรูปธรรม คือ ทุกแบรนด์ต่างใส่แฟชั่นลงใน Sport Wear แบบเต็มที่ สีสัน สดใส จัดจ้าน ยิ่งช่วยทำให้นักกอล์ฟดูโดดเด่นชวนมอง

เข็มขัดอย่างเดียวขาย 5 ล้านเส้นทั่วโลก

เมื่อนักกอล์ฟวาดวงสวิงอย่างสวยงาม ไม่เพียงแต่เสื้อผ้าและรองเท้าปรากฏสู่สายตาคนภายนอกเท่านั้น เข็มขัดก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักกอล์ฟดูดี ยิ่งถ้าเข็มขัดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครด้วยแล้ว ราคาก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แนวคิดเหล่านี้เองได้สร้างโอกาสให้กับ J. LINDEBERG เจ้าของสัญลักษณ์ JL ขายดิบขายดี เมื่อเข็มขัดของผู้ผลิตจากสวีเดนรายนี้ โดนใจนักกอล์ฟทั่วโลก

J. LINDEBERG ถือกำเนิดในสวีเดน ต่อมาไปสร้างชื่อเสียงโด่งดังในสแกนดิเนเวีย ยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และฮ่องกง ในฐานะแบรนด์แฟชั่นยุคใหม่ถือกำเนิดเมื่อปี 2539 ผสมผสานระหว่างแฟชั่น และ Sport Wear เข้าสู่ไลน์กอล์ฟ โดยมีเสื้อผ้าของทั้งผู้หญิงและผู้ชาย รวมถึง accessories มากมายทั้ง กระเป๋ากอล์ฟ ผ้าขนหนู ถุงมือ หมวก และที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ เข็มขัด

เข็มขัดที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ผลิตเพียงแบบละ 1 ชิ้นเท่านั้น ราคาจำหน่ายเส้นละห้าพันจนเหยียบหมื่นบาท และเข็มขัดของ JL ขายไปแล้วทั่วประโลกประมาณ 5 ล้านเส้น

สุนทร สุรีย์เหลืองขจร จากสปอร์ต มอลล์ เล่าให้ฟังว่า JL ดังขนาดที่ว่าเคยเห็นเด็กอายุ 7 ขวบ ออดอ้อนพ่อแม่ให้ซื้อเข็มขัด JL เส้นละ 7,000 บาทให้

ถึงแม้จะเป็น Golf wear แต่ก็แฟชั่นจ๋า เรียกได้ว่าถ้าไม่ใส่ตีกอล์ฟ ก็สามารถใส่เฉิดฉาย หรือเดินเท่ห์ๆ บนรันเวย์ร่วมกับแบรนด์อื่นๆ ได้แบบเนียนๆ ด้วยสไตล์เรียบหรูดูสง่างามและอุดมไปด้วยกลิ่นอายโบฮีเมียน

เสื้อโปโลตัวละ 100 ยูโร หรือตัวละประมาณ 4500บาท แม้จะราคาสูงกว่าเสื้อผ้าของบางแบรนด์ที่เด่นในเรื่อง Hard Line แต่ JL ก็ยังมีแฟนคลับอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้ JL ยังขอสร้างสีสันในตลาด Hard Line กับหัวไม้กอล์ฟ ด้วยการทำ Brand Collaboration กับ Vega แบรนด์กอล์ฟจาก UK ด้วย

ปัจจุบันมีจำหน่ายใน 25 ประเทศทั่วโลก ในไทยนำเข้าโดย และ JL ยังก้าวเข้าสู่ตลาด Solf line ของสกีเมื่อต้นปีที่ผ่านมาอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์กีฬาหรูโดยแท้

คนดังในฮอลลีวู้ดอย่าง แบรด พิทท์ ก็เคยใส่ชุดของ JL ร่วมงานประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำ ประจำปี 2549มาแล้ว

เปรี้ยว จัดจ้าน สไตล์ MEIKO UESAKO

แบรนด์ดาวรุ่งจากญี่ปุ่น โดยบริษัทนอร์มา จีนส์ นำเข้าและจัดจำหน่ายในไทยโดยบริษัท คาสโก้ และเป็น Exclusive brand ของสปอร์ตมอลล์ เป็นผลงานของดีไซเนอร์ญี่ปุ่นวัย 56 ปี มิเอโกะ ฮูซาโกะ ที่แม้จะใกล้แซยิดแล้ว แต่สไตล์ของเธอก็โดนใจสาวรุ่นลูก รุ่นหลานไม่น้อย

อันที่จริงแบรนด์นี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2518 แต่เพิ่งเข้าสู่ไลน์กอล์ฟได้ไม่นานประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ฮอตฮิตติดใจสาวๆ นักกอล์ฟอย่างรวดเร็ว

ผลิตภัณฑ์ของMieko Uesokoออกแนวเปรี้ยวอมหวานสะท้อนความเป็นผู้หญิงอย่างเต็มที่ ทั้งเสื้อปักเลื่อมแพรวพราว ทั้งลูกกอล์ฟสีลูกกวาดเพ้นท์ลายการ์ตูน ถุงกอล์ฟลวดลาย สุนัข แมว ดูสดใสน่ารัก บ้างจัดจ้านเปรี้ยวปรี๊ด นอกจากนี้ยังมีร่ม ที่ใส่ขวดน้ำ ผ้าขนหนู มาร์กเกอร์ โบว์ หมวก และเสื้อผ้าที่ถ้าไม่บอกไม่มีทางรู้เลยว่านี่คือเสื้อผ้าใส่เล่นหรือแม้กระทั่งใส่แข่งขันกอล์ฟอย่างจริงจังได้

แม้จะเด่นใน Solf line แต่ Mieko Uesako ก็มี Hard Line กับไม้กอล์ฟลายเชอรี่ด้วย ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ไว้อย่างเหนียวแน่นเช่นกัน เพื่อรองรับแฟนคลับที่คลั่งไคล้อยากใช้สินค้าแบบครบเซ็
59 Belts

เข็มขัดนับเป็นaccessorie ที่ฮอตมากของนักกอล์ฟ เพราะทุกครั้งที่หวด หรือโชว์วงสวิงจะเผยให้เห็นเข็มขัดและแน่นอนมันช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้กับนักกอล์ฟได้ไม่น้อย

59 Belts จากสหรัฐอเมริกา เป็นเข็มขัดที่ดีไซน์โลโก้แบบ one-to-one ให้กับนักกอล์ฟชื่อดังทั่วโลก ด้วยวิชั่นในการออกแบบ คือ Quality-Fashion-Function หัวเข็มขัดที่มีโลโก้เฉพาะตัวของนักกอล์ฟ และสามารถถอดเปลี่ยนกับสายเข็มขัดหลากสีได้ เพื่อให้เข้ากับชุดที่ใส่ในแต่ละครั้ง

59 Belts ผลิตในสหรัฐอเมริกา เอ่ยอ้างว่าหัวเข็มขัดทำจากสแตนเลสสตีลที่แข็งแกร่งมากและได้ผ่านการทดสอบจากหัวกระสุนแล้ว ด้วยการวาง Positioning ที่ชัดเจนและมีจุดขายใน 3 ประการดังกล่าว ทำให้ 59 Belts กลายเป็นตัวเลือกสำคัญของนักกอล์ฟ

แน่นอนเมื่อทำชิ้นต่อชิ้นสนนราคาย่อมสูงตามไปด้วย หัวเข็มขัดโลโก้ 59 ราคา 220 ดอลล่าร์สหรัฐ ส่วนสายเข็มขัดราคาเส้นละ 45 ดอลล่าร์สหรัฐ เบ็ดเสร็จถ้าจะครอบครอง 59 Belts ต้องจ่ายประมาณ 11,000 บาท

Lorena Ochoa นักกอล์ฟหญิงอันดับ 1ของโลก ใส่เข็มขัดโลโก้ LO ของเธอเองตั้งแต่ปี 2550 เพื่อสนับสนุนกองทุนเพื่อสังคมของเธอ

นอกจากนี้ยังมีนักกอล์ฟคนอื่นๆ ที่ให้ใจกับ 59 Belts อีก เช่น Suzann Petterson และ Jiyai Chin เป็นต้น

ชุดออกรอบชุดเที่ยว…ชุดเดียวกัน

นอกจากเสื้อผ้าของไนกี้ กอล์ฟ จะถูกออกแบบให้มี Functional เหมาะกับการใช้งาน ที่ต้องระบายความร้อนได้ดี มีความยืดหยุ่น ใส่แล้วสบายท่ามกลางแดดร้อน เข้ากับวงสวิง และการดีไซน์ให้เหมาะกับประเทศนั้นๆ โดยการทุ่มเม็ดเงินที่ศูนย์วิจัยอยู่ที่ รัฐเท็กซัส เพื่อให้ได้เทคโนโลยี Dry Fit เป็นมาตรฐานแล้ว

ที่มากไปกว่านั้นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายกีฬากอล์ฟสามารถใส่ไปได้ทุกที่ ตามพฤติกรรมของนักกอล์ฟ ที่นิยมสวมใส่ไปทำงานพอหลังเลิกงานสามารถไปตีกอล์ฟต่อได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเหมือนอย่างกีฬาอื่น เช่น ฟุตบอล ว่ายน้ำหรือวิ่ง

“กอล์ฟเป็นกีฬาที่ต่างจากประเภทอื่นนอกจากอุปกรณ์แล้ว เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็ต้องออกแบบให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักกอล์ฟ ทั้งในด้านของฟังก์ชั่นและแฟชั่น” ” ศุภธิดา พรหมพยัคฆ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก ไนกี้ กอล์ฟ บอกถึงแนวโน้มของเสื้อผ้าสำหรับกอล์ฟในอนาคต

คอลเล็คชั่น Tiger Wood Platinum ใช้แบรนด์ TW Nike Golf ออกแบบด้วยดีไซน์เนอร์ระดับโลกของไนกี้ กอล์ฟ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยมเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุด เมื่อลูกค้าระดับครีมเหล่านี้ นิยมสวมใส่เสื้อผ้ากอล์ฟ ออกไปงานเลี้ยงหรู ต่อหลังจากตีกอล์ฟเสร็จ เธอ เชื่อว่า เทรนด์ใหม่นี้ จะสอดคล้องกับพฤติกรรมของนักกอล์ฟไทย ที่ต้องการความสะดวกสบาย และภาพลักษณ์ของกีฬากอล์ฟที่ต้องดูดี มีรสนิยม ทำให้เวลาแต่งตัวต้องมีความพิถีพิถันกว่ากีฬาประเภทอื่น ไม่ว่าจะหญิงและชาย เพราะเสื้อผ้าช่วยทำให้เพิ่มความมั่นใจและบุคลิกภาพดีขึ้น