“เนวิน ชิดชอบ” The Power-Brokers

พูดถึงผู้มีอิทธิพลตัวจริง เสียงจริงทางการเมือง วันนี้ไม่พูดถึง “เนวิน ชิดชอบ” คงไม่ได้แล้ว เมื่อเขาได้ก้าวมาถึงจุดที่เรียกว่า “เป็นผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมือง” และเป็นผู้นำกลุ่มการเมืองที่เปลี่ยนสถานะจาก ส.ส.ภาคอีสาน มาเป็น “ผู้มีบารมีทางการเมือง” ตัวจริงในยุคนี้ เบียดบังบารมี 3 ผู้เฒ่า “เสนาะ เทียนทอง สนั่น ขจรประศาสตร์ บรรหาร ศิลปอาชา” แทบจะสนิท

และในไม่ช้าอาจมีชื่อของเขา “เนวิน ชิดชอบ” นั่งในทำเนียบนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของไทยก็เป็นได้ !
“เนวิน ชิดชอบ” ก้าวสู่แวดวงทางการเมืองในปี พ.ศ. 2529 โดยได้รับเลือกเป็น ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ สังกัดพรรคประชาธิปไตย จากนั้นก็ได้รับเลือกเป็น ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์มาโดยตลอด

จากนั้นได้ตำแหน่งสำคัญทางการเมืองใน ปี 2538 โดยได้เป็นรัฐมนตรีครั้งแรกในตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ขณะที่อยู่กลุ่ม 16 จากนั้นในปี 2540 เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี 2545 เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปี 2548 เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (11 มีนาคม 2548) และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (2 สิงหาคม 2548)

“เนวิน ชิดชอบ” มีฉายาทางการเมืองหลายฉายาไม่ว่าจะเป็น “ชื่อพม่า หน้าลาว เว้าเขมร” เพราะมีชื่อเหมือนนายพลเนวิน อดีตผู้นำทหารพม่า แต่ฉายาที่ติดปากคนที่สุดกลับเป็นฉายา “ยี้ห้อยร้อยยี่สิบ” จากการสงสัยว่าเป็นผู้ทุจริตซื้อเสียงในการเลือกตั้งปี 2538 ที่บุรีรัมย์ อีกฉายาหนึ่งของเนวิน ชิดชอบ คือ “หมอผีเขมร” เขาได้รับฉายานี้ในฐานะที่เขาคือผู้ที่แนะนำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้ไสยศาสตร์ในการปกป้องคุ้มครองตัวเพื่อสู้กับการขับไล่ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตั้งแต่ปี 2549

เส้นทางของเนวินที่เติบโตอย่างรวดเร็วกระทั่งกลายเป็นคนอยู่แถวหน้าในแวดวงการเมืองได้ จะบอกว่าเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวของเนวินช่วยส่งเสริมก็ไม่ผิดนัก

เนวิน ชิดชอบ มีนิสัย และพฤติกรรมที่โดดเด่นกว่านักการเมืองอื่นๆ เขามีนิสัยกล้าได้กล้าเสีย ไม่สนใจใคร ที่สำคัญเขายังเป็นนักการเมืองที่มีลักษณะเป็น “นักเลงผสมผสานกับมาเฟีย” และเพียบพร้อมไปด้วย “วิชามารตัวพ่อ” พร้อมห้ำหั่นในศึกทั้งบนดิน-ใต้ดินทุกรูปแบบ ที่ร้ายกาจคือเขาไม่สนด้วยว่าศัตรูของเขาไม่ว่าจะเป็นใคร จะมีอันเป็นไปหรือไม่ ?

ที่สำคัญเมื่อใดที่เขาให้ใจกับใครแล้ว เขาก็พร้อมทุ่มเทให้สุดตัว เรียกได้ว่าทำงานถวายหัวได้เช่นกัน โดยพร้อมที่จะมีศัตรูและต่อสู้ให้แตกหักกันไปข้างหนึ่ง ศัตรูทางการเมืองของเนวินจึงมีจำนวนมาก แต่เขาก็ไม่แคร์
ทำให้หลายต่อหลายคนอยากเป็นเพื่อนกับเนวิน!

และด้วยอุปนิสัยอันนี้ จึงทำให้เขาถูกเลือกใช้งานในด้านวิชามารทุกรูปแบบ!

และด้วยบนพื้นฐานของการต่อสู้ของเนวิน เขาจะเข้าร่วมได้กับทุกฝ่าย ไม่ว่าฝ่ายเทพหรือมาร สิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือต้องมีผลประโยชน์มหาศาล และสู้แล้วเมื่อชนะต้องคุ้มค่ากับที่เขาได้ออกแรงกระทำไป เหมือนขณะที่เข้าร่วมก๊วนคนรักทักษิณ เขาเป็นคนหนึ่งที่ยอมปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ และยอมเป็นศัตรูกับคนที่ต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด จนเกิดวลี “เนวินมันรักผม มันตายแทนผมได้” ของ พ.ต.ท.ทักษิณขึ้นมา วันเลือก “ชัย ชิดชอบ” เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร

ทำไมคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณถึงกับต้องพูดประโยคนั้น คนอื่นอาจไม่รู้ แต่เนวินรู้แน่ว่าถ้าเขาทำอะไรอย่างนั้นเขาจะได้อะไรตอบแทน

นักการเมืองอาวุโสภาคอีสานท่านหนึ่ง เปิดเผยว่า การยอมมอบกายถวายชีวิตให้ทักษิณเวลานั้น ทำให้เนวินได้งานใหญ่มาไว้ในมือ คือได้เงินจำนวนมหาศาลจากทักษิณมาบริหาร และได้จัดการเรื่องคน เป็น “ผู้นำทัพเลือกตั้งในภาคอีสาน” ผ่านเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ จนสามารถสร้างบารมีและกลุ่มก้อนทางการเมืองมาจนสามารถตั้งพรรคภูมิใจไทยได้ในวันนี้นี่เอง

“ส.ส. ที่ได้รับเลือกตั้งหลายคนรู้สึกว่าการได้รับเลือกตั้งครั้งนี้เหมือนกับได้เป็นผู้แทนเพราะเนวินอยู่หลายคน สุดท้ายหลายคนจึงกลายเป็นคนในกลุ่มเพื่อนเนวิน”

ไม่เพียงงานเลือกตั้ง แต่งานด้านมวลชนใต้ดินก็เป็นงานถนัดของเขา เมื่อเขาได้รับหน้าที่จัดการม็อบ นปก.ทั้งหมด ไม่ว่าจะงานม็อบแดงชนม็อบเสื้อเหลือง หรือม็อบล้อมหน้าตึกเนชั่น ล้วนเป็นฝีมือและเป็นงานถนัดของเนวินคนนี้เอง

เมื่อได้งานสำคัญๆ หลายงานเข้า รวมกับมือเจ๋งๆ ของพรรคไทยรักไทยหลายคนโดนจับขังในบ้านเลขที่ 111 เนวินจึงเริ่มมีอำนาจใหญ่คับฟ้า เมื่อเขาหนุนสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีขัดตาทัพแทน
พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อยู่ต่างประเทศ จนมีข่าวแกงค์ออฟโฟร์ ประกอบด้วย สมัคร สุนทรเวช สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ธีระพล นพรัมภา (เสี่ยโป๋) และ เนวิน ชิดชอบ ขึ้นมาจัดการประสานผลประโยชน์ทุกฝ่ายและมีอำนาจมากที่สุดในพรรคพลังประชาชน

วันแตกหัก “พ่อ-ลูก”ระหว่างเนวินกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีขึ้นอย่างแทบไม่น่าเชื่อ หลังวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งสมชาย วงษ์สวัสดิ์ น้องเขยตัวเองขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ลดอำนาจกลุ่มแกงค์ออฟโฟร์ลง

ว่ากันว่าในช่วงแกงค์ออฟโฟร์นี้เองที่เขาวางแผนเรื่องผลประโยชน์มหาศาลจากกระทรวงคมนาคมไว้ก่อนหน้ามาเข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์และตั้งโครงการไว้แล้ว เมื่อมาเข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์สิ่งที่เตรียมการมาทั้งหมดจึงได้รับการสานต่อ

เนื่องเพราะหากอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณต่อไป จะมีสิทธิ์ตายยกรัง อีกทั้งถูกขัดใจเรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนวินจึงตัดสินใจมาอยู่ข้างอภิสิทธิ์ ยอมเป็นคนที่หักหลังทักษิณแบบที่ใครก็ว่าเขาว่า

เขาคือผู้ทรยศ “นาย” แต่เนวินก็ไม่สน เพราะภาพ “ทรยศเพื่อชาติ” ยังไงก็ดูดี!!

วันที่เขาเลือกนำกลุ่มเพื่อนเนวินออกมาจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะดูเหมือนเป็นการทำเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน แต่เนวินก็ได้เค้กในตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคมให้เด็กในสังกัด
เพียงแค่ 2 กระทรวง แต่เป็น 2 กระทรวงเกรด A ที่คนแย่งกันฝุ่นตลบ ซึ่งล้วนคุมงานเกี่ยวกับการสร้างฐานเสียง และสามารถตุนทุนไว้ใช้ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ได้อย่างสบายๆ

หลักสำคัญในการเป็นรัฐบาลโดยกฎกติกาที่ยึดถือกันมาในอดีต พรรคเสียงข้างมากที่จัดตั้งรัฐบาลเท่านั้นถึงจะได้คุม 2 กระทรวงนี้ หากใครต่อรองมาได้แม้กระทั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ก็ถือว่าต้องเป็นนักการเมืองระดับเก๋าเกม ไม่ธรรมดา

ครั้งนี้ถือได้ว่าบารมีทางการเมืองของเนวินเพิ่มขึ้น จนถึงจุดของนักการเมืองผู้มีอิทธิพลคนสำคัญในขณะนี้!
เมื่อวันนี้มีคนวิเคราะห์ว่า “เนวินถึงคราวคิดการใหญ่” ก็น่าจะเป็นไปได้มาก เพราะเวลานี้เขาก้าวผ่านทางเชื่อมจากพรรคประชาธิปัตย์มาจับมือกับทหารเบ็ดเสร็จเรียบร้อย

จิตตนาถ ลิ้มทองกุล ลูกชายคนเดียวของสนธิ พูดอย่างมั่นใจกับเวทีพันธมิตรที่ภูเก็ตว่า คนที่ลอบสังหาร “สนธิ ลิ้มทองกุล” พ่อของเขานั้น มี 4 กลุ่มร่วมมือกัน ได้แก่ ทหาร ตำรวจ นักการเมืองที่อยากเป็นครุฑตัวที่ 2 และนักการเมืองเบื้องหลังกลุ่มคนน้ำเงิน

คนอื่นอาจยังไม่ชัดว่าใคร แต่นักการเมืองเบื้องหลังกลุ่มคนน้ำเงินนี่ชัดเสียยิ่งกว่าชัด ว่า จิตตนาถ หมายถึงใคร?

ภาพหลุดการนั่งมอเตอร์ไซค์ฟีโน่ในเสื้อผ้าสีน้ำเงินจ๋า แถมโทรทัศน์หลายช่องยังจับภาพเนวิน ชิดชอบระหว่างอยู่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท กำลังคุยกับสุเทพ เทือกสุบรรณในชุดเสื้อน้ำเงินตัวเดิม และแถมเมื่อหันมาเห็นกล้องก็ทำเป็นรีบหันหลังไปทางอื่น แต่มันช้าไปหรือไม่

งานนี้เรียกว่าไม่ตั้งใจคงไม่ได้ เพราะคนที่วิชามารเพียบพร้อมอย่างเนวินคงไม่หลุดให้สื่อมวลชนหรือคนเสื้อแดงถ่ายภาพตัวเองในชุดน้ำเงินอะไรง่ายๆ แบบนี้ ถ้าเขาไม่จงใจกระทำการ!

ส่วนประเด็นในการกำจัด “สนธิ” ก็อาจเป็นแผนการหนึ่งที่ต้องการปลุกคนเสื้อเหลืองมาต่อสู้กับคนเสื้อแดงจนเกิดสงครามกลางเมือง แล้วจากนั้นก็จะมีการเอากำลังทหารมาปราบเพื่อสร้างความชอบธรรมในการเข้าสู่อำนาจของกลุ่มพวกพ้องตัวเองที่มีการวางรากลึกทั้งในกลุ่มการเมืองและกลุ่มสีเขียว

ขณะเดียวกันมีข่าวอีกว่า ลึกๆ แล้วคนกลุ่มนี้มีการต่อรองผลประโยชน์เพื่อต่อรองเงินจำนวน 20,000 ล้านบาทกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แลกกับการยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 และล้มคดีความทั้งหมดของ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย

ความจริงทั้งหมดในวันนี้อาจยังไม่ถูกเปิดเผย แต่การจับมือกับทหาร ตำรวจ การได้คุมกระทรวงสำคัญๆด้านฐานเสียงกับเงินมหาศาล รวมถึงการตั้งพรรคภูมิใจไทยขึ้นมาสู้ศึกเลือกตั้งในอนาคต น่าจะเป็นเครื่องบ่งชี้ได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากการวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อก้าวขึ้นสู่ “เก้าอี้นายกรัฐมนตรี” ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของนักการเมือง โดยเฉพาะนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลอย่างเนวิน ชิดชอบ คนนี้
ที่สำคัญตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในทางนิตินัยแล้ว ย่อมมีอำนาจและบารมีในการกำกับและสั่งการได้ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ

แต่หากเป็นนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ เนวิน ชิดชอบ ! ด้วยบริบทต่างๆ ที่เขาจัดวางนั้น ย่อมทำให้อำนาจ บารมีแผ่ขยายครอบคลุมทั่วราชอาณาจักรไทย ตามพฤติกรรมของตัวเองได้อย่างน่าสะพรึงกลัว !?