Pepsi VS Coke เริ่มแล้วสงครามโคล่ารอบใหม่

2 ขั้วอำนาจปะทุสงครามรอบใหม่ในสมรภูมิโคล่า หลังจากที่ผ่านมาหนีไปเล่นตลาดเครื่องดื่มกลุ่มชา น้ำดื่ม และกลุ่มเครื่องดื่ม organic มากขึ้น ล่าสุดสื่อหลายแห่งประเมินว่าเจ้าพ่อน้ำดำทั้ง Pepsi และ Coke กำลังกลับมาแข่งกันปลุกกระแสให้คนอเมริกันกลับมานิยมเครื่องดื่มซ่าอีกครั้ง เพื่อชิงพื้นที่ให้ได้ในตลาดคนนิยมโซดาที่หดตัวลงทุกที

หลังจากที่ Coca-Cola รายงานผลประกอบการงดงามไปแล้ว วันนี้ Pepsi โชว์ผลประกอบการบ้างโดยมียอดขายเติบโตมั่นคงในอเมริกาเหนือจากสินค้ากลุ่มชา Lipton และ Pure Leaf, กลุ่มน้ำดื่มพรีเมียม LifeWTR และกลุ่มเครื่องดื่มบำรุงผิวและร่างกาย Kevita kombucha โปรไบโอติก

ครั้งนี้ Pepsi ยอมรับว่ามีความท้าทายในธุรกิจโซดาสหรัฐฯ มากขึ้น แม้ว่ายอดขายเครื่องดื่ม Pepsi จะเพิ่มขึ้นมากในจีน อินเดีย บราซิล และตลาดอื่นทั่วโลก รวมถึงรายได้จากธุรกิจขนมขบเคี้ยวภายใต้แบรนด์ Frito-Lay ที่เติบโตดี (สินค้าเครือ Frito-Lay ได้แก่ขนมอบกรอบ Doritos และข้าวโอ๊ตธัญพืช Quaker)

ความท้าทายยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราเผชิญอยู่ตอนนี้คือตลาดโคล่า การแข่งขันในตลาดทำให้โฆษณาสินค้าตลาดโคล่าเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และเราก็จะทำในทางเดียวกัน รวมถึงจะทำมากขึ้นตามที่ทุกคนทำ Hugh Johnston ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Pepsi ระบุ

การยอมรับของ Pepsi ว่ามี challenge ในธุรกิจโซดาสหรัฐฯ มากขึ้นสะท้อนสถานการณ์ของ Pepsi ในขณะนี้ เพราะในขณะที่ Pepsi ทำเงินได้จากการขายสินค้าอื่นที่ไม่ใช่โซดามากขึ้น แต่คู่แข่งอย่าง Coca-Cola กลับมียอดขายและกำไรที่ดีขึ้นจากแบรนด์ Diet Coke ในอเมริกาเหนือ ผลจากการเปิดตัว Coke รสใหม่ที่เจาะเป้าหมายตรงไปที่ Millennial เช่น Ginger Lime และ Feisty Cherry ส่งให้ Diet Coke ได้รับความนิยมมากครั้งแรกในรอบ 7 ปี

แน่นอนว่า Pepsi ยอมไม่ได้ โดย Johnston ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNNMoney ว่า Pepsi ไม่ได้อยู่เฉยต่อความสำเร็จของ Coke เพราะบริษัทกำลังคิดค้นรสชาติใหม่ให้แบรนด์หลักของ Pepsi แต่ยังไม่มีการให้รายละเอียด โดยระบุเพียงว่าเป็นงานที่กำลังดำเนินอยู่

*** รสนิยมผู้บริโภคเปลี่ยน

สำนักข่าว Fortune วิเคราะห์ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สนามรบของ Pepsi และ Coke เปลี่ยนไปเพราะคนอเมริกันและคนทั่วโลกเริ่มออกห่างจากเครื่องดื่มโซดา แล้วเปลี่ยนไปดื่มเครื่องดื่มอื่นแทน Coca-Cola และ Pepsi จึงขยายพอร์ตการลงทุนจนทำให้เม็ดเงินที่เทลงในสินค้าหลักเริ่มลดน้อยลง รายงานจากวารสาร Beverage-Digest บันทึกไว้ว่าการบริโภคเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมในสหรัฐฯ ลดลงต่ำที่สุดในรอบ 31 ปีเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา ซึ่งกรณีของ PepsiCo นั้นหันไปทำธุรกิจประเภทอื่นที่ต่างไปโดยสิ้นเชิงอย่าง snack ขนมขบเคี้ยว

อย่างไรก็ตาม Pepsi ยอมรับในการประกาศผลประกอบการครั้งนี้ว่าตราสินค้ากลุ่มโคล่าของบริษัทยังคงมีความสำคัญ โดย Indra Nooyi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ PepsiCo มั่นใจว่าธุรกิจโคล่าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ แม้จะมีรายละเอียดธุรกิจที่เทียบไม่ได้กับตลาดขนมขบเคี้ยว แต่ก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่จะสร้างเงินหมุนเวียนได้มาก

ทั้งหมดนี้ทำให้ซีอีโอ Indra Nooyi การันตีว่าจะพลิกฟื้นกลับมาชนะในเกมโคล่าให้ได้ โดยใช้คำว่า “We’re going to fix this. Period.” หลังจากที่กลุ่มเครื่องดื่มในอเมริกาเหนือทำรายได้ให้ PepsiCo ลดลง บนแรงหนุนจากธุรกิจขนมขบเคี้ยวและยอดขายต่างประเทศ

ซีอีโอ PepsiCo ทิ้งท้ายว่า PepsiCo ยังคงเป็นแบรนด์ที่ซื้อสื่อต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคมอง PepsiCo เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งต่อไป

ไม่ว่าศึกครั้งใหม่จะร้อนแรงเพียงใด แต่ในขณะนี้ หุ้นของ PepsiCo ปรับตัวขึ้นมากกว่า Coca-Cola โดย PepsiCo หุ้นขึ้น 1.5% หลังประกาศผลประกอบการ ขณะที่ Coca -Cola หุ้นขึ้น 0.5% แต่ทั้งสองรายมูลค่าลดลงตั้งแต่ต้นปี.

Source

Source