“Starbucks” ควงเอสโซ่ เปิดสาขาในปั๊ม ประเดิม 3 สาขา นอกกรุงเทพฯ

นับเป็นการเปิดเกมรุกแบบวิน วิน ระหว่างเอสโซ่และสตาร์บัคส์ในการเปิดร้านกาแฟระดับพรีเมียม ในการเปิดสตาร์บัคส์ในปั๊มน้ำมัน

มาโนช มั่นจิตจันทรา กรรมการและผู้จัดการตลาดขายปลีก บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ESSO) บอกถึงที่มาของความร่วมมือ มาจากความต้องการในการรุกธุรกิจ Non-Oil ของเอสโซ่ ให้นำ้หนักกับธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน รวมทั้งธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) มากขึ้น ทั้งจากความร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้ารายเดิมอย่างต่อเนื่อง และสร้างพันธมิตรทางการค้ารายใหม่ 

โดยปีนี้ได้วางแผนเปิดร้านค้าในสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 50-60 ร้านค้า จากปัจจุบันที่มีอยู่ 307 ร้านค้า 

พันธมิตรทางการค้ารายใหม่ล่าสุด คือ ร้านกาแฟชื่อดัง Starbucks เปิดสาขาในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ประเดิม 3 สาแรก ภายในไตรมาส 4 เช่น บางบัวทอง นนทบุรี, วังมะนาว เพชรบุรี และกาญจนบุรี 

จากเดิมก่อนหน้านี้สถานีบริการน้ำมันเอสโซ่มีพันธมิตรทางการค้าที่เปิดร้านกาแฟหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นร้านคาเฟดิโอโร่ และร้านกาแฟราบิก้า เป็นต้น

นอกจากนี้ เอสโซ่ ยังเตรียมปรับรูปแบบร้านสะดวกซื้อไทเกอร์มาร์ทใหม่เพื่อรองรับความต้องการของบางสถานีบริการที่ต้องการมีร้านสะดวกซื้อที่ไม่ต้องมีขนาดใหญ่มาก แต่มีสินค้าที่คนในชุมชนต้องการ

ปัจจุบันเอสโซ่มีร้านไทเกอร์อยู่ 50 แห่ง จากเดิมที่เคยมีราว 100 แห่ง แต่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ทยอยปิดร้านไทเกอร์มาร์ทลง โดยให้พันธมิตรทางการค้าที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาเปิดแทน ไม่ว่าจะเป็นเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส, แฟมิลี่มาร์ท, มินิบิ๊กซี, เอส มินิมาร์ท 

ส่วนแผนการขยายสถานีบริการน้ำมันในปีนี้ จะเปิดเพิ่ม 80 แห่ง จากสิ้นปีที่แล้วมีอยู่ 553 แห่ง โดย 50 แห่งเป็นการเปลี่ยนจากสถานีบริการน้ำมันเพียวมาเป็นเอสโซ่แทน และที่เหลืออีก 30 แห่งเป็นการสร้างสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ใหม่

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนปรับโฉมปั๊มใหม่ให้เป็นตามมาตรฐานสถานีบริการน้ำมันเอ็กซอนทั่วโลก โดยช่วง มี..-เม..นี้จะเปิดสถานีบริการต้นแบบ 6 แห่ง บริเวณพระราม 4, รังสิต, วังน้อย, ลาดพร้าว, สมุทรสาคร และสมุทรปราการ โดยสิ้นปีนี้คาดว่าจะปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเดิมได้ราว 200 แห่ง และปี 2563 จะปรับปรุงครบทุกแห่งทั่วประเทศ โดยปีนี้บริษัทวางงบลงทุนในการขยายและปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันประมาณ 2 พันล้านบาท

จากนโยบายการรุกตลาดค้าปลีกอย่างเต็มที่ในปีนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันไว้เพิ่มขึ้นจากเดิม 11% เป็นอันดับ 4 รองจาก ปตท. บางจาก และเชลล์ โดยคาดว่าปลายปี 2561 จะมีส่วนแบ่งการตลาดแซงหน้าเชลล์.