สนามรบ “สปอร์ตรีเทล” คึก! “ซูเปอร์สปอร์ต” รื้อคอนเซ็ปต์ร้านใหม่ จัดหมวดสินค้า แบ่งโซนนิ่งเพศ

หากมองธุรกิจค้าปลีกสินค้าเสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา (Sport Retail) ในประเทศไทย กลายเป็นสนามรบให้กับทุกแบรนด์ดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น อาดิอาส, อันเดอร์ อาเมอร์, ไนกี้ แฟคตอรี่ สโตร์ เข้ามายึดพื้นที่เปิดแฟล็กชิพสโตร์ทั้งยิ่งใหญ่ด้วยพื้นที่ และอลังการด้วยสินค้าจัดมาเต็มครบครันตั้งแต่รุ่นปกติไปจนถึงลิมิเต็ด เอดิชั่นเพื่อให้สาวกที่ชื่นชอบกีฬาได้ช้อปกันตื่นตาตื่นใจ ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มเป้าหมายให้มากสุด 

เมื่อแบรนด์มาเปิดช็อปใหญ่โตเอง ย่อมมีผลต่อห้างค้าปลีกที่จัดสรรพื้นที่ หรือมีร้านค้าพิเศษ (Category Kiiler) ขายสินค้ากีฬาอยู่ไม่น้อย เพราะสินค้าแบบเดียวกัน กลุ่มเป้าหมายเดียวกัน ทำให้ต้องแย่งลูกค้า อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และผู้บริโภคยุคนี้ก็เห่อเข้าช็อปแบรนด์ดัง ทำให้สปอร์ตรีเทลยักษ์ใหญ่อย่างซูเปอร์สปอร์ตจึงลุกขึ้นทุ่มงบ 62 ล้านบาท ปรับโฉมร้านสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ซึ่งเป็นแฟลกชิพสโตร์ของซูเปอร์สปอร์ต เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ “Innovative and Creative Store” ดีไซน์ให้โดดเด่นเตะตาตั้งแต่แวบแรกที่เห็นร้านเลยทีเดียว 

นอกจากนี้ การจัดวางสินค้า (Display) ยกเครื่องใหม่หมด! จัดวางให้เป็นหมวดหมู่ (Category) รวบทุกแบรนด์มาอยู่ในหมวดเดียวกัน ประมาณว่าถ้าอยากได้สินค้ารองเท้าวิ่ง รองเท้าฟุตบอล เสื้อผ้ากีฬา อุปกรณ์กอล์ฟ ก็จะต้องมาครบ ณ จุดเดียวทั้ง Adidas Nike Under Armour Puma วางเรียงรายให้เลือกและเปรียบเทียบได้ในคราวเดียวเลย ไม่ต้องเดินจากช็อปของแบรนด์นี้ แล้วโยกไปช็อปอีกแบรนด์เพื่อวัดรายละเอียดกัน เหมือนเมื่อก่อนที่การ Display สินค้าถูกแยกขายตามแบรนด์เป็น Shop in Shop ซึ่งมีสินค้าหลากหลายสู้แฟลกชิพสโตร์แบรนด์ใหญ่ไม่ได้ ไหนจะพฤติกรรมการช้อปปิ้งของลูกค้ายุคนี้ต้องการตรงดิ่งหาสินค้าที่ต้องการใช้งานจริงๆ มากกว่าจะโฟกัสไปที่แบรนด์

จุดนี้ยังทำให้สปอร์ตรีเทลฉีกตัวเองให้ต่างจากช็อปของแบรนด์ใหญ่ได้มากขึ้นด้วย เพราะมีสินค้าที่หลากหลายและครบครันยิ่งกว่าการเดินเข้าไปช็อปที่มีเพียงแบรนด์เดียวขาย 

นางสาวอัจฉรา ซุ่นโลกประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารสินค้า บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด

จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค เราพบว่า Customer Journey เปลี่ยนไป เดิมลูกค้าจะซื้อสินค้าโดยพิจารณาจากแบรนด์เป็นลำดับแรก แล้วตรงไปหาสินค้าเป็นหมวดหมู่ต่างๆ แต่ตอนนี้ลูกค้าเลือกช้อปปิ้ง สินค้ากีฬาตามหมวดหมู่ ไลฟ์สไตล์ แล้วค่อยมองไปที่แบรนด์ เราจึงนำสินค้าทุกแบรนด์มาไว้ที่หมวดเดียวกันทั้งหมด ซึ่งแบรนด์ก็ช่วยดีไซน์ Display ตรงนี้ด้วยอัจฉรา ซุ่นโลกประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารสินค้า บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด

แค่นั้นไม่พอ! เพราะซูเปอร์สปอร์ตยังมีการนำเพศมาเป็นแบ่งโซนกำกับการช้อปปิ้งของผู้ชายผู้หญิงด้วย เพราะต้องยอมรับว่าผู้ชายไม่ได้มาจากดาวอังคารทุกคน และผู้หญิงก็ไม่ได้มาจากแค่ดาวศุกร์ 

เหมือนกับ Men Are From Mars, Women Are From Venus เลยทำให้ Customer Journey หรือวิถีการช้อปปิ้งของผู้บริโภคชายและหญิงมีความหลากหลายและแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งความชอบสินค้า หมวดสินค้า และแบรนด์ เป็นต้น 

จึงได้นำสีฟ้า มาเป็นตัวกำหนดพื้นที่ช้อปสำหรับหนุ่มๆ และสีชมพูบอกโซนช้อปคุณผู้หญิง ทำให้การช้อปปิ้งของแต่ละเพศ ได้เจอสินค้าและแบรนด์ที่อยากได้จริงๆ ไม่ใช่เดินช้อปไปหันซ้ายหันขวา เหลียวหน้าแลหลัง เจอสินค้าผู้หญิงชายสลับกันไปจนมึนตึ้บ! ทำให้การช้อปปิ้งสะดุดเปล่าๆ 

เราแบ่งโซนช้อปปิ้งโดยการนำเรื่องเพศมาเป็นตัวนำ (Lead) เพื่อให้ผู้หญิงได้หลงใหลในวังวนการช้อปปิ้งสินค้ากีฬาอยู่ตรงนั้นไปเลย ส่วนผู้ชายก็จะได้ความรู้สึกแมนๆ หันไปเจอรองเท้าบอล เจอเสื้อกีฬาตามที่ต้องการ ไม่ใช่หันไปเจอสินค้าผู้หญิงที ผู้ชายที” 

การทำให้ลูกค้าชายหญิงได้ช้อปในพื้นที่ของตัวเอง ยังเพิ่มโอกาสให้เจอสินค้าที่ใช่ ได้สะดวก ง่ายกว่าเดิม นั่นหมายถึงโอกาสที่จะตัดสินใจซื้อและทำยอดขายเพิ่มป็นเงาตามตัวด้วย เพราะกีฬาดูจะตรงใจกับผู้ชาย ค่อนข้างมาก เลยทำให้เป็นกลุ่มที่ทำยอดขายให้ซูเปอร์สปอร์ตสัดส่วนสูงที่ 55% และผู้หญิงอยู่ที่ 45%  

จัด Zoning แบบนี้ ก็ไม่ต่างจากแบรนด์ดังอีกนั่นแหละ จะเห็นว่าการจัดร้านมักจะมีการแบ่งชายหญิงให้ชัดเจนขึ้น ไม่ใช่แค่สปอร์ตรีเทลที่แบ่งแบบนี้ เพราะปัจจุบันสินค้าฟาสต์แฟชั่นอย่างยูนิโคล่ สาขาโรดไซด์ ก็จัดพื้นที่ช้อปชายหญิงแตกต่างกันด้วย เพื่อรับกับไลฟ์สไตล์ความชอบในการซื้อสินค้าที่ไม่เหมือนกัน 

และที่ขาดไม่ได้ แปลงโฉมร้านยกระดับด้วยนวัตกรรมและสร้างสรรค์กว่าเดิมซูเปอร์สปอร์ตจึงมาพร้อมความล้ำ ใส่เทคโนโลยีเข้าไปหลายๆอย่างรับยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น  Run Lab สำหรับวิเคราะห์รูปแบบเท้า และการใช้งานรองเท้าวิ่งแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่น ให้เหมาะแก่ผู้บริโภคแต่ละบุคคล (Personalize) จริงๆ มีจุดบริการ Click and Collect ให้ลูกค้ามารับสินค้าที่สั่งซื้อผ่าน Supersports Online เพิ่มโอกาสการทำเงินจากออนไลน์ที่โตพุ่ง พ่วงสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้คอกีฬาได้ช้อปปิ้งแบบดิจิทัล (Digital Experience) นั่นเอง   

เรามองว่าอนาคตดิจิทัลจะเข้ามามีผลกระทบในการช้อปปิงมากขึ้น จึงพัฒนาร้านใหม่ให้เป็นภาพลักษณ์ดิจิทัลทั้งหมด เพราะปัจจุบันผู้บริโภคยุคนี้มีการหาข้อมูลก่อนเข้าร้านบ้าง หรืออยากหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าในร้านก็ทำได้ จะเจอสิ่งที่ต้องการเลย และสาขานี้ยังเป็นจุดรับสินค้าที่ซื้อผ่านออนไลน์ เพราะต้องยอมรับว่าในสโตร์แต่ละสาขา มีสินค้ารุ่น ไซส์ สี แตกตางกัน และอาจไม่ครบ แต่พอซื้อออนไลน์ ขอแค่บอกมาเราหาให้ แล้วลูกค้ามารับที่เซ็นทรัลเวิลด์ได้เลย จะวันเวลาไหนก็ได้”   

เซ็นทรัลเวิลด์เป็นเรือธงนำร่องโฉมใหม่ แต่บริษัทยังเตรียมทุ่มงบเกือบ 300 ล้านบาท แปลงโฉมร้านอีกทั้งสิ้น 15 สาขา ภายใน 2 ปีนี้ แบ่งเป็น ปรับ 5 สาขาเดิมในปีนี้ และเปิดร้านสาขาใหม่ 2 แห่ง ส่วนปีหน้าเปิด 10 สาขา 

โดยการเลือกร้านที่จะทำให้เป็นคอนเซ็ปต์ดิจิทัลจะพิจารณาจากจำนวนลูกค้าที่เข้ามาในร้าน ต้องมากๆ เพื่อให้คุ้มค่าการลงทุน ตามด้วยยอดขาย ซึ่งร้านแฟลกชิพและอยู่ในเมือง (City Key) เช่น เซ็นทรัลลาดพร้าว ภูเก็ต เชียงใหม่ การซื้อต่อบิลจะสูงถึง 1,800-2,000 บาทต่อบิล มากกว่าร้านทั่วไปที่มียอดซื้อ 1,200-1,500 บาทต่อบิล 

สำหรับภาพรวมร้านจำหน่ายเสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา (Sport Retail) ไตรมาส 1 มีการเติบโตราว 10-15% และแนวโน้มยังโตต่อเนื่อง จากที่ผ่านมาตลาดรวมจะโต 5-7% ปัจจัยที่ทำให้ตลาดโตมากเพราะปีนี้มหกรรมกีฬาใหญ่ๆ มีมากมาย เช่น ฟุตบอลโลก 2018 ที่จะจัดขึ้นเดือนมิถุนายนนี้ ที่ประเทศรัสเซีย เอเชียนเกมส์ 2018 เป็นต้น ผู้บริโภคกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมถึงสินค้าแฟชั่นกีฬาขายดิบขายดีกว่าเดิม ออนไลน์โตพุ่งพรวด กราฟเป็นขาขึ้นตลอด 

ที่น่าจับตาการโตของสินค้าปีนี้ยังเป็นรื่องของแฟชั่นกีฬาเพราะการขยายตัวแรงไม่ต่ำกว่า 20% จากการที่บรรดาแบรนด์ดังๆ หันมาใช้ Influencer Marketing กันคึกคักมาก ออกสินค้าลิมิเต็ด เอดิชั่นเอาใจสาวก ไม่ว่าจะเป็น

Adidas ผูกปิ่นโตกับชมพู่ อารยามายาวนาน ทำให้สินค้ารายการที่คนดังใส่ขายดีมาก ส่วน Nike ก็ลุยใช้พี่ตูน บอดี้สแลมดึงพลังแบรนด์คนดีที่ดังมาก! มาเป็นตัวเอาใจสาวกชื่นชอบกีฬากัน ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคเวลาใส่เสื้อผ้ากีฬาไปออกกำลังกายก็มักจะใส่เป็นเซต รวมกันเป็นกลุ่มเพื่อโชว์กัน

ปัจจุบันร้านซูเปอร์สปอร์ตมีสินค้าสปอร์ตแฟชั่นสัดส่วน 65% เติบโตกว่า 20% และสินค้าที่เน้นประโยชน์การออกกำลังกาย เล่นกีฬาจริงๆ (Hardline) เช่น อุปกรณ์กอล์ฟ สัดส่วน 35% มีอัตราการเติบโตทรงตัว”  

สินค้าที่ใช้ Influencer เซเลบริตี้ จะมีลูกค้ามาถามหาเยอะมาก กลยุทธ์ที่แบรนด์ดังใช้คนมีอิทธิพลมาช่วยทำตลาด ทำให้สินค้าสีสัน คัตติ้งสวยๆ ขายดีมาก และแฟชั่นยังเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้บ่อยๆ ด้วย