Ant Financial เครือ Alibaba เตรียมขึ้นแท่นเบอร์ 1 FinTech โลก

แอนท์ ไฟแนนเชียล (Ant Financial) หรือที่คนจีนรู้จักในชื่อ หมาอี่ (แปลว่า มด) บริษัทด้านการชำระเงินของ Alibaba ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีน ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นชำระเงิน Alipay ที่คนไทยรู้จักดี เตรียมแซง Uber บริษัทที่ทำธุรกิจ Ride Sharing ของสหรัฐอเมริกา ขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกจากการรายงานข่าวของสื่อต่างๆ

ภายใต้การนำของ แจ็ค หม่า (Jack Ma) ผู้ก่อตั้งอาลีบาบากรุ๊ป ปัจจุบันแอนท์ ไฟแนนเชียล ถือเป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน หรือฟินเทค (FinTech) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และกำลังเตรียมทำข้อตกลงกับนักลงทุนต่างชาติเพื่อระดมทุน 1.5 แสนล้านเหรียญ ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ในขณะที่ Uber ซึ่งเคยระดมทุนได้สูงสุดในฐานะบริษัทเทคโนโลยี เคยทำมูลค่าในการระดมทุนไว้ที่มูลค่า 7 หมื่นล้านเหรียญ

การระดมทุนของแอนท์ ไฟแนนเชียลรอบนี้ถูกมองว่าเป็นการเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปในปีหน้า นำโดย GIC กองทุนความมั่งคั่งของสิงคโปร์ และดึงดูดความต้องการจากกลุ่มผู้ลงทุนเอกชนชั้นนำ เช่น Carlyle, General Atlantic, Silver Lake Partners และ Sequoia Capital China

แอนท์ ไฟแนนเชียลซึ่งดำเนินธุรกิจแอปพลิเคชั่น Alipay และกองทุนการเงิน Yu’eBao ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าประมาณ 60,000 ล้านเหรียญในรอบการระดมทุนเมื่อปี 2016 นอกจากนี้ยังได้รับเงินสนับสนุน 4.5 พันล้านดอลลาร์จากนักลงทุนซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยสถาบันของรัฐ เช่น กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติจีน เรียกว่าแค่เห็นชื่อผู้ลงทุนก็ต้องหนาวไปตามๆ กัน

บริษัท มีการเติบโตในหลายด้าน เช่นจากการรายงานของ Analysys International ที่ปักกิ่ง พบว่า แอปพลิเคชั่นการชำระเงินของ Alipay ถือครองอยู่ 54% ของตลาดการชำระเงินมือถือที่มูลค่ารวม 5.5 พันล้านเหรียญในจีน (ณ ไตรมาส 4/2017) ซึ่งมากกว่าของ Tencent ที่มีอยู่ 38% ฯลฯ

การเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้มีผลมาจากแรงผลักดันเชิงรุกกับกลุ่มร้านค้าแบบดั้งเดิมที่แอนท์ฯ ดำเนินการติดตั้งระบบกระเป๋าเงินดิจิทัล (DIGITAL WALLET) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการการค้าปลีกรูปใหม่ของอาลีบาบา ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับภาคการค้าปลีกของจีนด้านเทคโนโลยีเช่นการชำระเงินแบบดิจิทัล และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและคาดการณ์แนวโน้มการบริโภค ฯลฯ

การเดินหน้าขยายฐานของบริษัทไม่มีทีท่าจะหยุดง่ายๆ โดยมีการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ และเพิ่งเข้าซื้อหุ้นในสถาบันการเงินหลายแห่งในเอเชียรวมถึง bKash ของบังกลาเทศ และ Telenor Microfinance Bank ของปากีสถาน โดยตั้งเป้าหมายที่จะให้บริการทางการเงินเช่นการชำระเงินผ่านมือถือสำหรับผู้บริโภคในท้องถิ่นนั้นๆ

จากการที่มีธุรกิจในหลายประเทศ ทำให้แอนท์ฯ สามารถปรับใช้เทคโนโลยี และประสบการณ์ในการเข้าไปเจาะประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติมได้ และให้ความสำคัญกับการเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบธนาคารของประเทศจีน

ZennonKapron ผู้ก่อตั้ง Kapronasia จากเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า แอนท์ฯยังคงมีธุรกิจด้านการชำระเงินแบบเดิม แต่ตอนนี้ทางบริษัท มีรายได้ใหม่จากด้านต่างๆ ที่ได้ให้ความสนใจและลงทุนไปไม่ว่าจะเป็น Yu’ E Bao, Online money market fund ที่ส่งเสริมให้คนลงทุนไม่มีขั้นต่ำ จะฝากถอนเมื่อไหร่ก็ได้ การลงทุนในบริษัทจงอัน (ZhongAn insurance) บริษัทออนไลน์ด้านประกันภัย การให้คะแนนเครดิต และบริการด้านคลาวด์อื่นๆ และการลงทุนในล่าสุดที่ไม่ใกล้ไม่คือการซื้อหุ้น 20% ของ Ascend Money ผู้ให้บริการด้านการเงินอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของไทยภายใต้กลุ่ม CP ของบ้านเรานี่เอง.

Source