ในสภาวะที่ทั่วโลกกำลังประสบกับปัญหาภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงวิกฤตการณ์พลังงานที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง และในประเทศอังกฤษเองก็ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน โดยทางรัฐบาลของอังกฤษได้มีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานทดแทน หรือ Alternative Energy เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งการรณรงค์ให้ผู้ใช้รถหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้า หรือElectric Car
โครงการนี้ในลอนดอนได้เริ่มมาตั้งแต่เมื่อ4ปีก่อนแล้วแต่ปีนี้ทางภาครัฐได้ให้การสนับสนุนอย่างจริงจังด้วยงบประมาณกว่า 20,000,000 ปอนด์ (1,000,000,000 บาท)โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการใช้น้ำมันและลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกมาจากรถที่ใช้พลังงานเชื่อเพลิง อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ที่ใช้รถพลังงานไฟฟ้าได้ประหยัดจากสิทธิพิเศษมากมายที่ทางรัฐบาลจัดไว้ให้ เช่นการจัดที่จอดรถฟรีให้สำหรับรถพลังงานไฟฟ้า และได้ติดตั้ง Juice Point ซึ่งเป็นจุดชาร์ตไฟของรถพลังงานไฟฟ้าไว้หลายแห่งทั่วกรุงลอนดอน
จากผลสำรวจหลังจากโครงการนี้เริ่มขึ้นพบว่าผู้ที่ใช้รถพลังงานไฟฟ้าสามารถประหยัดค่าที่จอดรถไปได้ถึง 5,000 – 6,000 ปอนด์(250,000 – 300,000 บาท) ต่อปี และยังสามารถประหยัดค่าน้ำมันไปได้ถึง 500 – 1,000 ปอนด์ ( 25,000 – 50,000 บาท) ต่อระยะทาง 4,000 ไมล์ อีกทั้งผู้ที่ใช้รถพลังงานไฟฟ้าจะได้รับการยกเว้นค่า City Congestion Charge สูดถึง 2,000 ปอนด์ (100,000 บาท) ต่อปี และได้รับการยกเว้นภาษีการใช้ถนน หรือ Road Tax เป็นจำนวนเงิน 300 ปอนด์ (15,000 บาท) ต่อปี
จากโครงการนี้ทางภาครัฐเชื่อว่าจะส่งผลให้ธุรกิจรถพลังงานไฟฟ้าเติบโตขึ้นถึง?250,000,000 (12,500,000,000 บาท) และก่อให้เกิดการจ้างงานในอังกฤษเพิ่มมากขึ้น และในขณะนี้บริษัทรถยนต์ต่างๆได้มีการแข่งขันกันอย่างมากเพื่อผลิตรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆออกมาสู่ท้องตลาด ซึ่งก็เป็นที่นิยมของชาวอังกฤษเป็นอย่างมาก