“เวิร์คพอยท์” ส่งรายการใหม่ลงผัง หวังชี้ชะตาเรตติ้งครึ่งปีหลัง

ทีวีดิจิทัล ยังต้องวิ่งสู้ฟัด ยิ่งเมื่อเม็ดเงินโฆษณาทีวีอยู่ในภาวะถดถอย ติดลบต่อเนื่อง แต่ก็ยังเป็นเม็ดเงินก้อนใหญ่ ทำให้ทุกช่องต้องใส่เกียร์เร่งปรับผังรายการ เพื่อรับมือกับศึกในช่วงครึ่งปีหลัง

จากการประเมินของบริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI พบว่า สถานการณ์ของโฆษณาทีวีช่วงครึ่งปีหลัง ตั้งแต่กรกฎาคมถึงกันยายน เป็นช่วงหน้าฝน ซึมที่สุดของปีอยู่แล้ว แต่จะกลับมาคึกคักอีกทีในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม

เมื่อบวกกับโฆษณาฟุตบอลโลกไม่คึกคักด้วยแล้วจึงทำให้โฆษณาทีวีอยู่ในภาวะถดถอย

สำหรับเวิร์คพอยท์เป็นอีกช่องที่ต้องจับตาต้องปรับตัวอย่างหนักหลังจาก 2 ปีที่แล้ว เคยสร้างเรตติ้งจากรายการ The Mask Singer จนติดลมบน ขึ้นอันดับ 3 แต่ในช่วงหลังเมื่อรายการลดความร้อนแรงลงไปบวกกับค่ายโมโนจัดหนักส่งซีรีส์และภาพยนตร์ต่างประเทศขึ้นมาช่วงชิงคนดู

จนส่งผลให้ช่องโมโนเฉือนขึ้นมาชิงเบอร์ 3 ครองเรตติ้งคนดูทั่วประเทศ แต่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เรตติ้งอันดับ 3 ยังเป็นของเวิร์คพอยท์

แม้ว่าเวิร์คพอยท์จะพยายามส่งรายการ The Rapper หวังจะให้เป็นกระแสเหมือนกับ The Mask Singer แต่ก็ยังไม่สร้างความปังได้เท่า เวลาโฆษณาเหลือ ไม่เหมือน The Mask Singer ที่เต็มตลอด

*** ยึดคนดูกรุงเทพฯ หัวเมืองใหญ่

จากข้อมูลการวัดเรตติ้งของนีลเส็นของปี 2561 จนถึงวันที่  27 พฤษภาคม พบว่าฐานผู้ชมช่องเวิร์คพอยท์เป็นกลุ่มหัวเมืองหลักทั่วประเทศ 38%, กรุงเทพฯ 37% และกลุ่มชานเมืองทั่วประเทศ 26% เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ในสัดส่วน 52% และ 48%

โดยช่วงอายุที่รับชมมากที่สุดของช่องคือ 40+ คิดเป็น 38% ตามมาด้วยช่วงอายุ 25-29 ปี 22% และช่วงอายุ 4-14 และ 15-24 ปี ช่วงละ 20%

*** ส่งคอนเทนต์วาไรตี้ลงจอ

เมื่อคอนเทนต์วาไรตี้ เกมโชว์ คือจุดยืนสำคัญ เวิร์คพอยท์ต้องใส่เกียร์เดินหน้า จัดรายการวาไรตี้ชุดใหม่ เตรียมลงผังช่วงปลายไตรมาส 2 ถึง ไตรมาส 3 ปีนี้ ทั้งรายการร้องเพลง, ตลก และวาไรตี้โชว์ 

รายการที่เปิดเผยในเบื้องต้นนี้มี 8 รายการ เป็นรายการใหม่ในเดือนมิถุนายน 5 รายการได้แก่ Mothership: ยานแม่ เป็นรายการที่ให้คุณแม่มาแสดงความสามารถ เจาะกลุ่ม Mass 15+ , เสียงทองสองไมค์ รายการร้องเพลง ประเภทเพลงลูกทุ่ง เจาะกลุ่ม Mass 4-14 ปี และ 40+ อัศวินตกโต๊ะ รายการตลกเจาะกลุ่ม Mass 4 + , ล้วงลับจับไข่ รายการวาไรตี้ทอล์กโชว์ เจาะกลุ่ม Mass15+ และ The Mask Singer Project A ที่มาแทน The Mask Singer ซีซัน 4 เจาะกลุ่ม Mass 4+

ส่วนอีก 2 รายการในดือนกรกฎาคม 2 รายการคือ รายการแฟนพันธ์ุแท้: Fan 2018 เจาะกลุ่ม Mass 15+, BNK48 เจาะกลุ่ม Mass 15+ และอีก 1 รายการในเดือนรายการ Thailand Got Talent  เจาะกลุ่ม Mass 15+ นับเป็นการกลับมาออกอากาศครั้งแรกในช่องเวิร์คพอยท์เอง

*** ร่วมทุนกับ BNK48 ผลิตรายการใหม่ BNK48 

เวิร์คพอยท์ ยังได้ลงขันร่วมลงทุนกับบริษัทบีเอ็นเค48 ออฟฟิศ จัดตั้งบริษัทใหม่ บีเอ็นเค โปรดักชั่น จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ สำหรับออกอากาศทางโทรทัศน์และออนไลน์ รวมทั้งจัดงานอีเวนต์และคอนเสิร์ต ทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท เวิร์คพอยท์ถือหุ้น 50% ส่วนบีเอ็นเค48 ออฟฟิศ ถือหุ้น 49.99% และจิรัฐ บวรวัฒนะ ผู้บริหารบีเอ็นเค48 ออฟฟิศ ถือหุ้น 0.01%

สอดคล้องกับการประกาศผังรายการใหม่ ที่เวิร์คพอยท์มีแผนจะมีรายการวาไรตี้ BNK48 ลงจอในเดือนกรกฎาคม ที่ออกอากาศทุกอาทิตย์

นอกจากนี้การได้เป็นพาร์ตเนอร์กับ BNK48 นี้ จะเป็นช่องทางในการขยายฐานผู้ชมของช่องเวิร์คพอยท์ในกลุ่มผู้ชมอายุน้อยลง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุ 15-24 ปี ซึ่งเป็นฐานแฟนคลับของ BNK48 อีกด้วย

ยังรวมไปถึงการหารายได้จากคอนเสิร์ต อีเวนต์ ซึ่งเป็นอีก 2 ส่วนที่เวิร์คพอยท์ต้องการเพิ่มรายได้

*** เริ่มปรับลดค่าโฆษณา

แต่จากสถานการณ์ของทีวีดิจิทัลปีนี้ ยังต้องเผชิญหน้ากับรายได้จากเงินโฆษณาที่ลดลง ซึ่งหลายช่องจะมีการขึ้นราคาค่าโฆษณาไป เวลานี้ต้องเริ่มลดราคาค่าโฆษณาลงรวมถึงเวิร์คพอยท์

ปัจจุบันอัตราค่าโฆษณาเฉลี่ยทั้งช่องเวิร์คพอยท์เอง ในไตรมาสแรกของปีนี้ อยู่ที่นาทีละ 85,000 บาทต่อนาที ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมาจากเฉลี่ยทั้งช่อง 62,000 บาท เมื่อไตรมาสแรกปีที่แล้ว ที่มีการขยับราคาค่าโฆษณาทุกไตรมาส โดยไตรมาสที่ 2/60 เฉลี่ยอยู่ที่ 75,000 บาทต่อนาที, ไตรมาส 3/60 เฉลี่ยอยู่ที่ 81,000 บาทต่อนาที และไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว เฉลี่ยอยู่ที่ 82,000 บาท/นาที ทั้งนี้รูปแบบการขายโฆษณาของเวิร์คพอยท์ส่วนใหญ่เป็นการขายโฆษณาของแต่ละรายการแบบล่วงหน้า

แต่เวลานี้เวิร์คพอยท์ได้เริ่มปรับลดค่าโฆษณาลง หลังจากที่เรตติ้งเฉลี่ยของช่องในไตรมาสแรกลดลง เรตติ้งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เวิร์คพอยท์อยู่ในอันดับ 4 เรตติ้งเฉลี่ยที่ 0.75 ตามหลังช่องโมโน 0.78

นอกจากส่งรายการใหม่มาลงผังแล้ว เวิร์คพอยท์ยังต้องใช้กลยุทธ์ราคา” ปรับลดค่าโฆษณามาจูงใจท่ามกลางการแข่งขันของช่องทีวีที่ยังคงลดแลกแจกแถมเพื่อพยุงรายได้.