จับตา McDonald’s นำเทรนด์เชนอาหาร-เครื่องดื่มสู่ยุคหลอดกระดาษ

ทั้ง A&W และแบรนด์ร้านอาหารเครื่องดื่มอื่นถูกมองว่าจะเดินตามเทรนด์ที่พี่ใหญ่ McDonald’s กรุยทางไว้ เพราะ McDonald’s จุดพลุจะยกเลิกหลอดพลาสติกในไอร์แลนด์และอังกฤษเต็มตัวปีหน้า (2019) ก่อนจะขยายมายังสหรัฐอเมริกาบ้านเกิด ประกาศนี้ถูกมองเป็นประกาศสุดเซอร์ไพรส์ที่แสดงว่า McDonald’s ต้องการปรับปรุงให้โลกและสัตว์ใต้ทะเลมีชีวิตที่ดีขึ้น แม้ว่ากลุ่มเป้าหมายของ McDonald’s จะไม่ใช่กลุ่มนักกิจกรรมรักษ์สัตว์ก็ตาม

สำนักข่าว Inc. เปิดประเด็นนี้เมื่อ McDonald’s ประกาศเริ่มยกเลิกหลอดพลาสติกในอังกฤษและไอร์แลนด์ช่วงกันยายนปีนี้ ก่อนที่โครงการเปลี่ยนหลอดจากพลาสติกมาเป็นหลอดกระดาษจะมีผลสมบูรณ์ในปี 2019 โดย Inc. มองว่า McDonald’s เป็นหนึ่งในเครือข่ายร้านอาหารจานด่วนรายใหญ่ที่สุดในโลกที่มีลูกค้าหลักคือกลุ่มครอบครัวซึ่งต้องเลี้ยงดูลูกเล็กในงบประมาณจำกัด และผู้ที่ต้องขับรถระยะทางไกลเพื่อทำงาน โดยกลุ่มผู้กินมังสวิรัติ นักนิยมธัญพืช และนักกิจกรรมที่รักสัตว์นั้นไม่ใช่ฐานลูกค้าของ McDonald’s

แต่สิ่งที่ McDonald’s ทำ คือการประกาศข่าวที่ยิ่งใหญ่และน่าชื่นชมในมุมการอนุรักษ์สัตว์และการปรับปรุงโลก โดยในประกาศ McDonald’s มีแผนจะแทนที่หลอดพลาสติกด้วยหลอดกระดาษในร้านมากกว่า 1,300 สาขาทั่วอังกฤษและไอร์แลนด์ และจะเริ่มทดสอบหลอดกระดาษในสหรัฐฯ ฝรั่งเศส สวีเดน นอร์เวย์ เบลเยียม และออสเตรเลียด้วยเช่นกัน

*** ยุคใหม่ไร้หลอดพลาสติก

แม้ว่าโลกเราจะมีมหาสมุทรปกคลุมมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ แต่มนุษย์ได้ทิ้งพลาสติกจำนวนมากไว้ในทะเล ทำให้สัตว์ใต้ทะเล เช่น วาฬและเต่าหลายตัวที่เสียชีวิตจากการบริโภคหลอดและวัสดุพลาสติกประเภทอื่นลงในท้อง โดยคาดว่าจนถึงปี 2050 มูลนิธิ MacArthur Foundation คาดว่าโลกเราจะมีพลาสติกมากกว่าปลาในมหาสมุทร หากชาวโลกยังไม่เปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติก

และไม่ใช่แค่มหาสมุทรเท่านั้น ผลการศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่า 83% ของน้ำประปาในหลายประเทศ มีเศษไมโครไฟเบอร์พลาสติกเจือปน ขณะที่น้ำดื่มที่จำหน่ายในขวดพลาสติก ยิ่งมีการเจือปนหนักข้อมากกว่า

หลอดพลาสติกอาจดูเหมือนเศษเสี้ยวของปัญหานี้ แต่ความจริงคือชาวโลกทิ้งหลอดจำนวนมหาศาลต่อเนื่องและมีแนโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี คาดว่าเฉพาะ McDonald ‘s รายเดียวก็เป็นต้นทางของหลอดที่ถูกทิ้งจำนวนหลายล้านชิ้นทุกวัน ยังไม่นับเชนร้านอาหารอื่นที่มีรูปแบบบริการทำให้หลอดพลาสติกส่อแววเป็นอันตรายชัดเจนในระยะยาว

“McDonald’s มุ่งมั่นที่จะใช้สเกลของบริษัทในการทำสิ่งดี และการหาทางออกที่ยั่งยืนสำหรับปัญหาหลอดพลาสติกล้นโลก” Francesca DeBiase รองประธานบริหาร ฝ่ายห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและความยั่งยืนของ McDonald’s ระบุในแถลงการณ์เราหวังว่าโครงการนี้จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของทั้งอุตสาหกรรม

ไม่ว่าจะเป็นเพราะ McDonald’s หรือไม่ สำนักข่าว Inc. มองว่าอุตสาหกรรมในโลกยุคปัจจุบันกำลังเปลี่ยนไปอย่างแท้จริง โดยแบรนด์สวนน้ำแสดงปลารายใหญ่ในสหรัฐฯ อย่าง SeaWorld กล่าวว่าบริษัทได้กำจัดหลอดพลาสติกและถุงช้อปปิ้งพลาสติกออกไปจากพาร์คทั้งหมด 12 แห่งของบริษัทแล้ว ขณะที่ A&W กล่าวว่าจะให้บริการเฉพาะหลอดกระดาษทั่วประเทศแคนาดาภายในสิ้นปีนี้

*** แรงดันคือกฎหมาย?

สิ่งที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในวงการอุตสาหกรรมร้านอาหารเครื่องดื่มนี้คือความคิดเห็นของสาธารณชน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการบีบของกฎหมายร่วมด้วย เช่น ร่างกฎหมายใหม่ของแคลิฟอร์เนียที่จะทำให้หลอดพลาสติกเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม รายงานชี้ว่าความรู้สึกต่อต้านพลาสติกนั้นร้อนแรงมากในบางประเทศ อย่างเช่นในสหราชอาณาจักร ที่เรื่องนี้กลายเป็นกระแสทันทีที่สถานี BBC ออกอากาศสารคดี Blue Planet II ซึ่งแสดงให้เห็นว่านกเดินทางหลายพันไมล์เพื่อหาอาหารให้ลูกน้อย กลับพบแต่พลาสติกเต็มพื้นที่จนไม่เหลืออาหารอื่นให้นำไปป้อนลูกได้เลย หลังจากสารคดีนี้ออกอากาศ ราชินีของอังกฤษได้ออกมาต่อต้านพลาสติกใช้ครั้งเดียวเช่นกัน

สำหรับ McDonald’s อาจเป็นเพราะขนาดใหญ่หลายสาขาของ McDonald’s ทำให้ McDonald’s ต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเปลี่ยนแปลงวัสดุหลอดเหล่านี้ โดย McDonald’s ประกาศว่าหลอดพลาสติกของบริษัทจะไม่หายไปอย่างสิ้นเชิงจาก McDonald’s ในสหราชอาณาจักรจนถึงปี 2020 ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ลงรายละเอียดการทดสอบหลอดกระดาษในสหรัฐอเมริกาว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด ระบุเพียงว่าปลายปีนี้เท่านั้น ทำให้คาดว่าชาวอเมริกันจะต้องใช้หลอดพลาสติกดูดน้ำปั่นรสวานิลลาไปอีกอย่างน้อย 2-3 ปี

Inc. ทิ้งท้ายติดตลกว่าจริง ๆ แล้ว สารคดี Blue Planet II ควรจะถูกนำมาฉายที่สหรัฐฯ เพื่อให้เกิดกระแสกดดันทุกฝ่ายให้เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น ถึงเวลานั้นอย่าลืมมาฉายเมืองไทยด้วยก็แล้วกัน.

ที่มา