ด้วยเทคโนโลยีมือถือ บวกกับความต้องการสร้างความแปลกใหม่ ทำให้โรสมีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เพิ่มช่องทางใหม่ นำเข้าภาพยนตร์มาฉายบนมือถือ ที่ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจ หลังจากประสบความสำเร็จ จากการเปิดช่องการ์ตูน Gang Cartoon Channel แพร่ภาพบนทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวีมาแล้ว
‘มูฟวี่ออนโมบาย’ เป็น Product Line บนยอดเขาแรก ที่โรส มีเดียฯ จับมือกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือเอไอเอส สร้างโมเดลการดูทีวีรูปแบบใหม่ ‘ทีวีออนโมบาย’ เรียกได้ว่าเป็นดิจิตอลมีเดียขนาดใหญ่ที่โรส มีเดียฯ ปูพื้นและต่อยอดเป็น ‘มูฟวี่ออนโมบาย’ ดูภาพยนตร์บนโทรศัพท์มือถือได้ โดยไม่พึ่งเทคโนโลยี 3G
Product Line นี้ตั้งอยู่บนความท้าทายทางธุรกิจรูปแบบใหม่ ซึ่งนายจิรัฐ บวรวัฒนะ รองประธานกรรมการสายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัท โรส มีเดียฯ ลงทุนซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องใหม่ล่าสุดมาฉายบนมือถือเท่านั้น ไม่มีฉายตามโรงภาพยนตร์ หรือช่องทางอื่นๆ ภาพยนตร์ที่ได้ฉายบนมือถือเรื่องแรกคือ ‘The Spirit ฮีโร่หน้ากากดำ พันธุ์มหากาฬ’ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากผู้สร้าง Sin City และ 300
แม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการซื้อภาพยนตร์มาฉายในโรง แต่ด้วยแนวโน้มการใช้สื่อดิจิตอลบนโทรศัพท์มือถือนับวันยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้น ประกอบกับฐานลูกค้ากว่า 27 ล้านรายของเอไอเอส จิรัฐ เชื่อมั่นว่า Channel นี้จะเป็น First Window ที่เปลี่ยนเกมการตลาดอย่างสิ้นเชิง
เส้นทางที่โรส มีเดียฯ ปูพรมไว้ เป็นการดูแบบ VDO on Demand คือ ผู้ใช้บริการเครือข่ายเอไอเอส ซึ่งมีโทรศัพท์มือถือรุ่นที่รองรับ 2.5G สามารถรับชมภาพยนตร์ การ์ตูน ซีรี่ย์เกาหลี และรับชมหรือดาวน์โหลดเพลงอมตะออกมาใช้งานได้ ผ่านทาง GPRS โดยโรส มีเดียฯ คิดค่าบริการสำหรับการ์ตูน 5 บาทต่อวัน สามารถดูซ้ำได้ในหนึ่งวัน หรือ 40 บาทต่อเดือน ดูซ้ำได้ในหนึ่งเดือน ส่วนภาพยนตร์ คิดค่าบริการ 40 บาท ต่อสัปดาห์ ดูซ้ำได้ในหนึ่งเดือน ส่วนค่าบริการ GPRS ขึ้นอยู่กับโปรโมชันและจำนวนชั่วโมงที่ใช้
“ด้วยไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยีมือถือที่รุดหน้าอย่างรวดเร็ว สังเกตได้ว่าคอนเทนต์ต่างๆ บนโทรศัพท์มือถือและเว็บไซต์ ทำให้วัยรุ่นเกาะติดโลกออนไลน์มากขึ้น เช่น มีเวลาว่างเพียง 10-15 นาที หรือช่วงเวลานิดเดียวที่นั่งรถไฟฟ้า เขาก็จะเข้าอินเทอร์เน็ต เป็นปรากฏการณ์ที่ทีวีออนโมบาย จะใกล้ชิดผู้ใช้บริการมากขึ้น เพราะสามารถรับชมภาพยนตร์หรือการ์ตูนที่เป็นตอนสั้นๆ ได้ ดังนั้น ทีวีออนโมบายจึงเป็นความบันเทิงราคาถูกที่ใครก็เข้าถึงได้”
ลูกค้ากลุ่มแรกที่ใช้บริการ จะเริ่มจากเป็นกลุ่มเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ ตามลำดับ จิรัฐคาดหวังว่า คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปีนี้ ทีวีออนโมบายจะทำรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท และนั่นจะสะท้อนได้ว่า คอนเทนต์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ต่างๆ จะเป็น Consumer Products ที่สำคัญและมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์โดยตรง
Did you know?
สถานีโทรทัศน์เนชันแชนแนล เป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่ทำทีวีออนโมบายแบบ Live Broadcast ในปี 2006 ปัจจุบันมียอดในการเข้าชมประมาณ 4,000-5,000 ยูสเซอร์ต่อเดือน และในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเมือง ยอดผู้เข้าชมอยู่ที่ 10,000 ยูสเซอร์ต่อเดือน