ได้ฤกษ์ปล่อยของ

แม้เศรษฐกิจปีนี้จะไม่เป็นใจ แต่ทั้งซัมซุง แบรนด์ใหญ่จากเกาหลี และแบรนด์น้องใหม่จากไต้หวัน MSI ต่างก็ไม่หวั่น ฝ่ามรสุมวิกฤต เข็นโน้ตบุ๊กออกวางตลาดในช่วงนี้

ซัมซุงนั้นเคยเปิดตัวโน้ตบุ๊กเมื่อ 4 ปีที่แล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมีไลน์สินค้าให้เลือกน้อย เมื่อกลับคืนตลาดรอบนี้ซัมซุงจึงต้องปิดจุดอ่อน เพิ่มไลน์สินค้าเพื่อให้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายและทุกไลฟ์สไตล์ มีตั้งแต่พรีเมียมราคา เกือบ 6 หมื่นบาท จนถึงมินิโน้ตบุ๊ก ราคาไม่ถึง 2 หมื่นบาท กลุ่มที่ชอบดีไซน์ มีให้เลือกไม่ต่ำกว่า 20 โมเดล โดยกลุ่มสินค้าต้องเน้นมากเป็นพิเศษ มินิโน้ตบุ๊ก และกลุ่มนักศึกษา-โฮมยูส โดยมีรุ่น R series เป็นหัวหอก

การกลับมาครั้งนี้ นอกจากมองเห็นว่าตลาดโน๊ตบุ้คเติบโตมากขึ้น คาดว่าปีนี้จะมีไม่น้อยกว่า 1 ล้านเครื่อง ยังเป็นการเติมเต็มโปรดักส์ไลน์ในหมวดไอที ซึ่งมี 11 หมวด ซึ่งมีเกือบครบทุกอย่างทั้งจอมอนิเตอร์ ฮาร์ดดิกส์ พรินเตอร์ จะขาดก็แต่โน้ตบุ๊ก และพีซี ซึ่งเป็นแกนกลางในการเชื่อมต่อ ตอบสนองลูกค้าได้ครบวงจร (Total solution) และยังเป็นตอบโจทย์กลยุทธ์ Convergence ของซัมซุงด้วย

“เรามีสินค้าที่ตอบทุกไลฟ์สไตล์ แต่สิ่งที่เน้นมากที่สุดของโน้ตบุ๊กมี 3 ด้าน คือ คุณภาพ สอง Mobility และสาม ดีไซน์ เราไม่ได้เน้นการทำตลาดด้วยราคา” บุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ IT Business Group Leader กล่าวบอกถึงการวางจุดขายของซัมซุง

แต่แนวรบตลาดโน้ตบุ๊กก็ไม่ธรรมดา คู่แข่งมากหน้าหลายตา แต่ละแบรนด์มีโปรดักส์ไลน์ ให้เลือกแบบครบเครื่องทั้งดีไซน์และราคา ซัมซุงนั้นมีข้อได้เปรียบเรื่องของแบรนด์ ผู้บริโภคส่วนใหญ่รู้จักอยู่แล้ว เรื่องดีไซน์ซัมซุงก็ไม่เป็นรองใคร แต่สิ่งที่ซัมซุงพยายามตอบโจทย์ในตลาดโน้ตบุ๊ก จึงเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นตัวสินค้า

ในวันแถลงข่าว นอกจากมีนางแบบมาเดินสร้างสีสันแบบไลฟ์สไตล์ในงานแล้ว ซัมซุงยังงัดสไลด์ที่ถ่ายจากห้องทดสอบมาแสดงให้เห็นว่า โน้ตบุ๊กของซัมซุงคงทนแข็งแรงรับแรงกระแทกได้แค่ไหน แม้แต่หินก็ยังทำอะไรไม่ได้

ส่วนการขายในช่วงแรก จะใช้ช่องทางขายช่วงแรกใช้ช่องทางที่มีอยู่เดิม อย่างเช่น ขายผ่านตัวแทน 3 รายใหญ่ อินแกรมไมโคร ซินเน็ค และเอสไอเอส ซึ่งเคยเป็นตัวแทนขาย ชิ้นส่วนประกอบ และอุปกรณ์ต่อพ่วงของซัมซุง และขายในร้านคอนเวอร์เจนซ์ ช็อปของซัมซุงด้วยประมาณ 10 แห่ง

แต่นับจากนี้ซัมซุงต้องทำการบ้านหนักขึ้นเพื่อเฟ้นหาดีลเลอร์ที่ขายโน้ตบุ๊กอย่างเดียวซึ่งเป็นช่องทางใหม่ที่ซัมซุงไม่เคยมีมาก่อน แต่ต้องสร้างขึ้นใหม่ โดยจะเลือกจากดีลเลอร์100ราย จากนั้นซัมซุงจะช่วยบริหารจัดการ

ส่วนโน้ตบุ๊กอีกค่ายเป็นของบริษัท Micro Star International หรือ MSI จากไต้หวัน ที่ก็มองเห็นโอกาสจากตลาดโน้ตบุ๊กที่กำลังขยายตัว เอ็มเอสไอนั้นส่งโน้ตบุ๊ก ขนาด 6 มิล รุ่น X-Slim มาเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน โดยถูกระบุว่าบางที่สุดในโลก และเปิดตัวในงาน

โจทย์ใหญ่ของค่ายนี้ คือ ต้องสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในตลาดที่กว้างขึ้น แม้ MSI จะทำตลาดในไทยมาแล้ว5 ปี แต่ก็เป็นตลาดชิ้นส่วนประกอบ ประเภทเมนบอร์ด กราฟิกการ์ด การ์ด Add-on เซิร์ฟเวอร์/เวิร์คสเตชั่น ฯลฯ การรับรู้แบรนด์จึงจำกัดเฉพาะกลุ่ม

“ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการเทงบด้านการสร้างแบรนด์สูงที่สุดในภูมิภาคนี้ และเร็วๆ นี้จะได้เห็นแบรนด์ของเรามากขึ้น” เอ็มทีฮวง Marketing Supervisor MSI ยืนยัน

ส่วนช่องทางจะขายผ่านเอสไอเอส ดิสทริบิวชั่นเพียงรายเดียว ซึ่งเชี่ยวชาญค้าปลีกไอที แม้จะตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดแค่1% แต่ก็อดหวังไม่ได้ว่า จะติดอันดับ 1 ใน 10 ภายใน 3 ปีข้างหน้า

Did you know?
โน้ตบุ๊กที่ขายดีที่สุด เป็นที่ต้องการมากที่สุด และซื้อเป็นของขวัญให้กันมากที่สุดบนเว็บ amazon.com 10 อันดับ แรกของทั้ง 3 กลุ่ม มีเพียง 3 แบรนด์ คือ HP, Apple Macbook และ Toshiba
*ข้อมูลวันที่ 20 พฤษภาคม 2552 ทั้งนี้อันดับมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ