สัญญาณการเมืองที่น่าสนใจ แต่ละป้อมค่ายเริ่มขยับตัว พร้อมๆ กับมหกรรมการตุนเสบียง “โกยทิ้งทวน” สอดรับกลิ่นของการเลือกตั้งใหม่ใกล้มาถึงแล้ว
ในมูฟเมนต์ของแต่ละพรรคการเมือง เริ่มจากพรรคแกนนำรัฐบาล ประชาธิปัตย์ เรตติ้งความนิยมของพรรคนี้ ขึ้นอยู่กับตัวนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นสำคัญ
โดยบท “ภาวะผู้นำ” จากเหตุการณ์ “เมษาทมิฬ” ที่ผ่านมาช่วยฉุดคะแนนให้ปชป.ได้มาก
จากนี้ไปก็ขึ้นอยู่กับฝีมือในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการบริหารจัดการภายในพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะที่กำลังเปิดศึกงัดข้อในโปรเจกต์สำคัญๆ กับพรรคตัวแปรภูมิใจไทย
ถ้าผ่านพ้น หลบเลี่ยงการแปดเปื้อนมลทินจากข้อหาทุจริตโกงกินไปได้ หรือไม่ “ตกม้าตาย”บ้านเมืองพังคามือจากภาวะเศรษฐกิจ ก็ยังมีอนาคต ได้ไปต่อ!
ส่วนปัญหาภายใน คงเป็นธรรมดาของพรรคนี้ เมื่อ “โต” แล้ว “แตก”
หากประเมินจากท่าที กลุ่ม 40 ส.ส. ที่นำโดย “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรคภาคกลาง ที่ไม่พอใจการรวบอำนาจ จัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ในมือของ “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ และ “แก๊งออฟโฟร์” ในพรรค
มีการส่งสัญญาณ “อพยพใหญ่” ที่เฉลิมชัยแสดงให้เห็นว่าจะอาจมีการขยับไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยในเลือกตั้งครั้งหน้า โดยต่อสายผ่านทา “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” น้องชายผู้เป็นมือไม้ของ “เดอะห้อย”
บวกด้วยมื้อค่ำบ่อยครั้ง ต่อสายกับอนุทิน ชาญวีรกูล ที่กำลังมั่นใจใน “สถานะพิเศษ” จะบรรเลงเพลงดูด
จึงอยู่ที่ว่าคีย์แมน ปชป. จะยื่นเงื่อนไขใดรั้งไว้ได้หรือไม่ ถ้าไม่ก็คงต้องสูญเสียพื้นที่ภาคกลางไปสัก 12 ที่นั่งเดิม ส่วน “เพื่อนเฉลิมชัย” โซนใต้ ย.ห.อย่าห่วง
เมื่อบารมี ชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคนังแน่นปึ้กทั่วแผ่น ในดินแดนด้ามขวาน
คงไม่มีใครอยากหนีไป เพื่อ “สอบตก”
ผงาดล้ำค้ำฟ้าการเมืองไทยจริง ค่ายภูมิใจไทย
ไม่ว่าวงการไหน แตะไปก็เจอคนของกลุ่ม FOA (Friend of Newin) นายใหญ่ของ“มหาอาณาจักรสีน้ำเงิน” ที่ขยายเครือข่ายกว้างขวางไปทุกวงการ
ทั้งข้าราชการมหาดไทย อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยันกำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งซูเปอร์คอนเนกชั่นกับบิ๊กตำรวจ บิ๊กกองทัพ ที่ต่อติด 3 ทหารเสือ “บูรพาพยัคฆ์”
กลุ่มทุนน้อยใหญ่ นอกจาก ซิโนไทย-คิงพาวเวอร์ หรือ “ไทยซัมมิตกรุ๊ป” ของสองคู่หู “สุริยะเทพ” สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สมศักดิ์ เทพสุทิน
ยังได้ทุนที่ขนมาพร้อมคน ชัวร์แน่ ก็ “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” และที่อยากมาใจจะขาด “พฤฒิชัย ดำรงรัตน์” แห่งกำแพงเพชรวิวัฒน์ก่อสร้าง
และอภิมหาทุนอีกหลายเจ้า ที่พร้อมจะใส่ไม่ยั้งกับธุรกิจที่มีอนาคตสดใสอยู่แล้ว
คอนเนกชั่นปึ้ก เสบียงแน่น แรงดึงดูดสูง!
วันนี้ เมื่อ “ก็อดฟาเธอร์แห่งเมืองบุรีรัมย์” เอ่ยปากยื่นเงื่อนไข ใครๆ ก็ยากปฏิเสธได้
นักเลือกตั้งน้อยใหญ่ต่างก็อยากมาซุกอ้อมอก อิ่มไปกับหมอผีเขมร
ห้องประชุม ณ ที่ทำการพรรค เตรียมเก้าอี้ไว้ 80 ที่นั่ง อาจต้องทุบทำใหม่ ขยับขยายอัฒจันทร์สำหรับกองเชียร์ “บลูปาร์ตี้”
ถึงขนาดที่เริ่มคิดการใหญ่ ปรับแผนใหม่จากพรรค SME ขนาดกลางๆ พร้อมเสียบ
เป็นซูเปอร์ไซส์ XL Party
แต่ก็มีเงื่อนไขที่อาจทำให้ “ผิดแผน” ทั้งการเปิบพิสดาร อาจทำให้อาหารเป็นพิษ รวมทั้งที่กำลังถูกพูดถึง อาการมั่นใจเกินพิกัด หรือที่เรียกว่า “กร่าง” แม่แต่เพื่อนพ้อง อดีตกลุ่ม 16 ด้วยกัน ยังแอบบ่นถึงพิธีรีตองในการเข้าพบเพื่อน
ไม่เท่านั้น ด้วยพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า กล้าแม้กระทั่งสำแดงวิชา “ยอดนักล้วง” ข้ามก๊ก ข้ามหน้าข้ามตา “มัชฌิมาฯกรุ๊ป”
สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ชักไม่สบอารมณ์ “มือที่มองเห็น” เข้าไปยุ่มย่ามกระทรวงสาธารณสุข
หากปล่อยรอยร้าวขยายกว้าง แตกหักขึ้นมา แม้เสียงไม่มากมาย แต่สุ่มเสี่ยงเสียแผน
XL SIZE จะล่มเอาได้!
จากพรรคสีฟ้า และเวลาหิวของค่ายสีน้ำเงิน มาพูดกันถึงแชมป์เก่า ค่าย “สีแดงจ๋า” พรรคเพื่อไทย องค์กรการเมืองที่ยังไร้หัว ถึงใครๆ ก็อยากได้เป็น “เอเย่นต์” ของอภิมหาเศรษฐี
นักสังเกตการณ์การเมือง เกาะติดฝีก้าวของนักโทษชาย แสดงทัศนะน่าฟัง เวลานี้ “ทักษิณ” แม้ยังต้องการทวงคืนสมบัติ 7 หมื่นกว่าล้าน ความมั่นคงทางทรัพย์สินยังเป็นเป้าหมาย
แต่ความปลอดภัยใน “ชีวิต” คือสิ่งที่ต้องการสูงสุด
การปรับเป้าจากการลุยเดือด เป็นเพียงแค่เคลื่อนไหวเพื่อ “เลี้ยงกระแส” เพื่อการ “ต่อรอง” ส่วนพรรคเพื่อไทย ถูกสั่งให้ลดขนาด ขอเป็นพรรคขนาดกลางๆ ก็พอ
“หัว” ใหม่ที่จะหามา ในยุทธศาสตร์ใช้ “ทหาร” นำทัพ จะเป็นใคร ยังมีเวลาให้เลือกเฟ้น ก่อนเปิดเทอมสภาฯ หรือสัญญาณปี่กลองเลือกตั้งโหมโรง
ทั้งนี้ร่างทรงคนใหม่ ที่จะมาคุมทัพรับศึก และต้านแรงดูด เพื่อรักษาพรรคไว้ให้ได้ หาได้ไม่ยาก แต่ที่หนักใจ ก็เรื่องคุณสมบัติพิเศษ
ผู้นำตามใบสั่ง ยังต้องสามารถโรมรันกับพลัง “อำมาตย์” และต้องขี่พายุขึ้นไป “แหวกฟ้า” เปิดทางเคลียร์เพื่ออนาคต ให้ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยด้วยนี่สิ สเป็กสูง
“บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่หมายตา ก็ไว้ใจไม่เต็มร้อย ยิ่งระยะรู้ข่าวพ่อใหญ่ยึกยัก ต่อสายซูเปอร์อำมาตย์ถี่ยิบด้วย ยิ่งแล้วใหญ่
เลยอาจจำต้องให้เพื่อนมา “ขัดตาทัพ” หมายตาไว้แล้ว ที่สมาชิกเตรียมทหารรุ่น10 พล.อ.สุเมธ โพธิ์มณี รีครูตแล้ว ที่หน้าสิ่วหน้าขวาน 19 กันยาฯ ยังไม่ทิ้งกัน
ในฐานะ “เพื่อนตาย” คงไหว้วานมาช่วยไหว?
อย่างน้อยๆ ก็ทันเกมกองทัพที่กำลังรุกหนัก ขยายเครือข่ายในขั้วอำนาจการเมือง
สีเขียวแรง ก็ต้องใช้สีเขียวหยุด!
ส่วนป้อมค่ายอื่นๆ จับความเคลื่อนไหว ตอนนี้ส่วนใหญ่ก็วิ่งวุ่นแตะมือ แบ่งสายจับกับ 3 ขั้วใหญ่ไว้ไปพร้อมๆ กัน
ชาติไทยพัฒนา พรรค “หลงจู๊เติ้ง” อุปถัมภ์ บรรหาร ศิลปะอาชา ยังหาใครสู้ได้ยากในเคล็ดวิชา “ปลาไหล” ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
พรรคประชาธิปัตย์ ถ้าปรนเปรอกันเต็มที่ตามที่ขอ “เฒ่า” ก็จะไม่กลายเป็น “ทารก” งอแง
ส่วนพรรคอื่นๆ ใครก็เป็นพี่เป็นน้องไปหมด “นช.แม้ว” ก็เคยสนับสนุน “เสี่ยห้อย” ก็คนเคยอยู่ด้วยกัน ฟื้นสัมพันธ์ครั้งอดีต ต่อสายเอาไว้
“คุณชายอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล คอนเนกชั่นทหารในพรรคสีน้ำเงิน ก็เคยหมายตามารับเก้าอี้ประมุขพรรคต่อ
แถมตอนนี้ พรรคเล็กพรรคน้อยก็ต่อสายมาพึ่งพิงอาวุโส ทั้งพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่จะกลายเป็นพรรคโคราชทันที เมื่อ “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” ตัดสินใจโดดหนีไปพรรคภูมใจไทย
โดดเดี่ยวไม่เดียวดาย อย่างน้อยๆ ได้เพื่อนใหม่ “ประชัย เลี่ยวไพรัตน์” ที่กระทรวงพลังงาน กำลังทำงานเข้าขากับเจ้าสัวโรงปูนทีพีไอ ที่ไออาร์พีซี
และมี พรรค “หลงจู๊” เป็นอีกพันธมิตรฯ ของสุวัจน์
นอกจากนี้ พรรคสุดวุ่นเพื่อแผ่นดิน สำหรับ “ก๊กประชา” พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก จับบวกรวมขั้ว “เจ้าพ่อปากน้ำ” พรรคราษฎร ที่วันใดวันหนึ่งอาจพัฒนากลายเป็นพรรคที่น่าจับตา
ด้วยมีอดีตทหารใหญ่ คมช. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส่งซิกให้ “สร้างบ้าน” รอ!
ที่เป็นปัญหา ก๊กพญานาค พินิจ จารุสมบัติ-ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ ที่แพ็กมือแน่น กับขั้วโคราชของว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ที่งอนหนักกับเพื่อนเก่าปากห้อย ลังเลที่จะไปภูมิใจไทย
ต้องแบ่งงานกันทำ ทางหนึ่งไปต่อสายพรรคหลงจู๊ ของชาติไทยพัฒนา อีกทางให้คู่หู “ปรีชา” ไปแตะมือกับค่ายสีน้ำเงิน ผ่านพ่อลูก “ชาญวีรกูล” ที่เคยร่วมงานสมัยพรรคชาติพัฒนา
เพราะก่อนนี้ สองคู่หูเขี้ยวจัด สละเรือทิ้งนายเก่า เข้าค่ายทหาร ลับ ลวง พราง ให้บทเรียนบิ๊กคมช.ก่อนที่จะมา เปิด “การขาย” ไปทั่ว จนทุกวันนี้คนรู้แกว เก็บเขี้ยวแทบไม่ทัน
เหลี่ยมคูแพราวพราว ดีไม่ดีอาจต้องถึงเวลาแยกกันเดิน ทางใครทางมัน!