อลิสา พันธุศักดิ์ ทุ่มงบฯ กว่า 500 ล้านบาท ปรับโฉม “ทิฟฟานี่” ครั้งใหญ่ เมคโอเวอร์ โรงละคร พร้อมเปิดตัวธุรกิจร้านอาหาร “ไทยมาเช่” ในพัทยา
เอาใจนักท่องเที่ยวสายกิน รวบรวมสตรีทฟูดยอดนิยมไว้ในที่เดียว มั่นใจจะกลายเป็นไอคอนแห่งใหม่ของพัทยา พร้อมเปิดแผนอนาคต เล็งเปิด “ทิฟฟานี่โชว์” แห่งสองที่ภูเก็ต และประกาศรวม
ธุรกิจภายใต้เครือ ‘PTS Group’
จ๋า–อลิสา พันธุศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีเอส โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด ทายาทรุ่น 2 ของตระกูล “พันธุศักดิ์” เจ้าของธุรกิจทิฟฟานี่โชว์ และ ธุรกิจโรงแรมแห่งเมืองพัทยาบอกถึงแผนงานธุรกิจครอบครัว ว่า ทิฟฟานี่ถือเป็นธุรกิจโชว์ที่สร้างชื่อและรายได้หลักให้ครอบครัว หลังเข้ามารับช่วงดูแลงานต่อจาก “สุธรรม” ผู้พ่อเมื่อปี ค.ศ. 1999 ทิฟฟานี่ โชว์มีการปรับปรุงรูปแบบต่างๆ มาแล้วถึง 4 ครั้ง
ช่วงแรกที่เข้ามาตอนนั้น จ๋าใช้กว่าร้อยล้านบาทขยายโรงละครโชว์จาก 550 ที่นั่งมาเป็น 1,000 กว่าที่นั่ง และปรับรูปแบบการโชว์ใหม่ทุกปี ปีละ 2 หน ไม่ว่าจะเป็นฉาก แสง สี เสียง และรูปแบบการแสดงให้คนทุกเพศทุกวัย
มาปีนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งเพราะปรับปรุงตั้งแต่โครงสร้างของอาคาร การตกแต่ง จนถึงรูปแบบของโชว์ เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวมากขึ้น
ระบบขายตั๋ว ก็ยกเครื่องใหม่เอาระบบซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยมาใช้ในการจำหน่ายตั๋วออนไลน์ เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าทั่วโลก รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนที่มีกำลังซื้อสูงและเป็นกลุ่มคุณภาพ เพราะมียอดการเข้าชมสูงกว่าร้อยละ 70 ต่อปี และปัจจุบันมีลูกค้าจีนที่ไม่ใช่กลุ่มทัวร์ซื้อตั๋วล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ของไทยและจีนมากขึ้น
“ทิฟฟานี่ผ่านจุดเปลี่ยนที่สำคัญมาแล้ว ตั้งแต่จ๋าเข้ามารับงานต่อจากพ่อ จ๋าไม่เน้นแข่งขันที่ราคา เพราะถ้าเราลดคนอื่นก็ลด ในยุคของจ๋า บัตรเข้าทิฟฟานี่อาจจะแพงกว่าที่อื่น แต่จ๋าไม่ห่วง เพราะเชื่อว่าถ้าของเราดีคนก็อยากดู พัฒนาเรื่องโชว์มาตลอด จ้างครีเอทีฟ จ้างครูสอนการแสดงมาอัพเดตโชว์ตลอด เน้นพัฒนาคนให้มีคุณภาพ ตรงนี้เป็นเรื่องท้าทายของธุรกิจนี้”
การรีโนเวตทิฟฟานี่ครั้งนี้ อลิสาคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกันยายนนี้ และเธอยังมีแผนเปิดทิฟฟานี่โชว์แห่ง 2 ที่ภูเก็ต บนพื้นที่ 14 ไร่ในป่าตองอีกด้วย
“อันนี้เป็นแนวคิดที่จ๋าตั้งใจทำ โรงละครแห่งใหม่ใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท จุคนได้มากกว่าพัทยา 20% อาจจะเริ่มได้ในปีหน้า โดยใช้เวลาประมาณ 3 ปี ตอนนี้กำลังออกแบบตัวอาคาร รวมถึงแนวคิดการโชว์ที่จะไม่ให้เหมือนกับที่พัทยา โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็นระดับกลางถึงระดับสูง”
เธอยังใช้งบอีกกว่า 300 ล้านบาท เปิดตัวร้านอาหารขนาดใหญ่ ของพัทยาในชื่อ ‘Thai Mache’ (ไทยมาเช่) บนพื้นที่กว่า 4,631 ตารางเมตร ตั้งเป้าคืนทุนภายใน 5 ปี
นานกว่า 17 ที่อลิสาเข้าดูแลธุรกิจต่อจาก สุธรรม พันธุศักดิ์ ผู้เป็นพ่อ เธอยอมรับว่าเป็นเรื่องท้าทาย เพราะพ่อสร้างปรากฏการณ์เป็นผู้นำด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ สร้างทิฟฟานี่โชว์ให้โด่งดัง เธอมีหน้าที่สานต่อสิ่งที่พ่อทำไว้
ธุรกิจทั้งหมดของครอบครัวพันธุศักดิ์ค่อนข้างหลากหลาย และเพื่อให้เป็นที่ชัดเจนมากขึ้น จึงรวมธุรกิจทั้งหมดให้เป็นภายใต้ธุรกิจในเครือ “PTS Holding Group”
โดยแบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจ Hospitality ประกอบด้วย Woodland Hotel & Resort, Woodland Suites, La Baguette, La Ferme Pattaya และล่าสุดกับร้านอาหาร Thai Mache
ธุรกิจเอนเตอร์เทนท์เมนท์ ได้แก่ ทิฟฟานี่โชว์ และพัทยาสปอร์ตบาซาร์
โดยสัดส่วนรายได้ที่ผ่านมาแบ่งเป็นทิฟฟานี่ 50% อาหาร 30% และโรงแรม 20% โดยปีนี้ตั้งเป้าในส่วนของทิฟฟานี่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15%”.