ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 ของ 2 ช่องทีวีดิจิทัล ในกลุ่มของช่องใหม่ ทั้งเวิร์คพอยท์และโมโน กำไรลดลงหนัก โดยมีสาเหตุหลักมาจากตลาดโฆษณาในกิจการทีวีลดลง และการแข่งขันในตลาดรุนแรง ที่งบโฆษณาหันไปลงออนไลน์มากยิ่งขึ้น ทำให้ธุรกิจทีวีดิจิทัลมีแนวโน้มการเติบโตลดลง
เวิร์คพอยท์รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า รายได้ของไตรมาสที่ 2 ของปีนี้อยู่ที่ 841.30 ล้านบาท ลดลง 289.05 ล้านบาท หรือ – 26% จากงวดเดียวกันของปี 2560 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,130.35 ล้านบาท โดยรายได้ที่เกิดจากกิจการทีวี อยู่ที่ 746.71 ล้านบาท ลดลง 275.63 ล้านบาท หรือ -27% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2560 ซึ่งรายได้จากกิจการทีวีนี้ส่วนใหญ่มาจากการลดลงของรายได้จากช่องเวิร์คพอยท์
ในขณะที่มีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 485.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.66 ล้านบาท หรือ 9% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากต้นทุนการผลิตรายการทีวีในช่วงไตรมาส 2 จากรายการ The Rapper, My Mom Cook หรือ เชฟไม่ทิ้งแถว และ Show me your son หรือลูกแม่หล่อมาก
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ระบุว่า สาเหตุหลักที่ทำให้เวิร์คพอยท์มีรายได้และกำไรลดฮวบลงขนาดนี้เป็นเพราะตลาดโฆษณาลดลงมาก โดยรายได้จากโฆษณาลดลงถึง 27% ในขณะที่เรตติ้งเฉลี่ยของช่องเวิร์คพอยท์ จากข้อมูลเรตติ้งของนีลเส็นในการวัดการออกอากาศ 24 ชั่วโมงก็ลดลงเช่นกัน โดยในไตรมาส 2 ของปี 2561 ได้เรตติ้งเฉลี่ย 0.76 ในขณะที่ไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว เรตติ้งเฉลี่ยของช่องอยู่ที่ 1.10
ส่วนโมโนนั้น แตกต่างจากเวิร์คพอยท์ เนื่องจากโมโนมีเรตติ้งที่ดีขึ้น มาเป็นอันดับ 3 แทนที่เวิร์คพอยท์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รายได้จากกิจการทีวีมีมากขึ้นสัมพันธ์กับตัวเลขเรตติ้งเฉลี่ยของช่องที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารายได้จากค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น 8% แต่ก็ถือว่าเป็นการโตที่น้อยมาก เทียบกับรายได้จากโฆษณาในไตรมาสแรกของปีนี้ที่โต 26%
ทำให้บรรดานักวิเคราะห์ต่างเชื่อว่า ตลาดรวมของโฆษณาทางทีวีจะยากลำบากมากยิ่งขึ้น เมื่อต้องแข่งกับช่องทางออนไลน์ และยิ่งทำให้ทีวีดิจิทัลไม่สามารถขึ้นราคาค่าโฆษณาได้ จากการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นนี้ จึงจะมีผลต่อรายได้ของกิจการทีวีแต่ละช่องในปีนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้โมโนรายงานว่า มีรายได้รวมในไตรมาส 2 ปี 2561 696.33 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2560 ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 692.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.69 ล้านบาท หรือ 0.53% โดยมีรายได้จากการให้บริการสื่อโฆษณาในไตรมาส 2 ปี 2561 อยู่ที่ 486.09 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2560 ที่ได้ 449.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.91 ล้านบาท หรือ 8.22%
การเติบโตของรายได้จากการให้บริการสื่อโฆษณา มาจากรายได้ของธุรกิจทีวีดิจิทัลช่อง MONO29 ที่เพิ่มขึ้น สะท้อนมาจากเรตติ้งที่เพิ่มขึ้น จากตัวเลขเรตติ้งของนีลเส็นที่วัดจากการออกอากาศ 24 ชั่วโมง เรตติ้งของช่องโมโนในไตรมาส 2 ปี 2561 มีเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 0.81 เมี่อเทียบกับ 0.68 ในไตรมาส 2 ของปี 2560
ส่วนกำไรสุทธิของโมโน ในไตรมาส 2 ปี 2561 อยู่ที่ 13.66 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2560 มีกำไรสุทธิ 51.63 ล้านบาท ลดลง 37.97 ล้านบาท หรือ 73.54% ซึ่งมีสาเหตุมาจาก ตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จากธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และธุรกิจอื่น.