ซีพีเอฟ ไตรมาส 2 ทำกำไร 5,894 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45%

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย หรือซีพีเอฟรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2561 ทำยอดขาย 136,353 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของกิจการต่างประเทศร้อยละ 16 ในขณะที่ยอดขายกิจการประเทศไทยลดลงร้อยละ

ยอดขายของซีพีเอฟเกิดจากกิจการต่างประเทศจำนวน 16 ประเทศ ด้วยสัดส่วน 68% กิจการประเทศไทย 27% และจากการส่งออกจากประเทศไทยร้อยละ 5 ของยอดขายรวม

โดยมียอดขายจาก 3 ประเทศหลัก คือ ประเทศไทย (ร้อยละ 32) สาธารณรัฐประชาชนจีน (ร้อยละ 26) และประเทศเวียดนาม (ร้อยละ 16) คิดเป็นประมาณร้อยละ 74 ของยอดขายรวม 

ไตรมาส 2 ปี 2561 ซีพีเอฟมีกำไรสุทธิ 5,894 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 93 จากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา กำไรสุทธิที่ดีขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากผลการดำเนินงานของกิจการในประเทศเวียดนามที่เข้าสู่ภาวะปกติ 

สุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า ภาวะเนื้อสัตว์ล้นตลาดในหลายประเทศเป็นปัจจัยหลักในการกดดันผลการดำเนินงานของซีพีเอฟตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2559 ที่เกิดภาวะผลผลิตสุกรล้นตลาดในประเทศเวียดนาม และเริ่มได้รับผลกระทบจากภาวะผลผลิตสุกรและไก่เนื้อล้นตลาดในประเทศไทยในช่วงกลางปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งในเดือนเมษายนปีนี้ราคาเนื้อสุกรในทั้ง 2 ประเทศเริ่มปรับตัวสูงขึ้นเหนือต้นทุนการผลิต

โดยเฉพาะราคาสุกรในประเทศเวียดนามได้มีการปรับมาอยู่ในภาวะปกติ อันเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผลการดำเนินงานของซีพีเอฟดีขึ้นในไตรมาส 2 ปีนี้ และคาดว่าน่าจะยังคงดีต่อเนื่องถึงปี 2562 โดยราคาสุกรและไก่เนื้อในประเทศไทยมีการปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมาและน่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการในครึ่งหลังของปีจะดีกว่าช่วงที่ผ่านมา 

สำหรับวิกฤตค่าเงินของประเทศตุรกีนั้น ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในประเทศตุรกี ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 3 ของยอดขายรวม เนื่องจากกิจการของบริษัทเน้นการผลิตและจำหน่ายในประเทศตุรกีเป็นหลัก และได้ปรับโครงสร้างทางการเงินในช่วงต้นปีที่ผ่านมา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้น่าจะส่งผลดีให้กับกิจการในประเทศตุรกีส่งออกได้เพิ่มขึ้น 

นอกจากนี้ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท โดยกำหนดให้วันที่ 29 สิงหาคม 2561 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (XD วันที่ 28 สิงหาคม 2561) และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 กันยายน 2561.