เอไอเอส รวมพลังนุช + อากาเซ่ ชิงจุดพลุครองคลื่นมากสุด

หลังประมูลคลื่น 1800 MHz เอไอเอสไม่รอช้า ชิงประกาศจุดยืนของการเป็นค่ายมือถือที่มีคลื่นความถี่มากที่สุดในบรรดาผู้ให้บริการทุกราย ด้วยจำนวนคลื่น 120 MHz ในขณะที่ค่ายทรูจะมีคลื่นความถี่ทั้งหมด 110 MHz และดีแทคมี 100 MHz

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า การได้คลื่นมาอีก 5 X 2 MHz จำนวน 10 MHz ทำให้เอไอเอสมีคลื่นความถี่ Super Block 1800 MHz จำนวน 40 MHz (20 MHz X 2) ที่จะสามารถให้บริการลูกค้า 4G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะคลื่นย่าน 1800 MHz เป็นคลื่นที่เหมาะสำหรับการให้บริการ 4G และทางเทคนิค การมีคลื่นย่านรับและย่านส่ง (uplink & downlink) จำนวนย่านละ 20 MHz ทำให้การให้บริการดีกว่าจำนวนคลื่นย่านละ 15 MHz

นอกจากนี้ยังเป็นทางเลือกให้ความคุ้มค่าสำหรับการขยายความจุโครงข่ายของเอไอเอส เพื่อรองรับการเติบโตของ 4G โดยเป็นการเพิ่มช่องสัญญาณจากที่มีอยู่เดิมและใช้ได้กับอุปกรณ์โครงข่าย 4G บนคลื่น 1800 MHz และยังเป็นการเตรียมการรองรับเทคโนโลยี 5G ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย

จากข้อมูลไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เอไอเอสมีจำนวนลูกค้าให้บริการทั้งหมด 40 ล้านราย รองลงมาคือค่ายทรู ที่มีทั้งหมด 28.1 ล้านราย และดีแทค 21.6 ล้านราย

ทั้งเอไอเอส และดีแทค ได้ประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz รายละ 1 ใบอนุญาต 5×2 MHz ในวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ในขณะที่ค่ายทรูไม่เข้าร่วมการประมูล ด้วยเหตุผลทางการเงิน และจำนวนคลื่นพอเพียงแล้วกับจำนวนลูกค้าที่มีอยู่

ถอดกลยุทธ์ดึงพลัง “นุช & อากาเซ่” ร่วมฉลองสร้างแบรนด์

เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง เอไอเอสใช้จังหวะนี้จัดงาน AIS Next G X Peck BamBam : The 1st time in Bangkok” ทันที โดยใช้พลังของทั้ง “นุช” เป๊ก ผลิตโชค และ “อากาเซ่” แบมแบม GOT7  2 พรีเซ็นเตอร์ระดับท็อปที่มีแฟนคลับติดตามเป็นจำนวนมาก มาใช้จุดพลุฉลองการเป็นค่ายมือถือที่ครองคลื่นความถี่มากที่สุด

งานจัดขึ้นบริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ในรูปแบบ Fan Meet คู่ เป๊ก และแบมแบม ซึ่งเอไอเอสเคยเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คู่นี้มาแล้วตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนปีนี้ และมีการประกาศจะมีภารกิจทั้งหมด 7 missions โดยครั้งสุดท้ายจะเป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งเอไอเอสอุบไต๋ไว้ จนมาประกาศงาน Fan Meet ของทั้งคู่ในวันนี้

“เอไอเอสเลือกจัดภารกิจที่ 7 ที่เป็นภารกิจสุดท้าย Fan Meet เพื่อแฟนแท้ๆ เพื่อสร้าง engagement กับแฟนคลับศิลปินทั้ง 2 คน และยังเป็นการขอบคุณแฟนๆ ที่ช่วยแชร์เรื่องดี ๆ และแนะนำให้เราปรับปรุงเรื่องต่างๆ เพราะกิจกรรมที่เราตอบโจทย์แฟนๆ ก็ถือว่าเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าของเราด้วย” ปรัธนา กล่าว

งานแฟนมีทแบบคู่ในลักษณะนี้ ย่อมทำให้ทั้งนุช และอากาเช่ ต่างไม่มีใครยอมใคร ต่างชักชวนกันผ่านทางสื่อโซเชียล มารวมตัวเพื่อเชียร์ศิลปินคนโปรด

บรรดาอากาเซ่ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่น ตามสไตล์ติ่งเกาหลี พากันมานอนค้างคืนที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพราะมีการประกาศล่วงหน้าว่า จะมีเพียงแค่ 1,400 คนเท่านั้นที่สามารถเข้างานได้ ทำให้บรรดานุชเริ่มกังวลว่า พลังของนุขจะไม่ยิ่งใหญ่เพียงพอเท่ากับอากาเซ่ ต่างเร่งระดมคนที่สามารถมาค้างคืนและเข้าร่วมงานได้ จึงส่งข้อความในแต่ละเรือนต่างๆ ของ “เฮียเป๊ก”

ภาพที่เห็นที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ คือภาพของเด็กวัยรุ่น อากาเซ่ จำนวนมาก มาประชันกับพลังนุช ส่วนใหญ่สูงวัย อีกจำนวนหนึ่งนั่งปะปนกัน เมื่อรวมกลุ่มกันเหมือนคนต่างวัยแต่เข้ามาด้วยจุดหมายเดียวกัน

ปรัธนา บอกว่า กลยุทธ์การจับคู่ศิลปินนั้น เริ่มมาจากการที่เอไอเอสพูดคุยกับศิลปินแต่ละคนว่าจะต้องจับคู่กันยังไงให้ win win ทั้งคู่ ทั้งศิลปิน และเรา win เมื่อกลุ่ม “นุช” และ “อากาเซ่” ไม่ทับซ้อนกัน มีความแตกต่างกัน พอจับคู่กัน ก็กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ต่างผ่ายต่างเพิ่มแฟนคลับให้กันและกัน และได้กลายเป็นครอบครัวเอไอเอสไปด้วย เป็นปรากฏการณ์ที่เป็น Positive เชิงการตลาด

เอไอเอสยังมีการจับคู่พรีเซ็นเตอร์ในสังกัดอีกหลายคู่ ที่ตอนนี้มีทั้งเจมส์ จิรายุ-แต้ว ณฐพร และเบลล่า ราณี-เวียร์ ศุกลวัฒน์

ในเชิงการตลาดเราจะทำต่อเนื่อง แต่จะให้หลากหลายแบบไม่ซ้ำ ขอให้รอดูต่อไป

ปรัธนา กล่าว


อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง