หลังจากรายการ The Voice Thailand ย้ายจากช่อง 3 มาอยู่ช่องพีพีทีวี ก็มีกระแสข่าวว่าทีมโค้ชต้องเปลี่ยนแปลง
ล่าสุดได้ข้อสรุปแล้วว่า “ป๊อบ ปองกูล“ ศิลปินหนุ่มร่างบิ๊ก อารมรณ์ดี และ “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” เป็น 2 โค้ชใหม่ให้กับเดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ที่ย้ายลงผังช่องพีพีทีวี โดยที่อีก 2 โค้ช “ก้อง สหรัถ” และ “โจอี้ บอย” ยังอยู่เหมือนเดิม
เมื่อ “ป๊อบ ปองกูล” ต้องมาเจอกับ “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” สายแรงด้วยฝีปากทั้งคู่ จึงคาดว่าจะทำให้รูปแบบรายการสนุกสนานมากขึ้น จากการตีฝีปาก จิกกัดกันเพื่อความบันเทิง
สำหรับในแง่การตลาดแล้ว “ป๊อบ ปองกูล” เป็นหนึ่งในศิลปินที่มีกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจมาก โดยเป็นพิธีกรเพลงมาแล้วหลายรายการทางช่องวัน การดึงป๊อบมา จึงน่าจะเรียกฐานผู้ชมทีวีกลุ่มคนรุ่นใหม่ๆ มากขึ้น
ส่วนเจนนิเฟอร์ คิ้ม เป็นตัวแทนของ “ตัวแม่” นักร้องหญิงเสียงดี ที่เจาะกลุ่มสูงวัยขึ้นมาหน่อย ขายความจี๊ดของตัวแม่ ที่หลงใหลทั้งเสียง และความหล่อของผู้เข้าแข่งขัน ที่พร้อมจะท้ารบกับโค้ชคนอื่นๆ
ในขณะที่ “พี่ก้อง–ก้อง สหรัถ” ยังเป็นตัวแทนของนักร้องรุ่นใหญ่ หล่อ เสียงดี เป็นผู้ชายในฝัน ฝันหวานของผู้เข้าร่วมแข่งขันแต่ละคน ที่มักจะเลือกอยู่ทีมก้อง ตามคำขอร้องของพ่อแม่ และโจอี้ บอย ที่ได้ความโดดเด่นในฐานะเจ้าพ่อเพลงแรป มาดึงกลุ่มคนรุ่นกลางใหม่กลางเก่าให้มาสนใจรายการมากขึ้น
ทั้ง 4 คนจึงกลายเป็นองค์ประกอบที่ลงตัวกับรูปแบบรายการ ที่ช่องพีพีทีวีหวังไว้ว่าจะยังคงประสบความสำเร็จได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ฝังตัวอยู่ที่ช่อง 3 มายาวนานถึง 6 ซีซันมาแล้ว
ก่อนหน้านี้ สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ จากพีพีทีวีเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า พีพีทีวีได้ทุ่มกว่า 500 ล้านบาท ในการซื้อลิขสิทธิ์รายการนี้เป็นเวลา 3 ปี โดยต้องทำทั้ง 3 รายการของ The Voice ตั้งแต่ The Voice Kids. The Voice Thailand และ The Voice Senior โดยเป็นหนึ่งในแผนของช่องพีพีทีวีที่เข้ามาเจาะฐานกลุ่มบันเทิงมากขึ้น จากคอนเทนต์รายการวาไรตี้ และการลงละครไทย
โดยละครไทยนั้น พีพีทีวียังได้กลุ่ม Change2561 ของพี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุลจากกลุ่มจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เข้ามาร่วมงานด้วย
ส่วนลิขสิทธิ์รายการกีฬาต่างๆ โดยเฉพาะฟุตบอลลีกในยุโรปของพีพีทีวีนั้น จะเริ่มหมดสัญญาในกลางปีหน้านี้ ซึ่งแต่สัญญามีค่าลิขสิทธิ์ค่อนข้างแพง ต้องใช้เงินมหาศาล แต่เรตติ้งก็ยังไม่ได้สูงมาก
เป็นปกติไปแล้ว เมื่อรายการที่ย้ายช่องไปยังช่องใหม่ จะต้องมีการ Refresh รายการ ด้วยการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบในรายการเพื่อให้ผู้ชมมีความรู้สึกสดใหม่ และกระตุ้นความอยากรับชมมากขึ้น เช่นเดียวกับรายการ The Voice Thailand ที่มีแผนจะลงผังช่องพีพีทีวีในเดือนพฤศจิกายนนี้ การเปลี่ยนแปลงโค้ชที่มีอยู่ 4 คนของรายการ จึงเป็นสิ่งแรกที่จำเป็นต้องทำ
ช่วงอยู่กับช่อง 3 โค้ชรายการมีการเปลี่ยนแปลงมาตลอด โดยคนแรกที่ขอออกไปคือ “แสตมป์ อภิวัชร์” ถูกแทนที่ด้วย “สิงโต นำโชค” ศิลปินที่มีแนวเพลงคล้ายๆ กัน
ตามมาด้วยการเปลี่นแปลงโค้ชหญิงเพียงคนเดียวของรายการ จาก ”เจนนิเฟอร์ คิ้ม” มาเป็น “ดา เอ็นโดรฟิน” ด้วยเหตุผลเพื่อความแปลกใหม่ของรายการ อีกทั้งตาม Format ของเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างทัลปา ที่ออกอากาศในประเทศต่างๆ ชอยส์แรกๆ ของแต่ละประเทศ เพื่อ Refresh รายการใหม่ก็จะลงมาที่โค้ชฝ่ายหญิงทุกครั้ง แต่ “ดา เอ็นโดรฟิน” อยู่ได้เพียง 2 ซีซัน ก็บังเอิญต้องย้ายการออกอากาศไปอยู่ที่พีพีทีวีพอดี จึงทำให้มีการปรับเปลี่ยนอีกครั้ง และมาลงตัวที่ “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” อีกครั้ง.