ศึกละครสุดสัปดาห์เดือด ช่องวันขยายวัน ส่ง “เลือดข้นคนจาง” ลงจอ ช่อง 7 ส่ง “สายโลหิต” สู้เต็มที่

3 ช่องใหญ่ ลงละครจัดเต็มช่วงปลายสัปดาห์ สู้ศึกชิงเรตติ้ง ด้วยละครชุดใหม่ “สายโลหิต” ช่อง 7 และ “ริมฝั่งน้ำ” ช่อง 3 ชนกับ “เลือดข้นคนจาง”จากช่องวันที่เพิ่งขยายตลาดละครมาลงวันศุกร์-เสาร์ เป็นครั้งแรก

รอกันมานานกับละครพีเรียด เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยกรุงศรีอยุธยาแตก “สายโลหิต” ที่ช่อง 7 ทุ่มงบเต็มที่ ให้สมเป็นละครฟอร์มใหญ่แห่งปี ก็ได้ฤกษ์ลงออนแอร์ครั้งแรกวันเสาร์ที่ 22 กันยายนนี้

สายโลหิต เป็นละครพีเรียดในตำนาน ที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับช่อง 7 มาแล้วในเวอร์ชั่นของ หนุ่ม ศรราม ในบทขุนไกร และกบ สุวนันท์ ในบทดาวเรือง ตั้งแต่ปี 2538 แม้ว่าละครเรื่องนี้มีการรีเมกมาแล้ว 3 ครั้ง อีก 2 ครั้งออกอากาศทางช่อง 3 แต่ก็ไม่เคยมีตอนไหนประสบความสำเร็จเท่ากับเวอร์ชั่นของช่อง 7 ปี 2538 ที่ได้ “ศัลยา” คนเขียนบทมือทองเช่นเดิมเป็นผู้กลับมาเขียนบทละครเรื่องนี้อีกครั้ง

ในปีนี้ ศัลยา เพิ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงจากผลงานการเขียนบทละคร “บุพเพสันนิวาส” ทางช่อง 3 มาแล้ว คราวนี้ช่อง 7 จึงคาดหวังสุดๆ ว่า “สายโลหิต” จะสามารถสร้างความนิยมไม่แพ้ “บุพเพสันนิวาส” เลยทีเดียว

ช่อง 7 เลือกจัด “สายโลหิต” ลงช่วง ศุกร์-อาทิตย์ เนื่องจากต้องการสร้างกระแสความรักชาติ นิยมไทยอย่างต่อเนื่องในกลุ่มครอบครัวที่มักชมละครพร้อมหน้ากันในช่วงวันหยุด โดยเตรียมลงจอครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 21 กันยายน แทนที่ละคร “เจ้าสาวจำยอม”

แต่เมื่อดูจากสถานการณ์แข่งขันจากคู่แข่งช่อง 3 ที่กำลังออกอากาศ “อังกอร์” ละครบู๊ที่มีกระแสมาแรง มีเรตติ้งสูสีคู่คี่กับช่อง 7 สลับกันแพ้ชนะมาโดยตลอด ช่อง 7 จึงต้องสั่งเลื่อนการออนแอร์ “สายโลหิต” ออกไปเป็นเสาร์ที่ 22 กันยายนแทน โดยเลี่ยงที่จะไปออนแอร์วันเดียวกับที่ “อังกอร์” จบในวันที่ 21 กันยายน

ทำให้ละคร “เจ้าสาวจำยอม” และ “อังกอร์” จะจบลงพร้อมกันในวันศุกร์ที่ 21 กันยายนนี้ และเริ่มละครชุดใหม่ “สายโลหิต” และ “ริมฝั่งน้ำ” ในวันที่ 22 กันยายน เรียกได้ว่า จบ และเริ่มใหม่พร้อมๆ กันทั้งช่อง 7 และช่อง 3 วัดกันจะจะไปเลย

หากเทียบฟอร์มละครใหม่ “สายโลหิต” ช่อง 7 และ “ริมฝั่งน้ำ” ช่อง 3 แล้ว “สายโลหิต” เป็นฟอร์มยักษ์ ลงทุนจัดเต็มสูงกว่า ในขณะที่ “ริมฝั่งน้ำ” ที่ช่อง 3 จัดสู้นั้น เป็นละครน้ำดี ส่งเสริมสังคมครอบครัว เน้นให้เห็นความสำคัญ ไม่ละเลยการดูแลผู้สูงอายุของทุกครอบครัว เน้นความสำคัญของนักแสดงอาวุโส ที่ฉีกไปอีกแนวหนึ่ง

เทียบตามฟอร์ม “สายโลหิต” ยังเหนือกว่ามาก ด้วยความเป็นละครดังในอดีต และมากับความคาดหวังมากมาย แต่ “ริมฝั่งน้ำ” ไม่ต้องแบกรับความกดดันใดๆ ละครพล็อตใหม่ เน้นกลุ่มครอบครัว

อย่างไรก็ตาม ศึกละครปลายสัปดาห์ ไม่ได้มีแค่ 2 เรื่อง 2 ช่องที่ต้องแข่งขันกันอีกต่อไปแล้ว ยังมีช่องวัน ที่โดดเข้ามาร่วมวงละครชุดช่วงเวลานี้ด้วยเช่นกัน

ที่ผ่านมาการสู้ศึกละครไทยหลังข่าว 2 ทุ่ม ของทั้ง 3 ช่องเป็นไปอย่างดุเดือดในช่วงวันทำงาน ที่ช่องวันเพิ่งประสบความสำเร็จจากเรื่อง “เมีย 2018” ส่วนช่วงวันหยุด ช่องวันได้เคยส่งละครเรื่อง วายุเทพยุทธ์ ลงชิมลางออนแอร์เฉพาะในวันเสาร์มาแล้ว

เมื่อละครไทยเป็นคอนแทนต์ที่เรียกความนิยม และสร้างเรตติ้งได้สูงสุด เมื่อละครเรื่องหนึ่งประสบความสำเร็จ มีผลต่อเรตติ้งทั้งช่อง เพราะช่วยสร้างเรตติ้งรายการที่ออกอากาศใกล้เคียงกันให้สูงขึ้นด้วย แต่ปัญหาคือละครเป็นรายการที่ต้องลงทุนสูงอย่างน้อย 20- 30 ล้านบาทต่อเรื่อง อีกทั้งยังใช้ช่วงเวลาการถ่ายทำ ตัดต่ออีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ต้องวางแผนกันข้ามปี ซึ่งช่องวันซุ่มเตรียมงานมาเต็มที่

มาคราวนี้ช่องวันจัดเต็ม พร้อมลุยตลาดละครเต็มที่ โดยขยายชุดละครลงศุกร์ เสาร์ สู้ ชิงเรตติ้งช่วงปลายสัปดาห์ ด้วยละครชุดใหม่ “เลือดข้นคนจาง” ละครดราม่าแนวสืบสวนสอบสวนฟอร์มใหม่ ที่ขนทัพนักแสดงทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ลงเต็มจอ เริ่มออกอากาศไปเมื่อวันศุกร์ที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ลงผังแทนที่การถ่ายทอดสดมวย รายการ MX มวยเอ็กซ์ตรีม ที่เคยประจำการทุกวันศุกร์ทางช่องวัน หลุดไปจากผัง โดยที่ผ่านมาเรตติ้งมวยเป็นหนึ่งในรายการที่ทำเรตติ้งให้ช่องเฉลี่ยในระดับประมาณ  1.2 มาโดยตลอด

เรตติ้ง 2 ตอนแรกที่ออกอากาศ อยู่ที่เฉลี่ย 0.700 และตอนที่ 2 ในวันที่ 15 กันยายน เฉลี่ยอยู่ที่ 0.602 แม้เรตติ้งยังไม่มากนัก แต่ก็สร้างกระแสทั้งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ โลกออนไลน์ การแชร์ส่งต่อมากมาย จากคำพูดเด็ดๆ จากบรรดานักแสดงมาเต็มๆ โดยเฉพาะ ฉากในวัยเด็กของครอบครัวจีน ที่ให้ความสำคัญกับลูกชายมากกว่าลูกสาว ลูกสาวจะเป็นคนหลังๆ กินอาหารเหลือจากลูกชายจากครอบครัวเสมอ โดยมีการดัดแปลงข้อความ แชร์ประสบการณ์วัยเยาว์กันมากมาย

นอกจากจัดละครลงวันศุกร์แล้ว ช่องวันยังจัดซีรีส์ชุดใหม่จากจีเอ็มเอ็มทีวี ลงออกอากาศต่อจาก “เลือดข้นคนจาง” ด้วยซีรีส์ไทยชุด “มารร้ายคู่หมายรัก” ออกอากาศต่อเนื่องยาวไปถึง 5 ทุ่ม ได้เรตติ้งเฉลี่ย 0.385

ส่วนวันเสาร์ จัดรีรันซิทคอม “เป็นต่อ” ที่กลายเป็นตำนานของช่องวันไปแล้ว ลงออกอากาศต่อจาก “เลือดข้นคนจาง” ได้เรตติ้ง 0.599

อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ ช่องวันยังไม่ใส่ละครลงผัง เนื่องจากรายการวาไรตี้ “รู้ไหมใครโสด” ที่เกาะติดผังหลังข่าว 2 ทุ่มในทุกวันอาทิตย์ ยังเป็นรายการที่ได้รับความนิยมสูงประจำวันของช่อง เรตติ้งตอนล่าสุดวันที่ 16 กันยายนอยู่ที่ 1.575

ต่อจากนี้ไปน่าจับตามองอย่างยิ่งว่า ชุดละครช่วงท้ายสัปดาห์ จะแข่งขันกันเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ผลประโยชน์เกิดแก่ผู้ชม ที่มีทางเลือกในการรับชมคอนเทนต์ที่หลากหลายมากขึ้น.