เมื่อพฤติกรรมคนไทยหันมาดื่มกาแฟสดมากขึ้น แถมร้านกาแฟสดมีอยู่ทั่วเมือง ทำเอาผู้ผลิตเครื่องชงกาแฟแคปซูล เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ (NESCAFÉ Dolce Gusto) ต้องทุ่มงบ 250 ล้านบาท ปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ หวังดันกาแฟสดคั่วบดเข้าผู้บริโภคไทยในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม
ด้วยการปรับราคาแคปซูล เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ ลง 25% ตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 นี้เป็นต้นไป เฉลี่ยราคาเริ่มต้นแก้วละ 16 บาท
แวลดดิสลาฟ อังดรีฟ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์กาแฟและครีมเทียมบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่า เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2556 สามารถสร้างอัตราการเติบโตระดับเลขสองหลักได้อย่างต่อเนื่องในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่ยังคงมีโอกาสเติบโตได้อีกมากมายในตลาดประเทศไทย
เนื่องจากปัจจุบัน เครื่องชงกาแฟแคปซูลเนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ มีใช้กันอยู่ภายในครัวเรือนเพียง 3% ของกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย จึงเชื่อว่าด้วยกลยุทธ์ราคาใหม่ที่เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น จะช่วยขยายฐานลูกค้าในครัวเรือนจาก 3% เป็น 8% และเพิ่มเป็น 20% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
โดยงบกว่า 250 ล้านบาท จะถูกนำไปใช้ เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาครั้งแรกในไทย ออกอากาศในวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ควบคู่กับการใช้ช่องทางสื่อสารผ่านสื่อดิจิทัล เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง รวมถึงการเพิ่มงบอีกเท่าตัวในการแจกผลิตภัณฑ์ทดลองในปีพ.ศ. 2562
ที่ผ่านมา เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ ประสบความสำเร็จได้ในทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ครองส่วนแบ่งตลาดกาแฟแคปซูลถึง 77% นอกจากนี้ ยังเป็นแบรนด์แรกที่เปิดตัวบริการแพ็กเกจกาแฟรายเดือนในประเทศไทย จัดส่งแคปซูลกาแฟพร้อมส่วนลดพิเศษ 10% ถึงบ้านหรือที่ทำงานของลูกค้าราคาเริ่ม 672 บาทต่อเดือน โดยปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 4,000 รายแล้ว
ปัจจุบัน เนสกาแฟ ดอลเช่ กุสโต้ มีผลิตภัณฑ์กาแฟสดคั่วบดและเครื่องดื่มวางขายในประเทศไทยทั้งหมด 13 เมนู ประกอบด้วย เอสเพรสโซ่ คาปูชิโน่ อเมริกาโน่ รวมทั้งช็อคโกแลต และชา โดยมีการปรับสูตร กาแฟสด อเมริกาโน่ และเอสเพรสโซ่อินเทนโซ่ เพื่อให้สอดคล้องกับรสนิยมของผู้บริโภคไทย ซึ่งชื่นชอบกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้น.