หลังจากกรมสรรพากรได้คัดเลือกให้ “เคาน์เตอร์เซอร์วิส” ในเครือซีพี เป็นตัวแทนคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทย เฉือนเอาชนะห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่รวมตัวกันเสนอตัวแต่ไม่ผ่านการคัดเลือก
กรมสรรพากรต้องการเพิ่มจุดให้บริการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวนำเงินที่ได้คืนไปซื้อสินค้าและบริการต่อ ไม่ต้องไปขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่สนามบิน ซึ่งต้องใช้เวลานานและแออัดมาก และเป็นการช่วยผู้ประกอบการและกระตุ้นเศรษฐกิจไปในตัว
จากนั้นได้ประกาศเปิดรับสมัครตัวแทนเพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยวในเมือง ตั้งแต่วันที่ 7 – 17 กันยายน 2561 โดยมีผู้ยื่นสมัครทั้งหมด 3 ราย 1.เคาน์เตอร์เซอร์วิสในเครือซีพี 2.บริษัทร่วมทุน แวต รีฟันด์ เซ็นเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เกิดจากการร่วมทุนกันของศูนย์การค้าดังของไทย คือ กลุ่มเซ็นทรัล เดอะมอลล์ โรบินสัน และสยามพิวรรธน์ และผู้ประกอบการร้านจิวเวลรี
ล่าสุด กรมสรรพากรได้ออกมาชี้แจงว่า การพิจารณาจะมาจาก 2 ส่วน คือ 1.คุณสมบัติของผู้สมัคร และ 2.ความเหมาะสมในการเป็นผู้ให้บริการเป็นตัวแทนฯ ได้แก่ บริเวณที่ตั้งของสถานที่ให้บริการ การคมนาคมสะดวก ความปลอดภัย อัตราค่าบริการที่เรียกเก็บจากนักท่องเที่ยว ความพร้อมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ฯลฯ โดยผู้สมัครต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 จึงจะถือว่าผ่าน
โดยคาน์เตอร์เซอร์วิสเพียงรายเดียว เพราะข้าข่ายตามข้อกำหนดพื้นฐานตามที่ประกาศ
ส่วนเอกชนรายอื่นไม่ผ่านคุณสมบัติ เอกสารไม่ครบถ้วนและไม่ถูกต้อง รวมทั้งเสนอจุดคืนภาษีเกิน 5 จุด ขณะที่กรมสรรพากรกำหนดให้ไม่เกิน 3 จุด คือ ในเมืองกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง
อย่างไรก็ตาม เคาน์เตอร์เซอร์วิสจะทดลองเพียง 6 เดือนเท่านั้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 61 – 31 มี.ค. 62 โดยมีจุดให้บริการเริ่มต้น 3 จุด ได้แก่ เซเว่นอีเลฟเว่น สาขาลิโด้, สาขาแบงค็อกไนท์บาร์ซาร์ และสาขาเยาวราช
หลังจากนั้นจะประเมินผลความสำเร็จอีกทีว่าปริมาณการคืนภาษีมีมากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (3 ต.ค.) สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และบริษัทร่วมทุน แวต รีฟันด์ เซ็นเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้จัดงานแถลงข่าวชี้แจงกรณีดาวน์ทาวน์ แวต รีฟันด์ ฟอร์ ทัวร์ริสต์ขึ้น.