ถือเป็นข่าวใหญ่ในวงการค้าปลีกโลก เมื่อ Toys “R” Us ส่งสัญญาณชัดเจนเตรียมเกิดใหม่ด้วยรูปโฉมและทิศทางใหม่สดใสกว่าเดิม โดย Toys “R” Us ยืนยันในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อศาลว่าจะกลับมาประกอบธุรกิจจำหน่ายของเล่นอีกครั้ง แต่ยังอุบเงียบไม่เปิดเผยวันและเวลาเริ่มเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในขณะนี้
Toys “R” Us เป็นแบรนด์ที่อยู่ในภาวะล้มละลายและปิดตัวร้านค้าทุกแห่งในสหรัฐฯเพราะต้องเผชิญหน้ากับยอดขายที่ลดลงและหนี้สินที่เพิ่มขึ้น วันนี้ Toys “R” Us กำลังมองหาช่องทางกลับมาหายใจอีกครั้งในธุรกิจของเล่น ด้วยการเปลี่ยนแบรนด์ใหม่ ปรับโครงสร้างและรูปแบบธุรกิจให้ต่างจากเดิม คาดว่าจะมีเพียง “จอฟฟรีย์เดอะยีราฟ” (Geoffrey the Giraffe) และอีกไม่กี่ไอเท็มเท่านั้นที่จะมีส่วนกับแบรนด์ใหม่ของ Toys “R” Us
รายงานจาก CNN Buiness สรุปความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาว่า Toys “R” Us ปิดร้านค้าในสหรัฐฯ ทั้งหมดแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2018 เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเลิกกิจการเพราะภาวะล้มละลาย และเพื่อชำระหนี้ Toys “R” Us วางแผนประมูลสิทธิในชื่อแบรนด์หลักและแบรนด์รองอย่าง Babies “R” Us จุดนี้รายงานย้ำว่ามีผู้เสนอราคาได้ทำข้อเสนอตามเงื่อนไขการประมูลแล้ว แต่เจ้าของ Toys “R” Us ตัดสินใจยกเลิกการประมูลในที่สุด
ฮึดสู้เพื่ออยู่รอด
ไม่ว่าราคาประมูลนั้นต่ำเกินไป หรือมีเหตุผลอื่นแอบแฝง แต่รายงานชี้ว่ากลุ่มผู้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่เหลือของ Toys “R” Us ตัดสินใจฮึดสู้อีกครั้ง โดยกำลังมองหาทาง “รีสตาร์ทธุรกิจ” ซึ่งจะครอบคลุมทั้งแบรนด์หลักแบรนด์รอง Toys “R” Us และ Babies “R” Us การตัดสินใจนี้ถูกชี้แจงต่อศาลสหรัฐฯ ผ่านเอกสารที่ถูกยื่นอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้
ในเอกสาร Toys “R” Us กล่าวว่ากำลังพิจารณาหาทางให้ Toys “R” Us และ Babies “R” Us เริ่มต้นใหม่ในฐานะบริษัทใหม่ เอกสารระบุว่าขั้นตอนการคืนชีพบริษัทใหม่กำลังดำเนินการอยู่ มั่นใจว่าแผนนี้จะสามารถสร้างธุรกิจการค้าปลีกใหม่ภายในประเทศ ภายใต้ชื่อ Toys “R” Us และ Babies “R” Us รวมถึงการขยายธุรกิจในต่างประเทศ คู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจแบรนด์ส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของเวลาและวิธีการที่แบรนด์จะถูกนำไปปรับโครงสร้าง เพื่อเกิดใหม่ในตลาดนั้นไม่มีการเปิดเผยใดๆ
ความหวังยังมี?
ข่าวการคืนชีพของ Toys “R” Us และ Babies “R” Us สะท้อนว่าผู้ก่อตั้งยังมีความหวังในตลาดของเล่นระดับโลก แต่ความหวังนี้ต้องลงมือทำด้วยตัวเอง เนื่องจากความจริงที่ว่าผู้เสนอราคาซื้อแบรนด์ Toys “R” Us และ Babies “R” Us อาจไม่ได้ต้องการจะนำแบรนด์กลับมาทำตลาดอีกครั้ง หรือบางกรณีที่อาจจะเป็นการซื้อแบรนด์ของคู่แข่ง เพื่อให้แน่ใจว่าแบรนด์นี้จะไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยคู่แข่งรายใหม่
ประเด็นนี้ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของผู้ที่เสนอราคาซื้อแบรนด์ Toys “R” Us และ Babies “R” Us ในเอกสารล้มละลาย
สำหรับ Toys “R” Us ยักษ์เคยใหญ่วงการของเล่นยื่นขอล้มละลายเมื่อปีที่แล้ว โดยมีแผนจะใช้กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อชำระหนี้และยังคงอยู่ในธุรกิจ แต่หลังจากช่วงเทศกาลช้อปปิ้งคริสต์มาสที่น่าผิดหวังสุดขีด ทำให้ Toys “R” Us จำใจประกาศในเดือนมีนาคมว่าจะปิดร้านค้าในสหรัฐฯ อีก 800 แห่งและเลิกทำธุรกิจ
ผลคือพลังงานประมาณ 31,000 คนตกงาน ทำให้ร้านค้าปลีกอายุ 70 ปีปิดกิจการในสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา.
ที่มา : https://edition.cnn.com/2018/10/03/business/toys-r-us-brand/index.html