กลางลาน ”สยามเซ็นเตอร์” ถูกแต่งแต้มด้วยโทนสีชมพู และส้ม จนสาวน้อยวัยรุ่นจำนวนมากสะดุดตา เป็นความสำเร็จระดับแรกในการเรียกความสนใจด้วย ”สี” ที่ช่วยทำให้อีเวนต์แถลงงานประกวด “ยูทิป เฟรชชี่ ไอดอล 2009” วันนี้คึกคักตามแผน เพราะได้กลุ่มเป้าหมายที่ผ่านไปผ่านมาหยุดฟังว่า ”น้ำยาอุทัยทิพย์” กำลังพูดถึง Contest Marketing อีกครั้ง พร้อมกับเล่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 80 ปี คือการเปลี่ยนโลโก้
จากรูปพระอาทิตย์สีเขียวที่ใช้มานาน 70-80 ปี ถูกเปลี่ยนเป็นดอกไม้สีชมพู เพื่อให้ลุคดูเด็กลง เพราะมีผลสำรวจพบว่าสีชมพูให้ความรู้สึกอ่อนหวาน ความรัก สะท้อนความเป็นเด็กผู้หญิงวัยรุ่น ตรงกับคาแร็กเตอร์ใหม่ของ “อุทัยทิพย์” ในยุคนี้ โดยทีมงานใช้เวลาออกแบบราว 3 เดือน
“ณรงค์” บอกว่าแม้โลโก้เดิมดูเชย และกลุ่มเป้าหมายไม่กล้าจับ แต่การเปลี่ยนครั้งนี้ ก็ยังต้องมีโลโก้เดิมขนาดเล็กติดไว้ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเดิมอาจยังไม่คุ้นเคย ส่วนการจัดประกวด ยูทิป เฟรชชี่ ไอดอล 2009 เป็นการตอกย้ำกลยุทธ์ที่ ”น้ำยาอุทัยทิพย์” ในเครือบริษัทโอสถสภา จำกัด ปักธงใช้กลยุทธ์ Contest Marketing เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยเน้นที่กลุ่มวัยรุ่น
คนรุ่นปู่ย่าตาทวดนิยมผสมน้ำยาอุทัยทิพย์กับน้ำดื่มดับกระหาย แต่ 7-8 ปีที่ผ่านมาวัยรุ่นใช้แต่งปากทาแก้มตามเทรนด์แต่งหน้าอมชมพูแบบธรรมชาติ คนรุ่นใหม่จึงนิยมใช้อุทัยทิพย์เป็นเครื่องสำอางถึง 90% ใช้ผสมน้ำดื่มเพียง 10% โอสถสภาจึงต้องขยายแบรนด์เป็น “ยูทิป” ที่วาง Position เป็น Herbal Cosmetic โดยมีหัวเชื้อของน้ำยาอุทัยทิพย์ผสมอยู่ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคืออายุ 15-19 ปี และ 2 ปีที่ผ่านมา ยูทิปและอุทัยทิพย์มีรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท เติบโตปีละ 20% จากยูทิป 40 % และ 60% จากอุทัยทิพย์ คาดว่า 2 ปีข้างหน้ารายได้ยูทิปจะขยับขึ้นเป็น 60%
รายได้ที่มาจากวัยรุ่นมากขึ้น ทำให้การตลาดยังคงเข้มข้น โดยเน้นการประกวดที่ล่าสุดต้องเพิ่มช่องทางรับสมัครคือรถ Charming Mobile ตระเวนรับสมัครทั่วกรุงเทพฯ และรอบมหาวิทยาลัย ส่งข้อมูลผ่านบลูทูธ รัศมีกว่า 100 เมตร จากเดิมรอให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาสมัครเท่านั้น โดยใช้งบทั้งหมด 40 ล้านบาท และเมื่อบวกกับแรงจูงใจจากผู้ที่เคยชนะประกวดได้ทำงานในวงการบันเทิง คือ เต้ย จรินทร์ และ มายด์ ณภศศิ คาดว่าปีนี้จะมีผู้สมัคร 5,000 คน จากปีก่อนประมาณ 1,000 คน
“ณรงค์” ย้ำว่ากลยุทธ์ Contest Marketing และการปรับลุคให้ทันสมัย จะสามารถเอาใจวัยรุ่นไว้ได้ เพราะกลุ่มนี้เปลี่ยนไปใช้แบรนด์อื่นได้ตลอดเวลา ลอยัลตี้ไม่สูง ทั้ง 2 กลยุทธ์ที่กำลังขับเคลื่อนเวลานี้ จึงมั่นใจได้ว่าจะทำให้ ”ยูทิป” ยังแรงในตลาดได้อีกนาน
เปรียบเทียบแพ็กเกจจิ้ง
รูปแพ็กเก็จจิ้งโลโก้แบบเดิม เริ่มใช้เมื่อ 70-80 ปีที่แล้ว ไม่เคยเปลี่ยนเป็นรูปพระอาทิตย์สีเขียว ดูแก่และเชย
รูปแพ็กเกจจิ้งโลโก้แบบใหม่ เปลี่ยนเป็นรูปดอกไม้สีชมพู ให้ความสดใส และดูทันสมัยไม่น่าเบื่อ
Did you know?
ปี 2445 หรือสมัยรัชกาลที่ 5 รัฐบาลได้ขยายโอสถศาลา ผลิตยาไทยขึ้น 10 ขนาน และ 1 ในนั้น
คือ “ยาอุทัย” ซึ่งสูตรยาอุทัยได้ปรากฏในตำราแพทย์หลายเล่ม ที่กล่าวถึงยาชนิดหนึ่งว่า “ทิพย์สำราญ” ซึ่งมีสรรพคุณเดียวกับยาอุทัยทิพย์ คือ แก้ลม วิงเวียน และบำรุงหัวใจ
Timeline
ปี การเปลี่ยนแปลง
2445 ในสมัยรัชกาลที่ 5 น้ำยาอุทัยเป็น 1 ใน ยาไทย 10 ขนาน ที่ถูกผลิตขึ้น
2446 โอสถสภาได้นำมาทำการตลาดภายใต้ชื่อ “น้ำยาอุทัยทิพย์”
2548 กระแสการแต่งหน้าสีชมพูแบบธรรมชาติ โดยวัยรุ่นนิยมจากการใช้น้ำยาอุทัยทิพย์ โอสถสภาจึงแตกขยายธุรกิจแตกไลน์เป็น “ยูทิป” เป็นเครื่องสำอางสมุนไพร
2552 ปรับโลโก้ให้ใกล้ชิดกลุ่มเป้าหมาย และทำกิจกรรมการตลาด