กรุงไทย ทุ่ม 3 พันล้าน ลุยศึกแอปฯ ดึง “ณเดชน์” พลิกโฉม สู่ “กรุงไทย NEXT” เติมไลฟ์สไตล์เข้าหา “Gen Y”

                                                                                   เรื่อง : Thanatkit

ถึงแม้ธนาคารกรุงไทยจะเปิดตัว “KTB Netbank” Mobile Banking มาตั้งแต่ปี 2010 แต่ที่ผ่านมาการพัฒนากลับค่อยเป็นค่อยไป อาจด้วยความเป็นธนาคารของรัฐ ทำให้การขยับตัวแต่ละครั้งต้องมีขั้นมีตอน จนลูกค้าหลายคนออกมาบ่นว่าใช้งานยากและไม่สะดวกเท่ากับที่อื่น ขณะเดียวกันก็ปล่อยให้ธนาคารค่ายอื่นๆ ยกเครื่องนำหน้าไปก่อน 2-3 รอบแล้ว

แต่เมื่อพฤติกรรมของคนไทยให้ความสำคัญกับช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง เพราะคนไทย 69 ล้านคน มีโทรศัพท์มือถือ 56 ล้านคน สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 57 ล้านคน และใช้เวลากับอินเทอร์เน็ต 10 ชั่วโมต่อวัน

ในขณะที่ภาพรวมของ Mobile Banking ทั้งประเทศมีทั้งหมด 37.9 ล้านบัญชีในเดือนมิถุนายน จาก 31.6 ล้านบัญชี ณ สิ้นปี 2018 หรือคิดเป็นจำนวนประชากร 31 ล้านคน หรือ 56% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ แสดงว่า ยังมีคนอีกมากที่เข้าไม่ถึงและเป็นโอกาสของกรุงไทย ที่มีข้อมูลการใช้งาน Netbank เพิ่มขึ้น 57% ส่วน ATM ก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน 1% สวนทางกับจำนวนธุรกรรมในสาขาที่ลดลง 8%

กรุงไทยได้วางแผนยกเครื่อง KTB Netbank มาตั้งแต่ปลายปี โดยทุ่มเม็ดเงินไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 8 ปี เพื่อเปิดตัวแอปใหม่ที่ใช้ชื่อว่า “กรุงไทย NEXT” เริ่มโหลดให้ใช้งานได้ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา

แอปใหม่นี้ถูกปรับดีไซน์ใหม่หมดจด Minimal Design สไตล์คลีนๆ โดยชู 3 เรื่องหลัก

1.Product ใช้งานง่ายขึ้น ไม่ซับซ้อน มีความปลอดภัยสูง โดยใช้ทั้ง AI และ Machine Learning มาช่วย

2.Platform ใหม่ เป็นแบบ Microservices ส่งผลให้การทำงานรวดเร็วและมีเสถียรภาพขึ้น สามารถรองรับธุรกรรมได้ 25,000 รายการต่อวินาที หรือ 1 นาทีรองรับลูกค้าได้ 100,000 ราย โดยเคลมว่ามากที่สุดในทุกธนาคาร เวอร์ชั่นเดิมนั้นรอบรับได้เพียง 1,000 รายการต่อวินาทีเท่านั้น

3.การจ่ายค่าบริการที่ครอบคลุมที่สุดกว่า 1,000 บิล

การยกเครื่องในครั้งนี้กรุงไทยได้ตัดสินใจดึงพระเอกช่อง 3 “ณเดชน์ คูกิมิยะ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ด้วยหวังใช้ชื่อเสียงพระเอกหนุ่มซึ่งเป็นที่รู้จักดีของคนทั่วไป เพื่อขยายไปยังลูกค้ากลุ่มแมส นอกเหนือจากกลุ่มข้าราชการที่ถือเป็นฐานลูกค้าหลักอยู่แล้ว

จักรกฤษณ์ กลิ่นสมิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายนวัตกรรมและวิจัยทางเทคโนโลยี ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า

“กรุงไทย  NEXT ถูกออกแบบมาให้เป็นไลฟ์สไตล์แอป ต่างจากเวอร์ชั่นเก่าที่เป็นแบงกิ้งเพียวๆ เนื่องจากกรุงไทยต้องการเจาะกลุ่ม Gen Y ที่วันนี้มีสัดส่วนเพียง 30% ในขณะที่ฐานลูกค้าหลักเป็นกลุ่ม Gen X ซึ่ง Gen Y มีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากจะพัฒนาเป็นฐานลูกค้าหลักในอนาคต โดยช่วงแรกนี้ตัวแอปจะโชว์ฟีเจอร์โอนเติมจ่ายก่อน แต่หลังจากนี้จะเติมความเป็นไลฟ์ไสตล์มากขึ้น พร้อมกับวางแผนเพิ่ม Killer Feature ออกมาทุกไตรมาส”

เร็วๆ นี้ได้เตรียมออกแอปกรุงไทย NEXT ที่สามารถรองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นเก่าๆ เนื่องจากเห็นว่ายังมีผู้ใช้งานบางส่วนหลักแสนราย ที่ใช้มือถือที่ไม่สามารถรองรับเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดได้

ปัจจุบันธนาคารกรุงไทยมีฐานลูกค้ากว่า 30 ล้านบัญชีทั่วประเทศ มีกลุ่มผู้ใช้งาน Mobile Banking มากกว่า 5 ล้านราย active 2.9 ล้านราย จาก KTB Netbank ขณะนี้ได้มีฐานผู้ใช้ประมาณ 1.8 ล้านรายที่ย้ายไปกรุงไทย NEXT

คาดว่าสิ้นปีนี้จะเติมเป็น 3 ล้านราย ส่วนปี 2019 ตั้งเป้ามีผู้ใช้งานกรุงไทย NEXT ทั้งหมด 10 ล้านราย active ประมาณ 65-70% ทั้งนี้หากย้ายมาหมดแล้วก็จะมีการปิดแอปตัวเดิมไป

การเปิดตัว “กรุงไทย NEXT” เป็นความพยายามของกรุงไทยในการเป็น Invisible Banking อย่างเต็มตัว โดยวางโพสิชั่นของกรุงไทยเป็น “ธุรกรรมในอากาศ” ติดตัวและเคลื่อนที่ไปกับลูกค้าทุกที่ เคียงข้างผู้บริโภคในการทำธุรกรรมทุกที่ทุกเวลา