ช่อง 3 เลิกบทละครออนไลน์-หนังสือพิมพ์แล้ว หวังแก้ปมคนไม่ดูทีวี

กำลังเป็นโจทย์ใหญ่ของทีวีดิจิทัลในยุคที่คนอยู่กับมือถือ นิยมเสพสื่อออนไลน์ ทำอย่างไรถึงจะดึงผู้ชมให้มาดูบนหน้าจอทีวี ทำให้ช่อง 3 ต้องออกนโยบายผลิตละครช่อง 3 ออกนโยบายใหม่ ไม่ให้มีการขายบทละครลงในช่องทางหนังสือพิมพ์และออนไลน์ หวังที่จะดึงคนดูมาลุ้นละครแต่ละตอนสดๆ แทน

ช่อง 3 ได้เริ่มงดการเผยแพร่บทละครทางสื่อออนไลน์แล้ว ตั้งแต่เดือนกันยายน และเตรียมงดเผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ ซึ่งปัจจุบันมี 4 ฉบับ คือ ไทยรัฐ เดลินิวส์  ข่าวสด คมชัดลึก ในเร็วๆ นี้

แหล่งข่าวช่อง 3 บอกว่า อยู่ระหว่างทำหนังสือชี้แจงไปยังหนังสือพิมพ์ทั้ง 4 ฉบับถึงสาเหตุที่ต้องยกเลิกหลังจากร่วมมือกันมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 40 ปี เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งของการโปรโมตละคร

โดยจากนี้จะไม่ส่งบทละครฉบับเต็มแล้ว จะส่งแค่เรื่องย่อไปให้สื่อต่างๆ รวมถึงนิตยสารเล่มละคร ก็จะได้แค่เรื่องย่อเท่านั้น ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเนื้อเรื่องทั้งหมด โดยเฉพาะตอนจบ เพื่อให้ผู้ชมได้ลุ้นที่หน้าจอด้วยตัวเอง

ละครเรื่องแรกที่ทำตามนโยบายใหม่นี้คือ มีเพียงรัก”ที่กำลังออกอากาศในวันศุกร์-อาทิตย์ นำแสดงโดย เคน ธีรเดช และ เต้ย จรินทร์พร

นโยบายใหม่นี้ ช่อง 3 ต้องการให้ผู้ชมรู้สึก ลุ้น และติดตามละครที่หน้าจอแทน เพราะที่ผ่านมาบางคนใช้วิธีการอ่านเรื่องแต่ละตอนมาก่อน ทำให้ลดทอนความอยากดูลงไป จนมีผลทำให้เรตติ้งละครลดต่ำลงด้วย

แหล่งข่าวกล่าว

ที่ผ่านมา บทละครที่นำไปให้กับสื่อต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ จะถูกจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ โดยผู้จัดและนักเขียนบท และอาจจะรวมถึงเจ้าของบทประพันธ์ จะเป็นผู้จัดเก็บเงินกับสื่อที่นำไปออกอากาศ เฉลี่ยเรื่องละ 5 หมื่นบาท โดยไม่เกี่ยวกับช่อง 3

นโยบายนี้ทำมานาน เพราะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการโปรโมตละคร แต่ในปัจจุบัน สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป บทละครตอนต่อตอนที่เผยแพร่ไปนั้น ยังมีการนำไปต่อยอดในช่องทางออนไลน์อื่นๆ ในรูปแบบคลิปเสียง เล่าเรื่องราวแต่ละตอนอย่างละเอียด อำนวยความสะดวกผู้ชมทีวี ไม่ต้องมานั่งอ่าน แค่ฟังเสียง หรือดูคลิปเสียงก็ได้ ความอยากติดตามละครแต่ละเรื่องก็ลดน้อยลงไปด้วย

นอกจากนี้ ช่อง 3 ยังได้ขายลิขสิทธิ์ละครไปออกอากาศในต่างประเทศ หากมีการเผยแพร่เรื่องราวออกไปก็อาจไม่เป็นผลดีต่อการขาย

ในบรรดาช่องทีวีที่เผยแพร่บทละครนั้น มีทั้งช่อง 7 และช่อง 3 ในขณะที่ช่องวันนั้น ใช้กลยุทธ์ไม่เผยแพร่บทละครโดยละเอียด แต่ส่งแค่เรื่องย่อสั้นๆ ของละครที่กำลังออกอากาศโดยไม่บอกบทสรุปเรื่องในตอนจบ เพื่อให้คนลุ้นและติดตามที่หน้าจอแทน ซึ่งก็ได้ผลมาในหลายๆ เรื่องที่เป็นกระแส สร้างการรับรู้อยากติดตามละครอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตอนจบ ว่าจะลงเอยอย่างไร เช่น ละครเรื่อง เมีย 2018” ที่เป็นละครที่ได้รับความนิยมที่สุดของช่องวันในปีนี้ ช่องวันไม่บอกว่าจะจบแบบไหน ทำให้คนดูต้องติดตามสดเอาเอง เรตติ้งในตอนจบจึงพุ่งสูงถึง 6.421 ส่วนค่าเฉลี่ยเรตติ้งละครทั้งเรื่องอยู่ที่ 3.157

สำหรับสถานการณ์เรตติ้งละครช่วงหลัง 2 ทุ่ม เป็นช่วงเวลาไพรม์ไทม์ ที่ทั้ง 2 ช่องใหญ่ทั้งช่อง 7 และช่อง 3 ต่างได้รับผลกระทบจากการแข่งขันค่อนข้างมาก เรตติ้งลดลงอย่างมาก สำหรับในเดือนตุลาคมนี้ ละครช่อง 3 ที่มีเรตติ้งสูงสุดคือ ริมฝั่งน้ำ” ที่มีเรตติ้งตอนจบอยู่ที่ 4.354 ส่วนละครที่กำลังออกอากาศมีเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3

ส่วนช่อง 7 ระบำมาร ตอนจบ ในวันที่ 10 ตุลาคม เรตติ้งอยู่ที่ 6.754 ส่วนละครที่กำลังออกอากาศ สายโลหิต, นางทิพย์ และ พ่อมดเจ้าเสน่ห์ มีเรตติ้งอยู่ในระดับ 3-4 เท่านั้น.