ปังพอมั้ย “ไอคอนสยาม” เทงบพันล้านจัดงานเปิดตัว ใช้ 6 ออแกไนซ์ดัง ดึงชีวอน, คิม ดงจุน, F4 ร่วม

เรื่อง : Thanatkit

รอคอยมานานกว่า 5 ปี กับเม็ดเงินลงทุน ที่เรียกได้ว่า สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์และรีเทลเมืองไทยกว่า 54,000 ล้านบาท ในที่สุด ไอคอนสยามก็ได้เวลาเปิดตัว

“ไอคอนสยาม” พัฒนาโดยกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย 3 กลุ่ม คือ “สยามพิวรรธน์” เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้า สยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน และสยามดิสคัฟเวอรี่, “แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC)” เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและโครงการมิกซ์ยู และ “เครือเจริญโภคภัณฑ์”ตัวโครงการบนที่ดิน 55 ไร่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำยาว 400 เมตรและพื้นที่ภายในอาคารกว่า 750,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยศูนย์การค้าที่หรูหรา 2 อาคาร คือ ไอคอนสยาม กับ ไอคอนลักซ์

และคอนโดมิเนียมสุดหรูริมฝั่งแม่น้ำ 2 อาคาร ได้แก่ “แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนเซส แอท ไอคอนสยาม” ความสูง 317.95 เมตร ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง กับ “เดอะ เรสซิเดนเซส แมนดาริน โอเรียนเต็ล แบงค็อก แอท ไอคอนสยาม” ความสูง 272.20 เมตรไอคอนสยาม วางฤกษ์งามยามดี 9 พฤศจิกายน 2018 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และเป็นรอบสื่อมวลชน ส่วนประชาชนทั่วไปจะเปิดให้เข้าได้ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2018 เป็นต้นไป

งานเปิดตัวครั้งนี้ไม่ได้จัดเล่นๆ แต่เล่นใหญ่ เทเงินกว่า 1,000 ล้านสำหรับจัดงาน โดย 70% จะถูกใช้ในช่วงวันที่ 9-11 พฤศจิกายน ส่วนที่เหลืออีก 30% จะใช้สำหรับการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นและดึงดูดลูกค้า

เฉพาะการจัดงานช่วง 9-11 พฤศจิกายน แค่ 3 วัน ก็ใช้ออแกไนซ์มือฉมังของเมืองไทยถึง 6 บริษัท บวกกับอีกหนึ่งบริษัทที่ดูแลเรื่องโดรน ได้แก่ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน), ซีเอ็มโอ กรุ๊ป, บริษัท แม็กซ์ อิมเมจ จำกัด, บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด, บริษัท ตือ จำกัด, บริษัท เอ็มคิวดีซี ไบรท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมกับ อินเทล ที่รับผิดชอบทางด้านการใชโดรนเพื่อการแสดง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “มหาปรากฏการณ์งานเปิดเมืองไอคอนสยาม”

โดยไฮไลต์สำคัญอย่างหนึ่งคือการใช้โดรนที่มากกว่า 1,500 ตัว ในการใช้เปิดการแสดงสร้างสีสันริมแม่น้ำเจ้าพระยาครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในไทย และไทยถือเป็นประเทศที่ 18 ในโลกที่ใช้โดรนแบบนี้ ซึ่งถือว่ามากกว่าการเปิดโอลิมปิกที่อินเทลเคยทำมาในต่างประเทศที่ใช้เพียง 1,300 ตัวเท่านั้น

ใช้นักแสดงกว่า 1,000 คน ภายใต้ธีม ‘Legendary Party’ กิจกรรมการแสดงต่างๆ ครอบคลุมพื้นที่ทุกชั้นของไอคอนสยาม

นอกจากนี้ บริเวณ River Park ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บนเวทีขนาดใหญ่ออกแบบโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ มี “เรือสำเภาศรีมหาสมุทร” เรือสำเภาโบราณให้กลับมาล่องบนแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้ง ใช้เทคโนโลยี Intel ออกแบบภาพด้วยขบวนโดรนจำนวนกว่า 1,500 ลำ

เชิญนักร้องจากต่างประเทศมาร่วมงาน เช่น “ชเว ชีวอน, คิม ดงจุน, F4” ซึ่งเฉพาะ F4 จะมีสเปเชียลโชว์ในวันที่ 10 พฤศจิกายน เปิดให้เหล่าแฟนคลับเข้าชมฟรี ยังไม่นับรวมดาราระดับแม่เหล็กของไทยอีก เช่น พัชราภา ไชยเชื้อ, แอน ทองประสม และ เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข เป็นต้น

ชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ช่วงเปิดตัวจะมีพื้นที่เปิดให้บริการทั้งหมด 90% เหลือ 2 ชั้นบนสุดซึ่งเป็นที่ตั้งของ “ไอคอนสยาม เฮอร์ริเทจ มิวเซียม” พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และภูมิปัญญาไทย กับศูนย์ประชุมและโรงมหรสพอเนกประสงค์ ทรู ไอคอน ฮอลล์” (ร่วมทุนกับทรู คอร์ปอเรชั่น) ซึ่งจะเปิดเดือนกรกฎาคม ปี 2019

ส่วนร้านค้าเช่ากว่า 500 ร้าน จะมีประมาณ 80-90% จะเปิดได้ในวันที่ 9 พฤศจิกายน ส่วนที่เหลือจะทยอยเปิดไปถึงสิ้นปี โดยในจำนวนร้านค้าทั้งหมดมีร้านกว่า 20% ที่ไม่เคยเปิดตัวมาก่อน เช่น “ห้างสรรพสินค้าสยามทาคาชิมาย่า” สาขาแรกในประเทศไทย พื้นที่ 36,000 ตารางเมตร

“แอปเปิลสโตร์” สาขาแรกในประเทศไทย, “ไอคอน บาย ฟิตเนสเฟิรส์ท” พื้นที่ 4,000 ตารางเมตร และ เจดี สปอร์ตส์ ร้านเสื้อผ้าเปิดแฟลกชิพสโตร์’ พื้นที่กว่า 990 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3

ในช่วงแรกของการเปิดให้บริการ คาดว่าลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 150,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นชาวไทย 65-70%

บริเวณฝั่งธนบุรีมีฐานลูกค้ากว่า 2.4 ล้านราย และชาวต่างชาติ 30-35% ส่วนในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างเช่นปลายปี สัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะเพิ่มเป็น 40-45% หลักๆ จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย โดยเฉพาะชาวจีน ที่เหลือจะมาจากยุโรปและอเมริกา

ไอคอนสยาม เตรียมเรือไว้รับส่งยังท่าสำคัญๆ เช่น ท่าเรือสาทร มีเรือรับส่งทุก 5 นาที โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้ช่องทางนี้ทั้งหมด 50,000 – 60,000 คนต่อวัน และในจำนวนเท่ากันจะมาจากรถไฟฟ้าสายสีทอง ที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการปีหน้า ส่วนรถยนต์คาดว่าจะมีประมาณ 20,000 – 30,000 คนต่อวัน

นักท่องเที่ยวไม่ได้ลดลง

ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวลดลงในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มนี้ถือเป็นเป้าหมายหลักของไอคอนสยามด้วย ชฎาทิพบอกว่าจากข้อมูลนักท่องเที่ยวในสยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน และสยามดิสคัฟเวอรี่ ไม่ได้จำนวนที่ลดลง สิ่งที่สวนทางคือยอดใช้จ่ายต่อคนของนักท่องเที่ยวสูงขึ้นกว่า 13% อีกทั้งยังมีสัดส่วน 35-38% จากจำนวนผู้ที่เข้าศูนย์ทั้งหมด

“นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงชอบมาริมแม่น้ำ เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะบริเวณศูนย์การค้ามีทั้งแหล่งท่องเที่ยว และโรงแรม 5 ดาวจำนวนมาก”

ชฎาทิพ ทิ้งท้ายว่า ฝั่งธนบุรีมีการเจริญเติบโตอย่างมั่นคงแข็งแรงตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ต่อจากนี้ก็เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งทำเลที่ต้องจับตา เผลอๆ จะมีตัวเลขเติบโตมากกว่าฝั่งกรุงเทพฯ ด้วยซ้ำ เนื่องจากรัฐบาลกำลังลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในฝั่งธนบุรี ทั้งเรื่องการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายต่างๆ การทำถนน เป็นต้น รวมไปถึงการเติบโตของผู้อยู่อาศัย ที่จะมาจากโครงการอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม