ต้องถูก และเด็กลง

เจอพิษเศรษฐกิจกระทบหนัก นักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้าหลักหายไปจากตลาด จนส่งผลให้ยอดขายปีที่แล้ว (2551) ของชุดชั้นในไทรอัมพ์ลดลงเกือบ 50% มาปีนี้ไทรอัมพ์จึงต้องหามาตรการกอบกู้ยอดขายเป็นการด่วน ด้วยการออกสินค้าใหม่เพื่อมากระตุ้นตลาด เริ่มจากชุดชั้นในราคาถูก 249 บาท เพื่อขยายสู่ลูกค้าระดับ Mass และดึงลูกค้าให้เข้าช็อปไทรอัมพ์ และสร้างโอกาสในการขายเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ไทรอัมพ์ยังได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Maximizer (บราเสริมเนินอก) มีชื่อรุ่นว่า “ZERO TO SEXY” เพื่อขยายลูกค้าเด็กลง อายุ18 -25 ปี จากเดิมที่กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ของไทรอัมพ์จะอยู่ที่ 25- 35 ปี โดยจุดขายของบรารุ่นนี้ คือ การแก้ปัญหาหน้าอกห่างของสาวไทยและเอเชีย ซึ่งใส่แล้วจะทำให้ให้ดูหน้าอกชิด อวบอิ่มเป็นธรรมชาติ สร้างความมั่นใจในการสวมใส่ชุดชั้นในมากยิ่งขึ้น

“โปรโมชั่นนี้ไม่ใช่การลดราคา แต่เป็นการออกสินค้าใหม่ เพื่อสร้างความแตกต่างจากสินค้าเดิม โดยเฉพาะการตอบสนองลูกค้าที่เน้น Functional และยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายให้มากขึ้น เพราะลูกค้าไม่ได้ซื้อสินค้าเพียงชิ้นเดียว” จักร เฉลิมชัย” ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและขาย บริษัทไทรอัมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด บอก

ทิศทางของการทำตลาดไทรอัมพ์ต่อจากนี้ จะมุ่งเน้นการสร้างความแตกต่างโดยใช้นวัตกรรม เพื่อขยาย กลุ่มเป้าหมาย (Segmentation) ใหม่ โดยจะออกชุดชั้นในคอลเลกชั่นใหม่ๆ ทุกไตรมาส คู่แข่งเน้นการเพิ่มคัพมากกว่าเน้นเรื่องแฟชั่นและนวัตกรรม

การรุกตลาดในครั้งนี้ไทรอัมพ์จะใช้งบการตลาดกว่า 100 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง โดยงบส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในการประกวดมิสไทรอัมพ์ มีอายุระหว่าง 18-25 ปี ซึ่งเคยจัดมาแล้วเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่นำมากลับมาใหม่ เพื่อโปรโมตแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นทิศทางที่สำคัญของไทรอัมพ์ต่อไป

ปีที่แล้ว นอกจากไทรอัมพ์ต้องสูญเสียยอดขายเป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติหดตัว ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของไทรอัมพ์ มีสัดส่วน 25% ของยอดขายทั้งหมด มียอดขายลดลงถึง 50% รวมทั้งจากเดิมทุกปีที่เติบโตเฉลี่ยเป็นตัวเลขสองหลัก (Double Digits)

เพื่อลดต้นทุน แก้ปัญหายอดขาย ไทรอัมพ์ได้ทยอยปิดช็อปลงถึง 100 แห่ง จากที่มีทั้งหมด 350 แห่ง คงเหลือไว้เฉพาะในทำเลที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากอย่างเชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา หาดใหญ่ และสยามพารากอน อย่างไรก็ตาม ในญี่ปุ่นไทรอัมพ์ได้มีการเปิด Mega Store ช็อปหรูหราขนาดใหญ่ในเอเซีย โดยใช้คอนเซ็ปต์ ‘women’s heaven’

“หากสำเร็จก็จะเริ่มในไทยได้ประมาณไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของปีหน้า โดยจะเปิดเพียง 3-5 ที่ในจุดยุทธศาสตร์หลักๆ เท่านั้น เราคาดหวังว่าจะเป็นสัญญาณที่ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต”

ไทรอัมพ์หวังว่า การออกสินค้าใหม่และกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก ที่เน้นการสร้างแบรนด์ จะช่วยกู้สถานการณ์ให้กลับมาเป็นบวกได้ โดยคาดว่าภายในปีนี้จะเติบโต 5% พ้นจากการเติบโตเป็น 0%

ปัจจุบันไทรอัมพ์มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในตลาดชุดชั้นในระดับกลางถึงบน แต่ถ้าเป็นตลาดรวม หรือ Market Size อันดับ 1 ยังคงเป็นวาโก้

Product ZERO to SEXY
Positioning ชุดชั้นในพรีเมียมแบรนด์ที่เน้นความเป็นแฟชั่น มีดีไซน์เฉพาะตัว ใช้นวัตกรรมที่ทันสมัย
Target ผู้หญิงอายุระหว่าง 18-25 ปี (วัยรุ่น-First Jobber) ที่รักและหลงใหลในความเซ็กซี่ ต้องการให้หน้าอกชิด ดูอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อสร้างความมั่นใจในการสวมใส่ชุดชั้นในมากยิ่งขึ้น
Market Analysis ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ การออกสินค้าราคาต่ำ และการเพิ่มลูกค้าเป้าหมาย จะช่วยขยายตลาดได้ เนื่องจากลูกค้ามีกำลังซื้อลดลง และต้องการสินค้าที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

Did you know?
คนไทยนิยมใส่ชุดชั้นในคัพบีมากที่สุดประมาณ 50% จากเดิมที่เป็นคัพเอ จากพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะเนื้อ นม ไข่มากขึ้น

ตลาดชุดชั้นในมูลค่า 12,000 ล้านบาท (by segment)
ตลาดกลางและบน 50%
ตลาดล่าง 50%

ส่วนแบ่งการตลาดชุดชั้นใน (by brand)
วาโก้ 50%
ไทรอัมพ์ 15%
ซาบีน่า 15%
นำเข้าจากจีนและอื่นๆ 20%

ที่มา : ไทรอัมพ์