บีคอน วีซี จับมือบริษัทลงทุนต่างชาติร่วมลงทุนมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาทในอินสตาเรม บริษัทฟินเทคชื่อดัง ผู้ให้บริการโอนเงินข้ามประเทศแก่ลูกค้ารายย่อยและองค์กรในมากกว่า 40 ประเทศ ความร่วมมือนี้จะช่วยกสิกรไทยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการโอนเงินข้ามประเทศแก่ลูกค้ารายย่อย และส่งเสริมการเติบโตทั้งในด้านจำนวนและมูลค่าธุรกรรมการเงิน
นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC) เปิดเผยว่า บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล ซึ่งเป็นบริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย และ MDI Ventures ซึ่งเป็นบริษัทเงินร่วมลงทุนของเทลคอม อินโดนีเซีย (Telkom Indonesia) ได้ร่วมลงทุนในบริษัท อินสตาเรม (InstaReM) ผู้ให้บริการโอนเงินข้ามประเทศซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ อินสตาเรมเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน (Fintech) ที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดบริษัทหนึ่งในอาเซียน และได้รับการสนับสนุนการลงทุนจากนักลงทุนชั้นนำ เช่น Vertex Ventures, Fullerton Financial Holdings, Global Founders Capital, GSR Ventures และ SBI-FMO ในการระดมทุนสองรอบก่อนหน้านี้ ทางบีคอน วีซี ได้ติดตามอินสตาเรมมาระยะหนึ่งแล้ว และมีความยินดีที่ได้เข้าร่วมลงทุนและสนับสนุนการเติบโตบริษัทต่อไป สำหรับการระดมทุนในรอบซีรีส์ ซี (Series C) นี้ คาดว่าจะสามารถปิดการระดมทุนได้ในช่วงเดือนมกราคม 2562 ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนเตรียมจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2564
ปัจจุบันมีธุรกรรมการโอนเงินรายย่อยเข้าและออกจากประเทศไทยโดยรวมประมาณ 11.8 ล้านรายการต่อปี คิดเป็นมูลค่าราว 2.15 ล้านล้านบาท เป็นการโอนผ่านธนาคารกสิกรไทยประมาณ 1 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่าการโอนราว 4 แสนล้านบาทต่อปี
นายประจิต นานุ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อินสตาเรม กล่าวว่า คำสัญญาที่บริษัทได้ให้ไว้กับลูกค้านับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มกิจการว่าจะทำงานด้วยความโปร่งใสเสมอและมอบคุณค่าที่ดีที่สุดเพื่อให้ลูกค้าทำอะไรได้มากกว่ากับเงินของลูกค้า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน มีความจำเป็นต้องทำธุรกิจหรือธุรกรรมส่วนตัว บริษัทเราตั้งเป้าเป็นผู้ให้บริการที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดจากลูกค้าทุกราย นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เราเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโอนเงินรายแรกๆ ที่ขยายกิจการไปนอกภูมิภาคเอเชีย รวมถึงทำการระดมทุนรอบใหญ่นี้ได้สำเร็จ โดยใน 4 ปีที่ผ่านมาเราได้พัฒนาตัวเองเป็นโครงสร้างพื้นฐานเรื่องการโอนเงินในตลาดใหม่สำหรับธนาคารและสถาบันการเงิน ตลอดจนมีลูกค้าในเกือบทุกทวีปทั่วโลก แม้เราจะเป็นบริษัทอายุน้อยที่ดำเนินธุรกิจมาไม่นานแต่เรามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้บริษัทสามารถเติบโตได้ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เป็นที่ต้องการให้แก่ลูกค้าต่อไป
ปัจจุบันอินสตาเรมให้บริการโอนเงินครอบคลุมมากกว่า 40 ประเทศ สำหรับการระดมทุนเพิ่มในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเร่งการเติบโตของอินสตาเรมในการให้บริการกลุ่มลูกค้าเดิม รวมทั้งการขยายบริการไปยังประเทศญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะได้รับใบอนุญาตภายในสิ้นปีนี้ อีกทั้งยังจะช่วยให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดเล็กไปจนถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยได้กว้างมากขึ้น
ในไตรมาสล่าสุดอินสตาเรมได้เซ็นสัญญากับลูกค้าสถาบันการเงินใหม่มากกว่า 20 ราย ซึ่งคาดว่าลูกค้าใหม่จะเริ่มใช้บริการภายในไตรมาสแรกของปีหน้า คิดเป็นมูลค่าที่จะเพิ่มขึ้นราว 6,000-8,000 ล้านบาทต่อเดือน
เกี่ยวกับบีคอน วีซี (Beacon VC)
บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (Beacon VC) ก่อตั้งในปี 2559 ด้วยขนาดกองทุนเริ่มต้นที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นบริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำของประเทศไทยที่มีฐานลูกค้าในกลุ่มผู้ใช้บริการทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile banking) และกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บีคอน วีซีเน้นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในบริษัทเทคโนโลยีสตาร์ทอัพระยะเริ่มต้นและเติบโตที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการเงิน (Fintech) ชีวิตประจำวัน (Consumer lifestyle) และเทคโนโลยีเชิงลึก เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบสารสนเทศองค์กร (Enterprise IT) ในปี 2561 บีคอน วีซีได้ขยายขนาดของกองทุนเป็น 135 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปัจจุบันได้ลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพไปแล้ว ได้แก่ FlowAccount, Event Pop, Ookbee, Grab และ InstaReM
อินสตาเรม (InstaReM)
อินสตาเรม เป็นบริษัทผู้ให้บริการโอนเงินข้ามประเทศมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์และประกอบธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค อเมริกาเหนือ และยุโรป เป็นผู้ให้บริการด้านการโอนเงินข้ามประเทศเพียงหนึ่งเดียวจากภูมิภาคเอเชียที่ให้บริการครอบคลุมมากกว่า 40 ประเทศ อินสตาเรมได้พัฒนาเครือข่ายการโอนเงินในภูมิภาคเอเชียซึ่งถูกใช้โดยสถาบันการเงิน กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนบุคคลรายย่อย ในการทำธุรกรรมโอนเงินข้ามประเทศที่ประหยัดค่าใช้จ่ายไปยังมากกว่า 55 ประเทศทั่วโลก นับตั้งแต่เริ่มกิจการทางธุรกิจในปี 2558 อินสตาเรมได้ทำการระดมทุนจำนวน 2 รอบรวมทั้งสิ้นกว่า 600 ล้านบาทจากนักลงทุนเช่น Global Founders Capital, Vertex Ventures (บริษัทเงินร่วมลงทุนของ Temasek Holdings), Fullerton Financial Holdings, GSR Ventures และ SBI-FMO Emerging Asia Financial Sector Fund ในช่วงต้นปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทอินสตาเรมได้เริ่มความร่วมมือกับ Ripple เครือข่ายบลอคเชน (Blockchain) สำหรับองค์กรชั้นนำในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก