ปี 2560 ที่ผ่านมาช่องยูทูปของ Ryan ToyReview เพิ่งจะอยู่อันดับ 9 โดยเจ้าหนูไรอัน ทำรายได้จากช่องยูทูปชาแนลของตัวเองได้มากกว่า 11 ล้านเหรียญสหรัฐ มีผู้ติดตามประมาณ 16 ล้านราย มาปีนี้มาแรงขึ้นกว่าเดิม ถึงขั้นคว้าอันดับหนึ่งยูทูปเบอร์ที่ทำรายได้สูงสุดของโลก ทำรายได้รวมเพิ่มจากเดิมเท่าตัวเป็น 22 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นไม่มากเป็น 17.3 ล้านราย (ณ 6 ธันวาคม 2561)
โปรดักชั่นเฮาส์ของไบรอันมีแค่รีแอคใสๆ ของตัวเขาเองกับการรีวิวของเล่นสารพัดแบบ กับคุณแม่ซึ่งเป็นอดีตคุณครูที่สุดท้ายลาออกมาเป็นโปรดักชั่นเฮาส์ให้ลูกชายพร้อมกับควบตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวที่คอยดีลกับสินค้าต่างๆ ที่อยากให้น้องช่วยรีวิว เพราะเฉลี่ยง่ายๆ จากปีที่แล้ว ไรอันมีรายได้เดือนละล้านเหรียญ ปีนี้ก็เพิ่มเป็นเดือนละเกือบๆ สองล้านเหรียญต่อเดือน
ตัวเลขรายได้นี้เปลี่ยนสถานะครอบครัวธรรมดาให้กลายเป็นผู้ประกอบการอายุน้อยร้อยล้าน เป็นเรื่องที่ไม่ควรปล่อยโอกาสให้หลุดลอย สมควรแล้วที่คุณแม่จะต้องออกมาช่วยบริหารจัดการ
ในอดีต ยูทูปเบอร์แต่ละรายที่จะทำรายได้ติดท็อปเท็นของแต่ละประเทศ หรือของโลก ต่างก็ต้องมีความเชี่ยวชาญหรือทักษะเฉพาะด้าน เพื่อหาจุดขายให้กับช่องของตัวเอง ไม่ต่างจากสถานีโทรทัศน์หรือผู้ผลิตรายได้ทีวีในอดีต แต่ดูเหมือนวันนี้อะไรก็เปลี่ยนไปได้ทั้งสิ้น
ทำให้เห็นเลยว่า โลกดิจิทัลนี่ ช่างเป็นยุคของคนที่เห็นโอกาส รู้จักใช้จังหวะ กล้า และอาจจะรวมถึงมีพรสวรรค์ หรือต้นทุนในตัวยูทูปเบอร์ที่มีอยู่โดยธรรมชาติระดับหนึ่งด้วยก็ได้ เพราะถ้าทำแล้วไม่โดนก็ไม่มีอะไรต้องเสีย แถมได้ความสนุกที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ของตัวเอง แต่ถ้าโดนก็อาจจะเป็นแบบตัวอย่างที่เห็นนี้
เพราะอย่าลืมว่า ทุกวันนี้แม้แต่นักการตลาด ก็พร้อมจะฉกฉวยโอกาสเหล่านี้จากเหล่ายูทูปเบอร์ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อใช้เป็นตัวเชื่อมในการเข้าถึงผู้บริโภคในวงการ และยินดีที่จะจ่ายสำหรับงบการตลาดที่เทียบแล้วถูกกว่าในอดีตอย่างมากอีกด้วย
การเปลี่ยนแปลงความนิยมของคอนเทนต์ที่เกิดจากยูทูปเบอร์ที่หลากหลายเอง ก็มีการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยกว่าฝั่งทีวี ที่มีรายการที่เคยได้รับความนิยมแล้วลดความนิยมลง มีรายการเกิดใหม่เข้ามามากมาย ไม่ต่างจากรูปแบบคอนเทนต์ที่เกิดขึ้นในทีวี
ในกลุ่มของเล่นเด็กเอง จากช่องยูทูปดังๆ ที่รีวิวของเล่น ก็เคยมียูทูปเบอร์รายใหญ่เป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่มาก่อน ส่วนใหญ่เกือบร้อยทั้งร้อยไม่ใช่เด็ก ทำให้การนำเสนอผ่านกระบวนการคิดกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้ถูกใจเด็ก
ถอดรหัสความสำเร็จยูทูปเบอร์วัยใส
แต่มายุคนี้ ความสดและรีแอคแบบเรียลๆ เป็นธรรมชาติ กลับได้ใจเด็กๆ ในวัยเดียวกันมากกว่า ทำให้เจ้าหนูไรอันที่เริ่มจากสงสัย แล้วถามคุณแม่ว่า ทำไมเขาไม่ได้เข้าไปอยู่ในยูทูปเหมือนใครๆ กลายมาเป็นท็อปยูทูปเบอร์ที่สร้างรายได้ด้วยตัวเอง
อะไรที่ทำให้ไรอันประสบความสำเร็จจากการเป็นยูทูปเบอร์ที่ทำรายได้สูงสุด ทั้งที่ไม่ต้องพยายามคิดหากลยุทธ์ หรือกลวิธีใดๆ ในการนำเสนอการรีวิวของเล่นสารพัดชนิดให้กับกลุ่มคนดูของเขา เหมือนรายการทีวี หรือรายการทางยูทูป ที่มักจะต้องคิดหากลยุทธ์กันจนหัวแตกว่า จะทำอย่างไรที่จะดึงดูดผู้ชมให้ได้มากที่สุด
จุดขายแรกสุดก็คือความเป็นธรรมชาติ จากรีแอคที่เขารู้สึกกับของเล่นแต่ละชิ้นที่เห็นจริงๆ นั่นเอง สองการเป็นคนกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ดีให้นักการตลาดผู้ผลิตของเล่นสามารถเก็บข้อมูลไปทำการบ้านต่อได้อีกด้วยว่า อะไรที่เด็กๆ ชอบไม่ชอบ พวกเขามีบทสนทนากับสินค้าแต่ละชิ้นอย่างไร มีคำถามอะไร ตื่นเต้นกับตรงไหน เป็นงานวิจัยที่เกิดขึ้นจริงโดยธรรมชาติ ซึ่งส่วนนี้แม้ไม่เกี่ยวกับควานิยมแต่ก็มีผลต่อการเติบโตของตลาดของเล่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การเล่นด้วยจินตนาการของเด็กที่แสดงให้เห็น นอกจากทำให้เด็กด้วยกันสนุกไปด้วย เกิดความอยากได้ของเล่นแบบเดียวกัน ก็ยังทำให้กลุ่มพ่อแม่เกิดการเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเลี้ยงดูเด็กไปในตัว เรียกว่าเป็นบทเรียนชีวิตจริงให้กับผู้บริโภคในชีวิตประจำวันที่ผู้บริโภคกลุ่มแม่และเด็กต้องเจอ แต่เป็นบทเรียนที่ไม่ต้องยัดเยียดด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ที่สำคัญจากรีวิวง่ายๆ เมื่อได้คุณแม่มาเป็นโปรดักชั่นเต็มตัว ไรอัน ทอยรีวิว ก็แทบจะกลายเป็นรายการสำหรับเด็กที่มีการเติมเต็มเรื่องราวจินตนาการผ่านการเล่นของเด็กๆ ไปเลย แม้จะไม่ใช่โปรดักชั่นหวือหวา แต่เรียกความสนใจจากกลุ่มเด็กๆ ได้ดีจนมีผู้ชมและทำรายได้เท่าที่ผ่านมาให้เห็นเครื่องพิสูจน์นี่แหละ
ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้พัฒนาการในแง่บวกก็คือ ช่องของไรอัน ทอยรีวิว ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความเป็นธรรมชาติของตัวไรอันเองเท่านั้น แต่มีการพัฒนาคอนเทนต์ที่เติมเต็มด้านการเล่นและเรียนรู้ไปพร้อมกันด้วย นี่คือคีย์ซัคเซสอีกข้อสำหรับทุกธุรกิจ ทุกคอนเทนต์ที่จะต้องคำนึงถึงเรื่องพัฒนาการที่ดีขึ้นอยู่เสมอเช่นกัน
คนดัง & ลูกดารา กลุ่มเนเชอรัลบอร์นยูทูปเบอร์
หันมาดูกลุ่มยูทูปเบอร์หน้าใสของไทย เกือบร้อยทั้งร้อยคือ ลูกคนดัง ดารา ที่พ่อแม่เป็นคนที่มีชื่อเสียง เมื่อมีลูกทำให้ผู้ติดตามสนใจชีวิตใหม่ที่เกิดมาด้วย บางรายจากที่ลงรูป ลงคลิปวิดีโอ แค่ในเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม พอมีเรื่องเล่ามากๆ เห็นความน่ารักของลูกๆ ก็อยากจะเผยแพร่สู่ยูทูป ทำให้จากเดิมที่มีกลุ่มยูทูปเบอร์ที่เก็บรวบรวมภาพ คลิปของกลุ่มคนดังเหล่านี้ไปตัดต่อเพื่อออกในช่องยูทูปของตัวเอง เจ้าของคอนเทนต์หรือคุณพ่อคุณแม่ของเหล่าเซเลบตัวน้อยก็เลยเลือกเปิดยูทูปชาแนลของลูกๆ แบบเป็นออฟฟิเชียลแอคเคาน์ของตัวเองขึ้นมาเสียเลยดีกว่า
ยิ่งมีผู้ติดตามมาก เนื้อหาเรื่องราวก็ไม่ต้องคิดหรือทำโปรดักชั่นอะไร ถ่ายมาอย่างไงก็ลงไปอย่างนั้น เพราะคนชอบดูเรื่องส่วนตัวของคนดัง แค่ตัดต่อให้มันได้จังหวะไม่ยาวไม่เยิ่นเย้อเกินไป มีจังหวะซิตคอมด้วยจะทำให้โดนมากขึ้น
พัฒนาการของยูทูปเบอร์เหล่านี้ จริงๆ จะเรียกว่าเป็นยูทูปเบอร์ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะคุณพ่อคุณแม่ทั้งนั้นเป็นผู้ดำเนินผลิต ถ้าจะมีการอัพเกรดบ้างก็มีการใส่เอฟเฟกต์เล็กๆ น้อยๆ ส่วนมากก็คือการใช้แอปพลิเคชั่นที่มีในมือถือนั่นแหละ
เท่านั้นเหล่าเซเลบน้อยของไทย ก็ทำรายได้เลี้ยงคุณพ่อคุณแม่กันได้แล้วมากมาย แถมต่อยอดให้คุณพ่อคุณแม่รวมทั้งเจ้าเล็กเองมีงานอีเวนต์กับสินค้าแบรนด์ต่างๆ ตามมามากมายอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่ต้องระวังอย่างมากก็คือ คนไทยรักเร็ว เบื่อเร็ว ดราม่าเยอะ การนำเสนอและทำให้คนนิยมผ่านชีวิตจริงจึงมีทั้งด้านดีด้านลบที่ต้องคอยระวังโดยเฉพาะกับเด็กๆ ที่จะต้องเติบโต และมีพัฒนาการความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามวัย
อย่างไรก็ตาม ในระยะหลัง ก็เริ่มมีการนำเซเลบตัวน้อยเหล่านี้ มาสู่รูปแบบการผลิตรายการเพื่อลงในช่องยูทูปให้เห็นบ้างแล้ว ไม่ใช่เป็นคลิปปล่อยตามวัยใสๆ และหลายรายก็ทำได้ดี น่ารักสมวัย
จุดขายที่น่าสนใจและได้รับการตอบรับ ก็ไม่ต่าง ไรอัน ทอยรีวิว ที่ขายความใสและความคิดจากตัวเด็กเอง ตัวอย่างเข่น รายการ Little Nirin รายการ Variety Talk Show ที่มีพิธีกรอายุน้อยที่สุดเพียง 5 ขวบ หรือน้อง ณิริณ ธรรมวัฒนะ ลูกสาวของ ปณิตา ธรรมวัฒนะ ดาราที่ปลุกปั้นลูกมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เรื่องการแสดง สอนแต่งหน้า แต่รายการนี้ทำกับ Live TV แต่ก็สามารถหาดูได้ในยูทูป
จุดขายนอกจากความสามารถของพิธีกร คือการหาแขกรับเชิญกลุ่มเด็กที่เป็นคนดังด้วยกัน รวมทั้งดาราดังวัยอื่นๆ ด้วย
อีกรายการที่ต่างออกไปมากกว่าขายความสดใสน่ารักของลูกดารา ก็คือ รายการของอั๋น ภูวนาท ซึ่งยกเอาคอนเซ็ปต์จากรายการคุยยกบ้าน ที่ออกอากาศผ่านทีวี มาทำรายการในช่องยูทูปโดยปรับเป็นรายการ คุยสตอรี่ – อั๋นจ๋า เดอะเรียลลิตี้ ใช้วิธีบอกเล่าเรื่องราวของลูกน้อยกับแขกที่มาเยี่ยมเยือนถึงบ้าน ก็กลายเป็นรายการที่ทำให้คนสนใจชีวิตดาราดังเฝ้าติดตามได้มากสมควรเช่นกัน
ทุกวันนี้ จึงเรียกได้ว่า คอนเทนต์ที่เคยคิดกันเพื่อทำผ่านรายการทีวี ใครคิดอะไรได้ก็มาใส่ลงในช่องยูทูป ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีรายการของตัวเองได้ทันทีที่ต้องการ และแน่นอนเช่นกันว่า ความนิยมคือสิ่งที่ไม่มีวันอยู่คงที่ ถ้าไม่เพิ่มขึ้นก็ต้องมีวันลดลง นั่นคือเหตุผลที่ยูทูปเบอร์หน้าเดิมต้องหามุกใหม่ๆ หรือสร้างพัฒนาการอยู่เสมอ ขณะเดียวกันก็พร้อมมียูทูปเบอร์หน้าใหม่เกิดขึ้นและเข้ามาแทนที่ได้ตลอดเวลาเช่นกัน.