เฮียฮ้อ ติดใจ สินค้าขายคล่อง รายได้อู้ฟู่ เตรียมควักกระเป๋าขยายพอร์ต ซื้อกิจการ-ร่วมทุน

ทำธุรกิจยุคนี้ ต้องยืดหยุ่น ปรับตัวตลอด ปรับให้เร็วถึงไปรอดได้ ถือเป็นคัมภีร์ ของ เฮียฮ้อสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หลังจากต้องผันตัวจากเจ้าของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่มาเป็นเจ้าของสื่อทีวีดิจิทัล แต่เมื่อธุรกิจไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด ต้องแย่งชิงเม็ดเงินโฆษณาลดแลกแจกแถมชนิดใครดีใครอยู่ หากยังสู้ต่อก็มีแต่ต้องเฉือนเนื้อแบบไม่มีที่สิ้นสุด

4 ปีที่แล้ว เฮียฮ้อ ตัดสินใจเบนเข็มมาปั้นธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง โดย ใช้ทีวีดิจิทัล” เป็นช่องทางโปรโมตสินค้า เปลี่ยนคนดู ให้เป็นลูกค้าไม่ต้องพึ่งพารายได้โฆษณาจากลูกค้าข้างนอกเพียงอย่างเดียว เอาเวลาที่เหลือไปทุ่มโปรโมตธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง เริ่มจากสินค้าความงามและสุขภาพ จากสินค้าไม่กี่อย่าง ก็แตกขยายออกไป จนเวลานี้มีกว่า 100 รายการ ทั้งสินค้าความงามและสุขภาพแบรนด์ Magique กลุ่มอาหารเสริมแบรนด์ SOM เครื่องใช้ภายในบ้านและไลฟ์สไตล์ เครื่องประดับ จนต้องเปลี่ยนชื่อมาเป็น ธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลายช่องทาง (Multi-platform Commerce หรือ MPC)

โดยใช้ประโยชน์จากสื่อในมือ ทั้งทีวี ช่อง 8, ช่อง 2, ช่องสบายดีทีวี เลข 141, ช่องเพลินทีวี และวิทยุคูลฟาเรนไฮต์ และสื่อออนไลน์ เทเลเซลส์ ร้านค้าปลีกทุกสาขา ขาย เทเลเซลส์ เพิ่มระบบตัวแทนขายตรง ไลฟ์สตาร์ บิส ซึ่งจะเพิ่มเป็น 1 พันคนในปีหน้า

เฮียฮ้อ บอกว่า จากฐานคนดู 60-70% จะมีการซื้อสินค้าภายใน 1 ปี เฉลี่ยต่อคนจะซื้อ 2,000 บาท/แพ็ก

ทำให้ธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลายช่องทาง (Multi-platform Commerce หรือ MPC) กลายเป็นธุรกิจหลักของอาร์เอสไปแล้ว ทำสัดส่วนรายได้เกิน 50% ที่สำคัญทำกำไรสูงกว่าธุรกิจอื่น เฉพาะกำไรขั้นต้น 70% แต่หลังจากหักค่าใช้จ่าย ทำกำไร 30% สูงกว่าธุรกิจสื่อและเพลง ที่ทำกำไร 10-15% ห่างกันเท่าตัว 

ดังนั้นเป้าหมายในปีหน้า 2562 ที่คาดว่าจะทำรายได้แตะ 5,000 ล้านบาท โดยธุรกิจค้าปลีกหลากหลายช่องทาง MPC จะเป็นพระเอกทำรายได้สัดส่วนถึง 60% กลุ่มสื่อ 30%  เพลงและอีเวนต์ 10% 

เฮียฮ้อ บอกว่า จากนี้ไปจะต้องแตกขยาย สร้างการเติบโต จากการธุรกิจใหม่ๆ เพื่อมาต่อยอดขยายพอร์ตธุรกิจ MPC โดยจะมีทั้งการร่วมทุน และซื้อกิจการ กับเจ้าของธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพราะมองเห็นโอกาสแตกขยายไปได้อีกมาก 

โดยจะนำ บิสิเนสโมเดล ธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทาง หรือ MPC มาซินเนอร์จี้กับธุรกิจสื่อ (Media) และธุรกิจเพลง (Music) เจาะกลุ่มคนดูและแฟนเพลงเปลี่ยนเป็นฐานลูกค้า (Database) ซึ่งเป็นการทำธุรกิจแบบไร้กรอบที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว

เกือบ 4 ปีที่ทำธุรกิจ MPC ผู้บริโภคให้การตอบรับเกินคาด กลยุทธ์ในปีหน้าจะจัดบิ๊กแคมเปญส่งเสริมการขายกระตุ้นยอดซื้อตลอดทั้งปีแล้ว และเปิดตัวสินค้าใหม่กว่า 100 รายการ ทั้งจากการจับมือกับแล็บระดับโลกผลิตสินค้า รวมถึงการจับมือกับคู่ค้า เพื่อสร้างบรรยากาศการจับจ่ายสินค้าหลากหลายยิ่งขึ้น

ส่วนธุรกิจสื่อ ที่มีทีวีดิจิทัล ช่อง 8 เป็นหลัก ไม่ต้องกดดัน ลด แจก แจก แถมเหมือนช่องอื่นๆ แต่ต้องรักษาฐานคนดูและเรตติ้งเอาไว้ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจขายสินค้า หรือ MPC

โดยปีหน้า ช่อง  8 จะใช้เงินลงทุนทำคอนเทนต์ปีละ 1,400 ล้านบาท เพิ่ม “ละครใหม่แกะกล่อง” ช่วงเย็นทุกวันเสาร์อาทิตย์ เพิ่มคอนเทนต์ข่าว คาดว่าจะทำรายได้ 1,500 ล้านบาท

ธุรกิจที่เหลือวิทยุ เพลง และอีเวนต์เติบโตไม่มาก แต่ยังทำกำไรแข็งแรง ซึ่งธุรกิจเหล่านี้จะเป็นช่องทางในการสร้างคนดูและคนฟัง ไปสู่การเป็นฐานลูกค้า.