หลุยส์ วิตตอง เทแสนล้านบาทซื้ออาณาจักรโรงแรมหรู Belmond

LVMH หรือบริษัท Louis Vuitton Moet Hennessy ต้นสังกัดแบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton และ Christian Dior ประกาศเทเงิน 3,200 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 105,046 ล้านบาท ซื้อหุ้นในบริษัท Belmond ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมที่ตั้งในสถานที่สำคัญของหลายเมืองทั่วโลก ถือเป็นการลงทุนเพื่อเสริมพอร์ตธุรกิจโรงแรมหรูที่ LVMH มีอยู่แล้ว ให้สามารถเติบโตงอกเงยขึ้นมาได้อีกอย่างก้าวกระโดด

มนต์ขลังของ Belmond คืออาณาจักรโรงแรมหรูที่มีชื่อเสียงมากในยุโรป ตัวอย่างเช่นโรงแรม Belmond Hotel Cipriani ซึ่งถือเป็น landmark สำคัญในเมืองเวนิส นอกจาก Cipriani บริษัทใหญ่อย่าง Belmond ยังเป็นเจ้าของหรือเป็นหุ้นส่วนที่รับหน้าที่บริหารโรงแรมหรู, ร้านอาหาร และบริการเรือสำราญและรถไฟเพื่อการท่องเที่ยวกว่า 46 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยวที่โดดเด่นทั่วโลก

สำหรับผู้ผลิตสินค้าหรูอย่าง LVMH นอกจากแบรนด์ Louis Vuitton หรือแบรนด์แฟชั่นความงาม Christian Dior ตัว LVMH ก็มีโรงแรมอยู่แล้วในมือเช่น Cheval Blanc ในสกีรีสอร์ตอันโด่งดัง Courchevel ซึ่งตั้งอยู่ที่เทือกเขาแอลป์ของฝรั่งเศส หรือ French Alps ยังมีเชนโรงแรม Bvgalri ที่ปักหลักในเมืองใหญ่ทั้งมิลาน ลอนดอน ดูไบ ปักกิ่ง บาหลี เซี่ยงไฮ้ และกำลังจะขยายไปปารีส มอสโก และโตเกียวในช่วงปี 2020-2022

เปิดตลาดการท่องเที่ยว high-end

ดีลกับ Belmond ถูกวิเคราะห์ว่าจะทำให้ LVMH สามารถเปิดตลาด high-end travel ที่เน้นการสร้างสุดยอดประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยว ตลาดดังกล่าวถือเป็น sector ที่เติบโตร้อนแรงมากอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

Belmond Sanctuary Lodge

ภายใต้ดีล Belmond สิ่งที่ LVMH จะได้รับคืออสังหาริมทรัพย์ที่ Belmond สามารถสร้างความโดดเด่นในหลายแหล่งท่องเที่ยว เช่น Belmond Sanctuary Lodge โรงแรมแห่งเดียวที่ตั้งภายในป้อม Machu Picchu ทางภาคใต้ของเปรู หรือโรงแรม Hotel Splendido ใน Portofino ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งอิตาเลียนริเวียร่า รวมถึงโรงแรม Belmond Copacabana Palace ในเมืองรีโอเดอจาเนโร 

สิ่งที่น่าสนใจจากดีลนี้ คือการตอกย้ำว่า LVMH เป็นดาวเด่นรายล่าสุดที่พร้อมจะเขย่าตลาดการท่องเที่ยวและการบริการ high-end เนื่องจากก่อนหน้านี้ AccorHotels เชนโรงแรมใหญ่ก็ประกาศซื้อ FRHI ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของโรงแรมกลุ่ม luxury brand อย่าง Fairmont และ Raffles ถือเป็นความพยายามในการเสริมให้ AccorHotels มีโรงแรมชื่อหรูไว้ในมือมากขึ้นเพื่อโอกาสสร้างกำไรที่เหนือกว่า

เป็นไปตามกลยุทธ์ LVMH ระยะยาว

สำหรับกรณีของ Belmond และ LVMH นักลงทุนบางรายอาจสงสัยว่าการควบรวมกิจการนี้ดูเหมือนจะอยู่นอกจากกลุ่มธุรกิจหลักของ LVMH แต่นักวิเคราะห์ฟันธงว่าดีลนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ในระยะยาวของ LVMH ที่มุ่งเน้นการนำเสนอประสบการณ์ที่หรูหราเต็มรูปแบบแก่ผู้บริโภค

เพราะเหตุนี้ LVMH จึงยอมเทเงินซื้อ Belmond ในราคาที่แพงกว่าราคาตลาด โดย LVMH กล่าวว่าจะจ่ายเงินซื้อ Belmond ในราคา 25 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น Belmond ถือว่าเหนือกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของราคาปิดตลาดหุ้น Belmond เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

คาดว่าดีลนี้จะปิดได้ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า (2019) มูลค่าตลาดของ Belmond ขณะนี้อยู่ที่ 2,600 ล้านเหรียญ และเมื่อรวมหนี้สิน จึงถูกประเมินไว้ที่ 3,200 ล้านเหรียญ

สำหรับ Belmond ปัจจุบันบริษัทมีกำไร 140 ล้านเหรียญก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมราคา รายได้รวมคือ 572 ล้านเหรียญในช่วงสิงหาคม 2017 ถึง กันยายน 2018 อย่างไรก็ตาม หุ้น LVMH ร่วงลง 1.6% อยู่ที่ 251.65 ยูโรเพราะตลาดหุ้นยุโรปอ่อนตัว โดยนักวิเคราะห์ส่งสัญญาณถึงนักลงทุนในด้านบวก เพราะ Belmond ทำเงินได้สูงหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทำให้ Belmond ถูกมองว่าจะช่วยให้ LVMH สามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างเป็นรูปธรรม.

ที่มา