มรดกทางธุรกิจ ของบริษัทเทวกรรมโอสถ จำกัด เจ้าของแบรนด์ “น้ำมันมวย” ที่เริ่มต้นตั้งแต่สมัยรุ่นทวด ได้สืบทอดธุรกิจากรุ่นสู่รุ่น จนมาถึงทายาทรุ่นที่ 4 ที่มี พงษ์เทพ อินทรทัต เข้ามารับตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้า ส่งออกและการขาย ร่วมกับพี่ทั้ง 3 เพื่อส่งออกน้ำมันมวยไปสร้างชื่อในต่างแดน
ไม่บ่อยครั้งนักที่สินค้าเก่าแก่อายุ 50 ปี และทำตลาดเงียบๆ จะลุกขึ้นมาจัดงานแถลงข่าว แถมยังเลือกร้านฟาลาเบล่า ถนนราชดำริ เป็นสถานที่จัดงาน มีเหล่าเซเลบฯมาร่วมงานเพื่อเปิดตัวน้ำมันมวยรูปโฉมใหม่ ดูทันสมัย ที่พงษ์เทพและพี่ๆ ของเขาเตรียมวางขายในต่างประเทศ
พงษ์เทพ เพิ่งเข้ามาร่วมธุรกิจเพียงได้เดือนเดียว เขาจบด้านมนุษยศาสตร์ วิชาเอกภาษาญี่ปุ่น แต่ด้วยความที่ได้คลุกคลีกับกับธุรกิจที่บ้านมาตั้งแต่เกิด ทำให้เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงมาตลอด เมื่อมาบริหารธุรกิจครอบครัวอย่างจริงจัง เขาได้นำเอาความรู้ทางด้านการตลาด การขาย การส่งออก จากประสบการณ์จริงมาช่วยผลักดันให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้
ที่ผ่านมาน้ำมันมวยอยู่ในตลาดมาได้ต่อเนื่องยาวนาน 50 ปี มีส่วนแบ่งตลาด 95% แต่ด้วยที่ชื่อแบรนด์น้ำมันมวยมีความชัดเจนในตัวเอง ความนิยมใช้งานส่วนใหญ่จะอยู่ในหมู่นักกีฬา นักฟุตบอล นักมวย เป็นหลัก และวางขายได้เฉพาะร้านขายยา ซึ่งยอดขายส่วนใหญ่จะเป็นต่างจังหวัดรอบนอก
ในยุคลุงของเขาจึงคิดทำน้ำมันมวยชนิดครีมขึ้น เพื่อตอบโจทย์คนเมืองที่เล่นกีฬาและปวดเมื่อยจากการทำงาน ซึ่งนิยมใช้ยาชนิดครีมอยู่แล้ว
มาถึงยุคของเขา และพี่ๆ มองเห็นโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้าที่ใช้น้ำมันมวยชนิดครีมให้กว้างขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะนักกีฬา แต่ต้องการกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป เป็นกลุ่มคนทำงาน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปที่เล่นกีฬา ทำงานนานๆ แล้วปวดเมื่อย แม้จะมีคู่แข่งแบรนด์นอกครองตลาดอยู่ แต่จะจุดแข็งของแบรนด์คือความเป็นไทย ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่าแบรนด์นอก และครั้งนี้เขามองถึงการสร้างแบรนด์น้ำมันมวยไปวางขายทั่วโลก
โจทย์ใหญ่ของพวกเขา การออกแบบโลโก้และแพ็กเกจจิ้ง ที่ต้องน่าเชื่อถือ ต้องผ่านการพิจารณาจาก อย. ของแต่ละประเทศที่ไปวางจำหน่าย ขณะเดียวกันก็ต้องมีความทันสมัย และทำให้ลูกค้าจดจำได้ เพื่อบุกตลาดต่างประเทศ ทำให้โลโก้เป็นเรื่องสำคัญมาก
“เคยปรับโลโก้ พยายามทำให้มีลุคโมเดิร์นขึ้นแล้วไม่เวิร์ค แบรนด์น้ำมันมวยมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก เคยเปลี่ยนไปใช้ภาษาอังกฤษแล้วคนไม่หยิบเลย เพราะจำไม่ได้ มันยากตรงที่ว่า เราจะปรับBrand Image จนเสีย Brand Identity ก็ไม่ได้
กว่าจะมาลงตัว ทั้งการเลือกใช้ตัวอักษร และปรับสีต้องใช้เวลานาน สุดท้ายก็ยังต้องคงความเป็นไทยไว้เพื่อความน่าเชื่อถือ”
ทุกวันนี้ แบรนด์น้ำมันมวยจึงไปวางขายผ่านตัวแทนจำหน่ายในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และกำลังอยู่ระหว่างศึกษาตลาด จีนกับญี่ปุ่นเป็นประเทศเป้าหมายต่อไป
ส่วนตลาดในไทย ปีที่ผ่านมา น้ำมันมวยสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 80% บางปีสูงถึง 120% ส่วนน้ำมันมวยชนิดครีมที่เพิ่งวางตลาดได้เพียงปีเดียว สร้างยอดขายให้บริษัทได้ในสัดส่วนถึง 20% เขาเชื่อว่าจะเติบโตมากขึ้น
“น้ำมันมวยครีมได้รับการตอบรับดีจากเด็กมหาวิทยาลัย เขาชอบไปนวด ทำปาก เข้ายิมกันมากขึ้น ร้านนวดแผนโบราณใช้สินค้าเราเยอะมาก ถ้าเป็นนักกีฬาก็จะติดแบบน้ำมากกว่า”
ที่ผ่านมาน้ำมันมวยทำตลาดด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ เป็นสปอน์เซอร์ในงานกีฬาสี งานแข่งเรือประเพณีระดับจังหวัด เป็นการเจาะ Local Activity และมีการแจกสินค้าให้ทดลองใช้ เมื่อน้ำมันมวยชนิดครีมวางตลาด แผนการตลาดคือ ออกอีเวนต์ มีโรดโชว์ ทำกิจกรรมกับโรงเรียน มหาวิทยาลัย และออฟฟิศ เข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น มีการแจกสินค้าให้ทดลองใช้ งบการตลาดทั้งน้ำมันมวยและน้ำมันมวยชนิดครีม ใช้ 7-10% จากยอดขายรวม
Profile
Name พงษ์เทพ อินทรทัต
Age 35 ปี
Education
2543 ปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
2537 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
2533 Nakano Kuritsu Nakano Fujimi Chugakugo ประเทศญี่ปุ่น
Career Highlights
2552 ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าออกและฝ่ายขาย บริษัท เทวกรรมโอสถ จำกัด
2549-2552 ทำธุรกิจรีสอร์ต
2548-2549 ผู้ช่วยประธานกรรมการ เดอะ ควอลิตี้ กรุ๊ป
2546-2548 ฝ่ายขายและการตลาด ยัวซ่า เทรดดิง ไทยแลนด์ (บริษัท สยามสมุทร จำกัด)
2544-2546 ล่ามและผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไทยลอตเต้ จำกัด
Brand ชื่นชอบแบรนด์ลิปตันไอซ์ที
Lifestyle ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นมาก โดยเฉพาะราเมน
คติส่วนตัว ได้รับจากคุณปู่ “ทำอะไรทำให้ถึงที่สุด อย่ายอมแพ้ และพี่น้องต้องสามัคคีกันให้
ถึงที่สุด”
